เย่หยวนคำรามร้องพร้อมปล่อยตรานิพพานพุ่งออกไปอย่างรุนแรง ด้วยความเร็วที่มากมายนั้นมันจึงพุ่งเข้าปะทะร่างของเซียงหยุนเฟยในทันที
ภายใต้สายตาของทุกผู้คนที่จับจ้องมา ตาสีดำสนิทนั้นพุ่งพวยผ่านท้องนภาและปะทะเข้ากับร่างของเซียงหยุนเฟย
ตู้ม!
ตรานิพพานเข้าถึงตัวของเซียงหยุนเฟยก่อนทั้งๆ ที่ถูกปล่อยออกมาทีหลัง มันเข้าปะทะกับร่างนั้นอย่างแรกจนแหลกเละไม่เหลือชิ้นดีไป
ตอนนั้น ตอนที่เย่หยวนยังอยู่ในอาณาจักรบรรพชนพระเจ้า เขาสามารถที่จะใช้ตรานิพพานนี้สังหารนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสองดาวอย่างจิงลู่ลงได้ในการโจมตีเดียว
ตอนนี้เมื่อเขาบรรลุขึ้นสู่อาณาจักรวายุพระเจ้า พลังของการโจมตีนี้มันจึงยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอย่างไม่รู้กี่เท่าตัว
หากเซียงหยุนเฟยไม่ได้ใช้วิชานั้นในการหนี เขาก็อาจจะยังพอมีทางป้องกันตัวเองได้อยู่บ้าง แต่เมื่อเขาใช้มันออกมามันก็เท่ากับปิดทางรอดของตัวเองลง มันทำให้สภาพร่างกายของเขาแย่ลงอย่างมากและกลายเป็นได้แค่เป้าขยับได้ให้เย่หยวน
เย่หยวนนั้นเคยเห็นวิชาหลบหนีนั้นของศัตรูมาก่อนแล้ว มีหรือที่เขาจะยังไม่หาวิธีรับมือไว้และปล่อยให้เขาหนีไปได้อีก?
หัวหน้าเหอกับคนของเขาได้แต่มองภาพตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง
ในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วอึดใจ เย่หยวนกลับสามารถสังหารยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวลงได้อย่างเรียบร้อยไร้บาดแผล
พลังฝีมือขนาดนี้มันย่อมทำให้ผู้คนตื่นกลัว
“เจ้า… เจ้าบ้าเซียงหยุนเฟยมันไปทำให้สัตว์ประหลาดประเภทไหนโกรธกันล่ะเนี่ย?!”
หัวหน้าเหอนั้นตื่นกลัวอย่างถึงที่สุด เขานั้นทำการปล้นฆ่ารอบเมืองหลวงลาภสายน้ำมานานจนไม่สามารถนับได้แล้วว่ากี่ปี แต่เขาเองก็ยังไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ที่น่าหวาดกลัวขนาดนี้มาก่อนเลย
ตัวเขาเองก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนที่ขี้กลัวอะไรมากมาย ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่กล้าพอที่จะสังหารยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าเจ็ดดาวลงแน่ๆ
สำหรับคนอื่นๆ ที่เดินทางผ่านไปมา ตัวตนของเขาคนนี้คือฝันร้ายดีๆ นี่เอง
แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่ฝันร้ายได้เห็นฝันร้ายที่แท้จริง
การที่เย่หยวนสังหารเซียงหยุนเฟยลงได้ด้วยกระบวนท่าเดียวแบบนั้น พร้อมกับที่เย่หยวนยังคงลอยตัวอยู่บนฟ้าพร้อมมือที่ไขว้หลัง มันเป็นภาพที่ดูราวกับเทพเห็นสงครามจุติลงมาเอง
ร่างของหัวหน้าเหอสั่นเทา ไม่กล้าที่จะมองสบตากับเย่หยวนแม้แต่น้อย
“น-นายใหญ่ ข้า… ข้าผิดไปแล้ว! ขอร้องล่ะอย่าสังหารข้าเลย!”
หัวหน้าเหอนั้นคือคนที่ชอบวางแผนดักทำร้ายผู้คน แต่ตัวตนที่แท้จริงของเขานั้นเป็นคนที่ขี้กลัวไม่น้อย
การโจมตีฝ่ายเดียวของเย่หยวนนั้นได้ฝังภาพจำอันน่ากลัวลงในหัวของเขาทำให้เขาเสียความมั่นใจไปจนสิ้น ทำให้เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นอยู่ยงคงกระพัน
เพราะฉะนั้นเขาจึงเลือกที่จะยอมแพ้ทันที
เย่หยวนหัวเราะเย้ยและสั่งออกมา “เทียนปิง จัดการ! อย่าได้ปรานีผู้ใด!”
เขานั้นโกรธมาก เพราะหากไม่ใช่เพราะเจ้าลายที่เขาได้มาจากสายฟ้าในหมอกนั้น ป่านนี้ตัวเย่หยวนเองก็คงได้ลงไปนอนกองเป็นศพไปแล้วเช่นกัน
คนพวกนี้เป็นคนที่ร่วมมือกับเซียงหยุนเฟยเพื่อดักปล้นเขา ดูยังไงมันก็ไม่มีทางเป็นคนดีไปได้
หากไม่สังหารลงให้สิ้นความโกรธนี้ของเขาคงไม่มีทางดับหาย
หนิงเทียนปิงนั้นก็ไม่ต่างกันนัก หากก่อนหน้านี้เขาไม่ได้เสียงคำรามของเย่หยวนช่วยไว้จากลูกศรเหล่านั้น ป่านนี้เขาเองก็คงถูกยิงจนพรุนไปแล้ว
ความโกรธเคืองของเขาในตอนนี้นั้นไม่ได้น้อยไปกว่าเย่หยวนเลย
แต่เมื่อได้เห็นพลังที่เย่หยวนแสดงออกมา เขาก็ได้แต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่
รุนแรงมาก!
เมื่อได้เห็นความพิโรธนั้นของเย่หยวน มีหรือที่หัวหน้าเหอจะยังกล้าอยู่ต่อ? เขาร้องเสียงดังก่อนจะพุ่งตัวหนีไปในทันที!
แต่เขานั้นเอาจริงๆ แล้วมีพลังต่อสู้ที่ต่ำกว่าเซียงหยุนเฟยเสียอีก มีหรือที่จะหนีรอด?
คนทั้งสิบกว่านั้นแยกกระจายไปกันคนละทิศละทาง เย่หยวนหัวเราะเย้ยก่อนจะขยับร่างผ่านห้วงมิติและไปหยุดอยู่ตรงหน้าเหล่าคนที่กำลังหนีทั้งหลายนั้น
“โฮ่ก!”
เสียงคำรามของมังกรดังขึ้นสนั่นฟ้า ทำให้เหล่ายอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าที่กำลังคิดจะหนีต้องหยุดร่างลงทันที
พวกที่อ่อนแอหน่อยถึงขั้นถูกคลื่นเสียงแห่งเทพมังกรนั้นป่นทำลายจนแหลกเป็นผุยผง
หัวหน้าเหอนั้นสั่นไปทั้งร่าง ดวงตานั้นเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
เป็นเวลานี้เองที่เขาได้รู้ถึงความน่ากลัวของเสียงคำรามที่เย่หยวนใช้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...