เชียนเย่มองดูสภาพของจงฮันหลินที่ตายลงแล้วอย่างแน่แท้ตรงหน้าด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
ภายใต้สายตาของทุกผู้คนนี้ เย่หยวนกลับกล้าสังหารผู้คน!
ผู้อาวุโสใหญ่แห่งโถงหน้ายอดดอกตูมสวรรค์คนนั้นเองก็มีใบหน้าที่เหยเกอย่างถึงที่สุด
เขาคิดว่าตัวเองนั้นมีชื่อเสียงอำนาจฐานะสูงส่งมากพอ แต่เย่หยวนกลับไม่คิดจะสนใจเขาแม้แต่น้อย
หากเขายังไม่ได้พูดยังพอว่า แต่เมื่อเขาพูดออกมา เย่หยวนกลับเหยียบลงสังหารจงฮันหลิน
“นี่มัน…
“ไอ้หมอนี่มันบ้ารึเปล่า? ข้าไม่เคยพบเคยเห็นใครกล้าฆ่าสังหารผู้คนในเขตแดนยอดรองทั้งเก้าเลย ไอ้หมอนี่มันรนหาที่ตายเสียแล้ว!”
“มันคงคิดจะตายตกตามกันแหละนะ ไอ้พวกนิกายบุปผาเหินมันก็ทำตัวเสียขนาดนั้น!”
…
เมื่อต้องมาเห็นภาพการแลกชีวิตเช่นนี้ทุกผู้คนต่างตื่นตะลึง
พวกเขาคิดได้แต่ว่าเย่หยวนนั้นไม่คิดลืมหูลืมตาในความแค้นที่มีและยอมที่จะตายตกตายไปกับจงฮันหลิน
ผู้ดูแลเจิ้งนั้นไม่พอใจอย่างมากและตะโกนร้องออกมาด้วยความโกรธแค้น “สารเลว! พวกเจ้าจัดการมันเสีย!”
ด้านหลังเขานั้นคือยอดฝีมือนภาสวรรค์สองคนที่ได้เตรียมการพร้อมจะลงมืออยู่ทุกเมื่อ
เมื่อได้ยินคำสั่งพวกเขาต่างพุ่งร่างเข้าหาเย่หยวนอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า
“หยุด!”
เสียงหนึ่งดังขึ้นมา เผยให้เห็นร่างของไป่หลี่ชิงหยานที่เข้ามาห้ามเย่หยวนอย่างทันท่วงที
เรื่องราวนี้มันทำให้เย่หยวนแปลกใจไม่น้อย
ไป่หลี่ชิงหยานหันมามองเย่หยวนด้วยความสับสน ใบหน้าของนางนั้นดูราวกับว่ามีคำพูดนับหมื่นพันที่ไม่ได้บอกกล่าว
แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาจะมาคุยกัน
การปรากฏตัวนี้ของไป่หลี่ชิงหยานมันทำให้ทุกคนตื่นตกใจมาก
“ผู้ดูแลเจิ้ง แม้ว่าเย่หยวนจะละเมิดกฎของนิกายแต่เรื่องราวทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นจงฮันหลินและเชียนเย่ที่ก่อขึ้นมาแต่ต้น! พวกเขาคิดสังหารเย่หยวนครั้งแล้วครั้งเล่า ข้ายืนยันได้!”
ไป่หลี่ชิงหยานในตอนนี้แตกต่างจากตอนที่นางเข้านิกายมาใหม่ๆ มาก
นางในตอนนี้ยังเป็นแค่เด็กไร้ประสบการณ์ใดๆ จึงมักถูกเจียงเชอเหยียนชักนำเสมอๆ เหมือนน้องสาวที่ได้แต่ตามพี่
แต่ตอนนี้บรรยากาศที่นางปล่อยออกมานั้นเป็นอะไรที่แตกต่าง
เมื่อนางพูด คำพูดนั้นมันกลับไม่มีความโกรธเคืองใดๆ เป็นท่าทางของผู้ปกครองอย่างแท้จริง
เวลาที่ผ่านมาร่วมสองร้อยปีนี้ไป่หลี่ชิงหยานได้บรรลุขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์มานานแสนนานแล้ว ตอนนี้นางมีพลังฝีมือไม่ด้อยกว่าเชียนเย่เลย
เพราะอย่างไรอัจฉริยะก็คืออัจฉริยะ ไม่มีใครจะมาห้ามหรือหยุดนางได้
เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนั้น คำพูดนี้มันกลับให้น้ำหนักที่แตกต่างจากคำของเย่หยวนจนทำให้ผู้ดูแลเจิ้งถึงขั้นไม่กล้าลงมือใดๆ
ตอนนั้นเองที่ผู้อาวุโสใหญ่แห่งโถงหน้าตอบกลับมา “หึ! ไป่หลี่น้อย ไอ้เด็กคนนี้มันแสนจะดื้อด้าน ถึงกับกล้ามาฆ่าสังหารยอดศิษย์แห่งยอดดอกตูมสวรรค์ต่อหน้าเฒ่าคนนี้! หากไม่ฆ่าสังหารมันลงเสียวันนี้วันหน้าผู้อาวุโสใหญ่แห่งโถงหน้าผู้นี้จะยังมีหน้าไปพบผู้คน?”
ในที่แห่งนี้เขามีพลังที่สูงที่สุดและยังมีฐานะที่สูงส่งกว่าใครๆ
แต่เย่หยวนกลับไม่คิดไว้หน้าเขาและตอนนี้เขาต้องเสียหน้าไปครั้งใหญ่
ไป่หลี่ชิงหยานยกมือขึ้นมาคารวะบอก “ผู้อาวุโสเถา เย่หยวนนั้นทำเรื่องเช่นนี้มันไม่ควรจริงๆ แต่ตอนนี้เขากำลังโกรธแค้นจนขาดสติ การทำเรื่องราวใดๆ นั้นมันย่อมไม่แปลก ไป่หลี่ชิงหยานผู้นี้ขออภัยแทนตัวเขาด้วย! แต่เรื่องในวันนี้ข้าน้อยอยากจะให้เย่หยวนได้ไปรับโทษกับโถงบังคับกฎและต่อสู้ความจริงกับเชียนเย่! ความผิดนี้ของเย่หยวนไม่สมควรถึงต้องตาย!”
เชียนเย่มองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้ม “เวลาก็ผ่านไปตั้งหลายปีแล้วยังต้องหลบหลังผู้หญิงอีก! ชาตินี้เจ้ามันคงได้แต่หลบหลังผู้หญิงเท่านั้นแหละ!”
ไป่หลี่ชิงหยานหันกลับมามองอย่างเยือกเย็น “เชียนเย่เจ้าหุบปากไป!”
เชียนเย่หัวเราะลั่น “ทำไม ข้าพูดอะไรผิดหรือ?”
ไป่หลี่ชิงหยานนั้นกำลังจะพูดสวนกลับแต่เป็นเย่หยวนก็เดินขึ้นมารับหน้าไว้ก่อน “เชียนเย่ ไอ้เจ้าคนหลงตัวเอง! ครานี้เจ้าไม่โชคดีอีกแน่! วันนี้ข้าจะจัดการสะสางความแค้นแต่เก่าก่อนให้สิ้น!”
เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้นมาทุกคนต่างมองดูเย่หยวนราวกับเขาเป็นคนโง่
ไอ้น้อง ตอนนี้เจ้าแทบเอาตัวไม่รอดแล้วรู้ไหม?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...