ยอดอัจฉริยะไร้เปรียบของตระกูลเล้ง ศิษย์แห่งคฤหาสน์พันทะยาน เล้งชิวหลิงกลับพูดจาขึ้นมาขัดพ่อของตัวเองไว้?
การเปลี่ยนแปลงนี้มันกะทันหันจนเกินรับ
“ชิวหลิง เจ้าว่าอย่างไรนะ?” เล้งหงซิ่วเองก็ตื่นตกใจจนต้องถามขึ้นมาย้ำอีกครั้ง
เขารู้ดีว่าลูกสาวของเขานั้นเป็นคนว่านอนสอนง่าย ไม่มีทางใดที่จะขัดขืนคำสั่งของเขาอย่างไร้เหตุผลแน่
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
เล้งชิวหลิงกล่าวขึ้นมา “เรื่องใดที่ผิดที่ถูก ทุกคนเองก็น่าจะรู้กันอยู่แก่ใจแล้ว สิ่งที่พี่เล้งห่าวทำนั้นมันไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนายน้อยผู้สืบทอดตระกูลจริงๆ ท่านพ่อ ข้าขอเสนอว่าให้พี่เล้งซู่เขาอยู่ในตำแหน่งผู้สืบทอดต่อไปเถอะ”
ความเงียบงันเข้าปกคลุมอีกครั้ง!
ไม่มีใครคาดคิดว่าเล้งชิวหลิงจะกลับกล้าพูดเช่นนี้ออกมาต่อหน้าทุกผู้คน
ตอนนี้แม้แต่เล้งซู่เองก็ตกตะลึงอย่างมาก
เล้งชิวหลิงนั้นเข้าคฤหาสน์พันทะยานไปตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ เขาย่อมไม่ค่อยได้พูดคุยพบปะกับนางมากนัก แน่นอนว่าสายสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองมันย่อมไม่ได้สนิทกันใดๆ
แต่ทำไมนางถึงได้ลุกขึ้นมาพูดปกป้องเขาเช่นนี้?
ส่วนด้านเล้งห่าวที่ได้ยินคำพูดของเล้งชิวหลิงนั้นก็ต้องเบิกตากว้างออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เพราะแม้จะเป็นฝัน เขาก็ไม่เคยคิดเคยฝันว่าเล้งชิวหลิงจะกล้าพูดอะไรเช่นนี้ออกมาในเวลาอย่างนี้!
ในสายตาของเขาแล้ว คนที่จะไม่ทรยศเขามากที่สุดมันย่อมเป็นพ่อลูกเล้งหงซิ่ว
แต่เล้งชิวหลิงกลับเป็นคนที่ลุกขึ้นมาพูดปิดฉากชีวิตของเขา!
แม้ว่าเล้งชิวหลิงจะเป็นแค่เด็กรุ่นใหม่ของตระกูลเหมือนๆ กับเขา แต่สถานะของนางนั้นมันเหนือล้ำกว่าที่จะเทียบเคียงกันได้
นางนั้นมิใช่แค่ความภาคภูมิใจของตระกูลเล้ง แต่นางนั้นคือความภาคภูมิใจของเมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยานทั้งหมดทั้งสิ้น
เล้งชิวหลิงนั้นปกติแล้วย่อมไม่คิดจะมาสนใจเรื่องราวเล็กๆ ในตระกูลเล้ง สายตาและขอบเขตความคิดของนางนั้นมันเหนือล้ำกว่าเรื่องราวในระดับตระกูลเล้งไปแล้ว
แต่วันนี้นางกลับพูดขึ้น!
คำพูดของเล้งชิวหลิงนั้นมันหนักหนาสาหัสมีน้ำหนักมากกว่าเอาคำพูดของเหล่าผู้เฒ่าผู้อาวุโสทั้งหลายมารวมกันเสียอีก!
