“ช่างเป็นกลิ่นอายโอสถที่รุนแรง! หากคนเหล่านั้นได้มาเห็นพวกมันทั้งหลายคงได้เริ่มเข่นฆ่าสังหารกันอีกแน่”
เมื่อเห็นทั้งขวดโอสถและสมุนไพรทั้งหลายตรงหน้าเย่หยวนก็อดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทางปวดหัวขึ้นมา
ด้วยการนำของเจ้าหมูสมบัติ สุดท้ายแล้วพวกเย่หยวนก็ได้มาถึงโถงข้างที่เต็มไปด้วยเม็ดโอสถและสมุนไพร
หากคาดเดาไม่ผิด ที่แห่งนี้คงเป็นห้องที่จอมเทพนิรันดร์ใช้ในการเก็บเหล่ายาโอสถทั้งหลายไว้
เมื่อหมูสมบัติเห็นกองโอสถตรงหน้าสองตาของมันก็ลุกโชนก่อนจะพุ่งตัวออกไปราวสายฟ้าเข้าไปกัดกินขวดโอสถทั้งหลายอย่างตะกละตะกลาม
คุณภาพของเหล่าโอสถทั้งหลายนี้ย่อมไม่ต้องพูดถึง เมื่อเย่หยวนกวาดตามองเขาก็พบว่าพวกมันนั้นเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหกขึ้นไปทั้งสิ้น แถมยังมีอีกหลายต่อหลายเม็ดที่ขึ้นไปถึงระดับเจ็ด
โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดนั้นมันเป็นสิ่งของที่มีประโยชน์ต่อเทพสวรรค์อย่างมาก
“หืม? นี่มันอะไรกัน?”
เย่หยวนเห็นว่าที่มุมของโต๊ะหนึ่งนั้นมีขวดใบน้อยวางเรียงรายกันไว้หลายใบพร้อมด้วยคลื่นพลังอันแสนรุนแรงที่ถูกปล่อยออกมา
โฮก!
เมื่อเปิดขวดใบหนึ่งออกดูเขาก็ได้ยินเสียงของมังกรคำรามลั่นฟ้าจนแทบทำให้ทั้งโถงถล่มทลายลงมา
เย่หยวนรีบปิดฝาขวดนั้นลงด้วยความตื่นตกใจ “นี่มันเลือดแท้มังกรฟ้า! ภายในขวดใบน้อยนี้มันคงมีเลือดแท้มังกรฟ้าเก็บไว้อยู่หลายหยดหยาด”
คุณค่าของเลือดแท้นี้มันมหาศาล แค่หยดเดียวผู้คนก็แย่งกันจนถึงเป็นถึงตาย
หากเลือดแท้เหล่านี้ถูกเอาไปวางไว้ด้านนอกมันคงทำให้ผู้คนบ้าคลั่งอยากครอบครองเป็นแน่
นั่นทำให้เย่หยวนลังเลไม่น้อยก่อนจะเรียกอิ้งหมัวหู่และหนิงเทียนปิงออกมา
“นายใหญ่!”
“พี่ใหญ่!”
เย่หยวนยื่นขวดเลือดแท้พยัคฆ์ขาวให้แก่อิ้งหมัวหู่และเลือดแท้เต่าดำให้แก่หนิงเทียนปิง ก่อนจะพูดกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ในนี้มันมีเลือดแท้พยัคฆ์ขาวและเลือดแท้เต่าดำ พวกเจ้านำมันไปหลอมกลั่นเถอะ มันน่าจะช่วยเพิ่มพลังความสามารถให้พวกเจ้าได้อย่างมหาศาล”
เมื่ออิ้งหมัวหู่เปิดฝานั้นออกเขาก็พบกับเสียงคำรามร้องของพยัคฆ์ขาวลั่นออกมาจนเขาหน้าของเขาต้องเปลี่ยนสี “ม-มากขนาดนี้?”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “เจ้านั้นมีกายเนื้อของพยัคฆ์ขาวอยู่แล้ว เมื่อนำเลือดแท้ของพยัคฆ์ขาวมาหลอมด้วยมันคงส่งผลประโยชน์ให้เจ้าได้มากกว่าคนผู้อื่นเป็นเท่าตัว”
อิ้งหมัวหู่นั้นกล่าวตอบกลับมาด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจ “ขอบคุณมากพี่ใหญ่! ข้าขอตัวเข้าเก็บตัวเพื่อหลอมมันก่อนล่ะ!”
