“เจ้าสังหารเขาลงจริง?” เย่หยวนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น
จิตสังหารของเย่หยวนในตอนนี้มันไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยกับราชันพยัคฆ์สวรรค์เลยแม้แต่น้อย
จริงๆ แล้วเมื่อพวกเขาได้เห็นมัน ความโกรธของเย่หยวนเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขามันก็เป็นได้แค่เรื่องตลก
ราชันพยัคฆ์สวรรค์หัวเราะออกมา “ดูท่าเจ้าจะสนิทสนมกับเสือขาวตัวนั้นมากนะ! แต่ความโกรธแค้นของเจ้ามันไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าข้าผู้นี้ นี่คือโลกที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก หากเจ้าไม่มีพลังฝีมือ ต่อให้จะโกรธแค้นมากมายเพียงใดเจ้าก็มีแต่ต้องกดเก็บมันไว้ในหัวใจเท่านั้น!”
ร่างของเย่หยวนสั่นสะท้าน สายตาอันเย็นเยือกนั้นจ้องมองออกมา “ข้าถามเจ้าว่าเจ้าได้สังหารเขาลงจริงไหม?”
“ฮ่าๆ ไอ้เด็กคนนี้มันคงโง่เกินเยียวยา ถึงขั้นยังไม่เห็นสภาพการณ์ตอนนี้อย่างชัดเจนอีก?”
“แค่เด็กระดับสี่คิดมาข่มขู่เขาพยัคฆ์สวรรค์เรา แถมยังทำท่าพูดจาใหญ่โต!”
“ไอ้เด็กที่ชื่ออิ้งหมัวหู่มันกล้ามาทำร้ายหู่ชิงจนบาดเจ็บสาหัส มันย่อมสมควรที่จะตายลงแล้ว!”
…
เหล่าสัตว์อสูรที่ติดตามราชันพยัคฆ์สวรรค์ต่างแสดงสีหน้าท่าทางเย้ยหยันออกมา
สำหรับพวกเขาแล้ว สำหรับยอดฝีมือแล้วการได้หยอกล้อเหล่าผู้อ่อนแอนั้นมันก็นับว่าเป็นความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง
ราชันพยัคฆ์สวรรค์หัวเราะลั่น “ทำไมเล่า ฆ่าก็ฆ่าสิ หรือว่าเจ้าคิดจะกลบฝังเขาพยัคฆ์สวรรค์ของเราลงได้จริง? เด็กน้อย ข้าไม่ได้บอกว่าเจ้าอ่อนแอหรอกนะ แต่ด้วยคนเช่นเจ้านี้? ไปรักษาหู่ชิงให้หายเสีย หากเจ้าคิดที่จะทำอะไรไม่เข้าท่ารับรองได้เลยว่าราชันผู้นี้จะทำให้เจ้าได้อยู่ในสภาพอยู่ไม่ได้ ตายไม่ดี!”
จู่ๆ ร่างของเย่หยวนก็กลับเป็นความสงบนิ่ง อาการสั่นเทาใดๆ จางหายไป ดวงตาที่มองไปยังราชันพยัคฆ์สวรรค์นั้นไม่เหลือเศษเสี้ยวความรู้สึกใดๆ
สภาพนี้ของเย่หยวนนั้นคือเวลาที่เขาโกรธแค้นจนไม่สามารถจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
นัยน์ตาของเขาเบิกกว้างและชักดาบจักรพรรดิล้ำฟ้าออกมาไว้ในมือ
เขาค่อยๆ เดินเข้าไปหาราชันพยัคฆ์สวรรค์
ราชันพยัคฆ์สวรรค์นั้นรู้สึกขำขันอย่างเปี่ยมหัวใจ “เด็กน้อย หากวันนี้เจ้าไม่ยอมรักษาหู่ชิง เรื่องราวที่จะติดตามมามันคงเหนือกว่าที่เจ้าจะคาดคิดได้แน่!”
ปัง!
จู่ๆ ราชันพยัคฆ์สวรรค์ก็ปล่อยคลื่นพลังออกมาจนทะลุฟ้า มันเป็นคลื่นพลังที่แสนรุนแรงจนทำให้เขาทั้งลูกต้องสั่นสะเทือน
ตอนนี้แม้แต่เหล่าลูกน้องของเขาเองก็ยังต้องทิ้งระยะห่างออกมาจากตัวเจ้านาย
ราชันพยัคฆ์สวรรค์นั้นเหยียบขึ้นไปถึงระดับหกได้แล้ว พลังในร่างของเขาจึงแสนที่จะรุนแรงเหนือกว่าที่นักยุทธทั่วๆ ไปจะต้านรับได้
แม้แต่เจ้าเมืองจักรพรรดิพยัคฆ์ใสก็ยังไม่พอที่จะต้านทานเขา แค่นั้นมันก็แสดงได้อย่างดีแล้วว่าตัวเขาเก่งกาจเพียงใด
แต่ทว่าคลื่นพลังนั้นยังไม่ทันไปถึงตัวเย่หยวนราชันพยัคฆ์สวรรค์ก็ต้องเบิกตากว้างออกมาด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
เพราะตอนนี้คลื่นพลังของเขากำลังถูกกดดันกลับมา
ร่างของเขาแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น
“ใคร… ท่านยอดฝีมือผู้ใดกัน? โปรดแสดงตัวด้วย!”
ไม่มีใครตอบกลับมา!
ราชันพยัคฆ์สวรรค์ตื่นตะลึงอยู่เต็มหัวใจ เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังใดๆ แต่ตอนนี้กลับไม่สามารถขยับร่างได้แม้แต่น้อย
เขาได้แต่มองดูเย่หยวนค่อยๆ เดินเข้ามาหาอย่างไร้ทางสู้
เช่นเดียวกัน ตอนนี้เหล่าสัตว์อสูรลูกน้องของราชันพยัคฆ์สวรรค์ก็ไม่สามารถที่จะขยับร่างกายได้
จู่ๆ ราชันพยัคฆ์สวรรค์ก็สะดุ้งตัวขึ้นมา เขานึกถึงคำพูดของเย่หยวนที่บอกในตอนแรกขึ้นมาได้
เขาบอกว่าจะกลบฝังเขาพยัคฆ์สวรรค์ไปพร้อมๆ กับอิ้งหมัวหู่!
เดิมทีเขามองมันเป็นแค่เรื่องตลก ไม่คิดไม่ฝันว่าเด็กราชันพระเจ้าคนนี้จะสามารถมีผู้ช่วยที่แข็งแกร่งปานนี้ได้!
เมื่อเห็นเย่หยวนค่อยๆ ก้าวเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ราชันพยัคฆ์สวรรค์ก็รู้สึกราวกับว่านั้นคือความตายที่กำลังคืบคลาน
ตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะปล่อยปราณอสูรเทวะออกมาปกป้องร่างกายได้ด้วยซ้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...