จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1881

“ช่างเป็นกลิ่นอายโอสถที่รุนแรง! หากคนเหล่านั้นได้มาเห็นพวกมันทั้งหลายคงได้เริ่มเข่นฆ่าสังหารกันอีกแน่”

เมื่อเห็นทั้งขวดโอสถและสมุนไพรทั้งหลายตรงหน้าเย่หยวนก็อดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทางปวดหัวขึ้นมา

ด้วยการนำของเจ้าหมูสมบัติ สุดท้ายแล้วพวกเย่หยวนก็ได้มาถึงโถงข้างที่เต็มไปด้วยเม็ดโอสถและสมุนไพร

หากคาดเดาไม่ผิด ที่แห่งนี้คงเป็นห้องที่จอมเทพนิรันดร์ใช้ในการเก็บเหล่ายาโอสถทั้งหลายไว้

เมื่อหมูสมบัติเห็นกองโอสถตรงหน้าสองตาของมันก็ลุกโชนก่อนจะพุ่งตัวออกไปราวสายฟ้าเข้าไปกัดกินขวดโอสถทั้งหลายอย่างตะกละตะกลาม

คุณภาพของเหล่าโอสถทั้งหลายนี้ย่อมไม่ต้องพูดถึง เมื่อเย่หยวนกวาดตามองเขาก็พบว่าพวกมันนั้นเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหกขึ้นไปทั้งสิ้น แถมยังมีอีกหลายต่อหลายเม็ดที่ขึ้นไปถึงระดับเจ็ด

โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดนั้นมันเป็นสิ่งของที่มีประโยชน์ต่อเทพสวรรค์อย่างมาก

“หืม? นี่มันอะไรกัน?”

เย่หยวนเห็นว่าที่มุมของโต๊ะหนึ่งนั้นมีขวดใบน้อยวางเรียงรายกันไว้หลายใบพร้อมด้วยคลื่นพลังอันแสนรุนแรงที่ถูกปล่อยออกมา

โฮก!

เมื่อเปิดขวดใบหนึ่งออกดูเขาก็ได้ยินเสียงของมังกรคำรามลั่นฟ้าจนแทบทำให้ทั้งโถงถล่มทลายลงมา

เย่หยวนรีบปิดฝาขวดนั้นลงด้วยความตื่นตกใจ “นี่มันเลือดแท้มังกรฟ้า! ภายในขวดใบน้อยนี้มันคงมีเลือดแท้มังกรฟ้าเก็บไว้อยู่หลายหยดหยาด”

คุณค่าของเลือดแท้นี้มันมหาศาล แค่หยดเดียวผู้คนก็แย่งกันจนถึงเป็นถึงตาย

หากเลือดแท้เหล่านี้ถูกเอาไปวางไว้ด้านนอกมันคงทำให้ผู้คนบ้าคลั่งอยากครอบครองเป็นแน่

นั่นทำให้เย่หยวนลังเลไม่น้อยก่อนจะเรียกอิ้งหมัวหู่และหนิงเทียนปิงออกมา

“นายใหญ่!”

“พี่ใหญ่!”

เย่หยวนยื่นขวดเลือดแท้พยัคฆ์ขาวให้แก่อิ้งหมัวหู่และเลือดแท้เต่าดำให้แก่หนิงเทียนปิง ก่อนจะพูดกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ในนี้มันมีเลือดแท้พยัคฆ์ขาวและเลือดแท้เต่าดำ พวกเจ้านำมันไปหลอมกลั่นเถอะ มันน่าจะช่วยเพิ่มพลังความสามารถให้พวกเจ้าได้อย่างมหาศาล”

เมื่ออิ้งหมัวหู่เปิดฝานั้นออกเขาก็พบกับเสียงคำรามร้องของพยัคฆ์ขาวลั่นออกมาจนเขาหน้าของเขาต้องเปลี่ยนสี “ม-มากขนาดนี้?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “เจ้านั้นมีกายเนื้อของพยัคฆ์ขาวอยู่แล้ว เมื่อนำเลือดแท้ของพยัคฆ์ขาวมาหลอมด้วยมันคงส่งผลประโยชน์ให้เจ้าได้มากกว่าคนผู้อื่นเป็นเท่าตัว”

อิ้งหมัวหู่นั้นกล่าวตอบกลับมาด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจ “ขอบคุณมากพี่ใหญ่! ข้าขอตัวเข้าเก็บตัวเพื่อหลอมมันก่อนล่ะ!”