“ขอบคุณนายใหญ่!” หนิงเทียนปิงเองก็พยายามที่จะกดความตื้นตันนี้ไว้และกล่าวคำขอบคุณออกมา
หลายปีมานี้ทั้งอิ้งหมัวหู่และหนิงเทียนปิงต่างพยายามบ่มเพาะในโถงบัลลังก์ม่วงอย่างสุดตัวและก็สามารถบรรลุขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์มาได้ในที่สุด
เพียงแค่ว่าหากเทียบความเร็วกันแล้ว พวกเขานั้นไม่อาจเทียบเคียงเย่หยวนได้
เมื่อจบเรื่องราวเย่หยวนเองก็ไม่คิดลังเลและยกขวดเลือดแท้มังกรฟ้าขึ้นดื่มไปถึงสามหยดและเริ่มทำการหลอมกลั่นมัน
“ผู้อาวุโสขวังต้าว โปรดดูแลข้าด้วย ข้าขอตัวหลอมกลั่นเลือดแท้มังกรฟ้าก่อน”
“ขอรับนายน้อย!”
ตงน้อยหรี่ตามอง “เจ้าดื่มเลือดแท้มังกรฟ้าไปถึงสามหยดในคราเดียว เจ้าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วหรือ?”
เย่หยวนยิ้ม “ข้ากลัวแค่ว่ามันจะไม่พอเสียด้วยซ้ำ!”
เมื่อเลือดแท้มังกรฟ้าไหลลงท้องไปเย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังที่แสนบ้าคลั่งจนทำให้คลื่นพลังจากร่างของเขาต้องปั่นป่วน
หลังจากผ่านไปได้สองชั่วโมงในที่สุดเย่หยวนก็เบิกตาลืมขึ้น ตอนนี้เขาสามารถบรรลุขึ้นมาถึงอาณาจักรลายพระเจ้าสี่ดาวได้แล้ว
ตงน้อยได้แต่มองดูภาพตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง “เจ้ามันใช้วรยุทธ์บ่มเพาะแบบไหนกันแน่? หลอมเลือดแท้มังกรฟ้าไปถึงสามหยดแต่กลับทำได้แค่บรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์ขึ้นมาอีกหนึ่งดาว! ที่สำคัญความเร็วการหลอมกลั่นของเจ้านี้มันจะเร็วไปหน่อยไหม?”
เล้งชิวหลิงนั้นใช้เวลากว่าหลายเดือนเพื่อที่จะหลอมเลือดแท้วิหคชาดแค่หยดเดียว แต่เย่หยวนกลับใช้เพียงแค่สองชั่วโมงในการหลอมเลือดแท้มังกรฟ้าถึงสามหยด
ความเร็วนี้มันเหนือล้ำสามัญสำนึก
เย่หยวนยิ้ม “เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยกันวันหน้า ตอนนี้เรารีบออกไปจากที่แห่งนี้กันก่อนดีกว่า ภายในวังสวรรค์นิรันดร์นี้มันน่าจะยังมีสมบัติอีกมากมาย ไปเดินดูกันต่อก่อน”
จู่ๆ เจ้าหมูสมบัติก็ร้องขึ้นและพุ่งตัวเข้ามาสู่อ้อมอกของตงน้อยก่อนจะหลับลงในทันที
เย่หยวนจึงได้แต่หันไปมองดูด้านหลังด้วยความตื่นตกใจ เหล่าโอสถทั้งหลายนั้นไม่ได้มีน้อยนิด แต่เจ้าหมูน้อยนี้กลับกลืนกินมันไปจนหมดสิ้นไม่เหลือสิ่งใดไว้
เขาได้แต่ตื่นตะลึงอยู่ในหัวใจ เจ้าหมูสมบัตินี้มันเป็นสัตว์เลี้ยงประเภทใดกันถึงได้กลืนกินทุกสิ่งอย่างไปได้เช่นนี้
โอสถที่มากมายขนาดนี้ถ้าเอาไปให้ผู้คนทั่วๆ ไปกินแล้วร่างกายของพวกเขาคงต้องระเบิดแหลกเป็นซาก แต่เจ้าหมูสมบัตินี้กลับสามารถคงร่างอยู่ได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...