เล้งหงซิ่วได้แต่ขมวดคิ้วแน่นเมื่อนึกถึงสภาพของลูกสาวในตอนนั้นเขาก็เริ่มเข้าใจขึ้นมาได้ทันที
เย่หยวนคนนี้คงเป็นเย่หยวนคนนั้น!
เว้นเสียแต่ว่าเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเด็กเย่หยวนคนนี้มีเบื้องหลังที่ใหญ่โตด้วย?
เพราะไม่เช่นนั้นมีหรือที่ลูกสาวของเขาจะทำการไม่ไว้หน้าพ่อต่อหน้าผู้คนเช่นนี้?
“ในเมืองหลิงเอ๋อว่าเช่นนั้น…” ในที่สุดเล้งหงซิ่วก็ยอมรับคำของลูกสาวและกำลังคิดจะประกาศผลออกมา
ตอนนี้ใบหน้าของเล้งห่าวนั้นซีดเผือดอย่างถึงที่สุด ความพยายามหลายต่อหลายปีของเขากลับไม่อาจเทียบคำพูดเดียวของเล้งชิวหลิงได้!
เขาไม่อยากยอมรับมัน!
“เดี๋ยวก่อน!” แต่เวลานั้นเองที่เล้งซู่กลับพูดขึ้นมาขัด
เล้งหงซิ่วขมวดคิ้วแน่นแต่ก็ยังปล่อยเล้งซู่กล่าวออกไป “พี่เล้งห่าว ข้าเคยบอกท่านไปแล้วว่าตำแหน่งนายน้อยใดๆ นี้ข้าไม่เคยคิดสนใจมัน! สิ่งที่ข้าให้ความสำคัญมากที่สุดคือครอบครัวและสหาย! น่าเสียดายที่ท่านพี่ของข้าที่ข้านับถือเหมือนเป็นพี่น้องท้องเดียวกันนั้นกลับทิ้งตัวห่างจากข้าไปเรื่อยๆ วันนี้ข้าไม่ได้มาสู้กับท่านเพื่อแย่งตำแหน่งนายน้อยใดๆ ข้าแค่จะมาเพื่อบอกทุกคนว่าข้าเล้งซู่ ไม่เคยคิดที่จะอยากได้ตำแหน่งนายน้อยผู้สืบทอดตระกูลนี้เลย จากวันนี้ไป ข้าเล้งซู่ขอสละตำแหน่งนายน้อยแห่งตระกูลเล้ง!”
เรื่องนี้มันทำให้ทุกคนมึนงงอย่างมาก
เมื่อทุกคนคิดไปแล้วว่าผลลัพธ์เรื่องใครจะเป็นนายน้อยมันได้เปลี่ยนไปเพราะคำพูดของเล้งชิวหลิง แต่จู่ๆ ตัวเล้งซู่กลับลุกขึ้นมาบอกว่าตัวเองจะสละตำแหน่งเสียอย่างนั้น
เย่หยวนมองดูภาพตรงหน้านี้ด้วยรอยยิ้ม
เขารู้ดีว่าคนที่กล้าทำอย่างเล้งซู่นี้มันมีไม่มาก
เพราะอย่างไรเสียการได้เป็นนายน้อยของตระกูลใหญ่มันก็เท่ากับว่าจะได้ทรัพยากรต่างๆ มากมาย เรื่องนี้คงไม่มีใครจะรู้ดีไปกว่าเล้งซู่แล้ว
แต่เขานั้นกลับปฏิเสธมัน โดยไม่คิดจะขัดขืนแย่งชิงใดๆ
ในสายตาของเย่หยวนแล้วไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรการบ่มเพาะใดๆ มันก็ย่อมไม่สำคัญเท่าเส้นทางที่คนใช้เดินด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะมีทรัพยากรมากมายแค่ไหน มันก็ไม่มีทางเลยที่จะสำคัญเท่าเส้นทางชีวิตของคน
พลังที่แท้จริงคือพลังของตน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...