“ขอบคุณนายใหญ่!” หนิงเทียนปิงเองก็พยายามที่จะกดความตื้นตันนี้ไว้และกล่าวคำขอบคุณออกมา

หลายปีมานี้ทั้งอิ้งหมัวหู่และหนิงเทียนปิงต่างพยายามบ่มเพาะในโถงบัลลังก์ม่วงอย่างสุดตัวและก็สามารถบรรลุขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์มาได้ในที่สุด

เพียงแค่ว่าหากเทียบความเร็วกันแล้ว พวกเขานั้นไม่อาจเทียบเคียงเย่หยวนได้

เมื่อจบเรื่องราวเย่หยวนเองก็ไม่คิดลังเลและยกขวดเลือดแท้มังกรฟ้าขึ้นดื่มไปถึงสามหยดและเริ่มทำการหลอมกลั่นมัน

“ผู้อาวุโสขวังต้าว โปรดดูแลข้าด้วย ข้าขอตัวหลอมกลั่นเลือดแท้มังกรฟ้าก่อน”

“ขอรับนายน้อย!”

ตงน้อยหรี่ตามอง “เจ้าดื่มเลือดแท้มังกรฟ้าไปถึงสามหยดในคราเดียว เจ้าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วหรือ?”

เย่หยวนยิ้ม “ข้ากลัวแค่ว่ามันจะไม่พอเสียด้วยซ้ำ!”

เมื่อเลือดแท้มังกรฟ้าไหลลงท้องไปเย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังที่แสนบ้าคลั่งจนทำให้คลื่นพลังจากร่างของเขาต้องปั่นป่วน

หลังจากผ่านไปได้สองชั่วโมงในที่สุดเย่หยวนก็เบิกตาลืมขึ้น ตอนนี้เขาสามารถบรรลุขึ้นมาถึงอาณาจักรลายพระเจ้าสี่ดาวได้แล้ว

ตงน้อยได้แต่มองดูภาพตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง “เจ้ามันใช้วรยุทธ์บ่มเพาะแบบไหนกันแน่? หลอมเลือดแท้มังกรฟ้าไปถึงสามหยดแต่กลับทำได้แค่บรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์ขึ้นมาอีกหนึ่งดาว! ที่สำคัญความเร็วการหลอมกลั่นของเจ้านี้มันจะเร็วไปหน่อยไหม?”

เล้งชิวหลิงนั้นใช้เวลากว่าหลายเดือนเพื่อที่จะหลอมเลือดแท้วิหคชาดแค่หยดเดียว แต่เย่หยวนกลับใช้เพียงแค่สองชั่วโมงในการหลอมเลือดแท้มังกรฟ้าถึงสามหยด

ความเร็วนี้มันเหนือล้ำสามัญสำนึก

เย่หยวนยิ้ม “เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยกันวันหน้า ตอนนี้เรารีบออกไปจากที่แห่งนี้กันก่อนดีกว่า ภายในวังสวรรค์นิรันดร์นี้มันน่าจะยังมีสมบัติอีกมากมาย ไปเดินดูกันต่อก่อน”

จู่ๆ เจ้าหมูสมบัติก็ร้องขึ้นและพุ่งตัวเข้ามาสู่อ้อมอกของตงน้อยก่อนจะหลับลงในทันที

เย่หยวนจึงได้แต่หันไปมองดูด้านหลังด้วยความตื่นตกใจ เหล่าโอสถทั้งหลายนั้นไม่ได้มีน้อยนิด แต่เจ้าหมูน้อยนี้กลับกลืนกินมันไปจนหมดสิ้นไม่เหลือสิ่งใดไว้

เขาได้แต่ตื่นตะลึงอยู่ในหัวใจ เจ้าหมูสมบัตินี้มันเป็นสัตว์เลี้ยงประเภทใดกันถึงได้กลืนกินทุกสิ่งอย่างไปได้เช่นนี้

โอสถที่มากมายขนาดนี้ถ้าเอาไปให้ผู้คนทั่วๆ ไปกินแล้วร่างกายของพวกเขาคงต้องระเบิดแหลกเป็นซาก แต่เจ้าหมูสมบัตินี้กลับสามารถคงร่างอยู่ได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