“พระเจ้าช่วย ไม่แปลกใจเลยที่มันจะกล้าขึ้นสังเวียน ที่แท้มันเองก็เป็นสัตว์ประหลาดเช่นกัน!”
“แน่นอนสิ คนที่กล้าจะมาร่วมสังเวียนร้อยศึกได้ย่อมต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว!”
“หลี่คุนเองก็ประมาทศัตรูเกินไป ไม่เช่นนั้นด้วยพลังฝีมือของมันมีหรือที่จะพ่ายแพ้ง่ายๆ เช่นนี้”
…
คำพูดเดียวของนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาวคนนั้นเปลี่ยนคลื่นฝูงชนไปทันที
แนวคิดแห่งห้วงมิตินั้นเป็นยอดแนวคิดในตำนาน
จู่ๆ หากตำนานมาปรากฏตรงหน้า จะยังมีใครไม่ตื่นเต้นได้?
แต่ว่าพลังบ่มเพาะของเย่หยวนนั้นมันแสนจะชัดเจนต่อสายตาผู้คน ไม่ว่าแนวคิดแห่งห้วงมิติมันจะแข็งแกร่งปานใดแต่การจัดการหลี่คุนนั้นมันก็คงเรียกได้ว่าสุดที่จะทำแล้ว
ที่สำคัญพลังฝีมือของหลี่คุนเองก็ไม่ได้อ่อนแอ หากเขาคิดจะต่อสู้จริงๆ จังๆ มันย่อมไม่จบลงเช่นนี้แน่
สุดท้ายพวกเขาก็แค่เข้าใจว่าเย่หยวนใช้ประโยชน์จากความประมาทของศัตรูและบังเอิญเอาชนะมาได้
การต่อสู้ดำเนินต่อไป ตอนนี้เหล่าผู้เข้าสมัครในกลุ่มหกต่างก็ค่อยๆ แสดงพลังฝีมือของตัวเองออกมา
แต่การต่อสู้ในรอบแรกนั้นส่วนใหญ่มันเอามาใช้วัดพลังที่แท้จริงของใครไม่ได้นัก
เพราะแม้พวกเขาทั้งหลายจะนับว่าเป็นอัจฉริยะ แต่อัจฉริยะเองก็ยังมีระดับแตกต่างกันไป
แม้จะเป็นนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวเหมือนๆ กัน แค่หากมีพลังความเข้าใจในแนวคิดที่ต่างกัน มันก็ทำให้ความสามารถฝีมือแตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง
“ข้ารู้สึกว่าเกาชุนนั้นแข็งแกร่งไม่น้อย! เขาใช้แค่กระบวนท่าเดียวก็จัดการคู่ต่อสู้ลงได้แล้ว”
“แล้วก็ซ่งเทียนเฉียงผู้นั้นยังไม่ทันได้ชักอาวุธและจัดการศัตรูได้ด้วยมือเดียวด้วย”
“เซียโหหยุนเองก็ยังไม่ได้ขึ้นสู้เลย ข้าล่ะสงสัยจริงๆ ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน!”
…
ทุกคนต่างพูดคุยกันอย่างออกรสชาติ คาดเดากันไปว่าใครแข็งแกร่งแค่ไหน ใครอ่อนแอกว่าใคร
แต่สิ่งที่การต่อสู้รอบแรกมันแสดงออกมานั้นช่างน้อยอย่างแสนน้อย พวกเขาจึงได้แต่พยายามคาดเดาเอาจากความเร็วของการต่อสู้ว่าใครจบได้เร็วกว่า
แต่เหล่ายอดคนที่แท้จริงนั้นแทบจะยังไม่ได้แสดงพลังใดๆ ออกมาเลยแม้แต่น้อย
“ต่อไป เซียโหหยุนปะทะจางเฟิง!”
ตอนนั้นเองที่ในที่สุดชื่อของเซียโหหยุนก็ถูกเรียก
ทุกคนเริ่มมีสีหน้าตื่นเต้นขึ้นทันที พวกเขาต่างมองไปยังร่างของเซียโหหยุนอย่างไม่ละสายตา
คนทั้งสองมาถึงสังเวียนและขึ้นไปพร้อมๆ กัน
จางเฟิงนั้นมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก เขาไม่คิดว่าตัวเองจะโชคร้ายจนต้องมาเจอเซียโหหยุนตั้งแต่รอบแรกเช่นนี้
เพราะมันไม่มีทางใดที่จะชนะเลย!
“ข้าให้เวลาเจ้าสามอึดใจ จงยอมแพ้ไป หากนายน้อยผู้นี้ลงมือเจ้าคงไม่เหลืออะไรให้ยอมแพ้แล้ว! หนึ่ง…”
เซียโหหยุนนั้นแสดงออกมาอย่างดุดัน เริ่มทำการนับถอยหลังทันที
จางเฟิงเองก็มีสีหน้าที่แย่สุดขีด เหงื่อเม็ดโตไหลย้อยลงมาจากหน้าผากของเขาเพราะรู้สึกได้ถึงความกดดันที่มหาศาลตรงหน้า
แต่เซียโหหยุนนั้นไม่ได้ปล่อยปราณเทวะของตัวเองออกมาเสียด้วยซ้ำ เขาแค่ยืนตรงนั้นเฉยๆ
“สอง…”
“ข้า…ข้ายอมแพ้!”
แม้จะไม่อยากยอมอย่างสุดใจ แต่ที่สุดจางเฟิงก็ต้องเลือกขอยอมแพ้ไป เขาไม่กล้าแม้แต่ที่จะโจมตีอีกฝ่ายเสียด้วยซ้ำ
ตัวตนอันดุดันของเซียโหหยุนนั้นมันทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกได้ถึงแรงกดทับโดยตรง
ทุกคนรู้ดีว่าเซียโหหยุนนั้นศึกษาแนวคิดแห่งการทำลายล้าง เขาจึงมีพลังต่อสู้ที่สุดแสนจะสูงส่ง
คนที่ไม่มั่นใจจริงๆ ยังจะมีใครกล้าไปลอง?
แค่หมัดเดียวมันก็ลบร่างกายของผู้คนให้หายไปได้อย่างไม่มีโอกาสให้ได้ยอมแพ้!
หากเป็นคนอื่นพูดแบบนั้นมันคงเหมือนเป็นแค่เรื่องตลก
แต่สำหรับเซียโหหยุนแล้ว เขามั่นใจถึงขนาดนั้น!
อาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาวผสานกับแนวคิดแห่งการทำลายล้าง แนวคิดที่แสนทรงพลังเช่นนี้ ใครจะยังกล้าไปท้าทายเขาอีก?
นี่แหละคือยอดฝีมือที่แท้จริง!
ตัวตนที่เหนือล้ำกว่าทุกผู้คน!
“เซียโหหยุนนั้นมีพลังที่รุนแรงเกินไป! ข้า…แม้แต่ข้าก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดัน แค่จางเฟิงไม่คุกเข่าลงมันก็เยี่ยมยอดพอแล้ว”
“อืม แข็งแกร่งจริงๆ! แค่คำพูดเดียวก็ทำลายจิตใจอีกฝ่ายลงได้ คนแบบนี้เราจะเอาอะไรไปสู้ได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...