จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1945

“ประตูวิญญาณมรณา?” ไป๋เฉินถามขึ้นมาด้วยความสงสัยเพราะมันเป็นชื่อที่ฟังไม่คุ้นหูเอาเสียเลย

แต่ที่ด้านล่างตอนนี้เล้งชิวหลิงกลับมีใบหน้าที่ขาวซีด

“ไป๋เฉิน ประตูวิญญาณมรณานั้นมันมีชื่อฉาวโฉ่ในมหาพิภพถงเทียนทั้งปล้น ฆ่า วางเพลิงความเลวร้ายของพวกมันนั้นไร้จำกัด นักยุทธ์ทั้งหลายเมื่อได้ยินชื่อนี้ต่างต้องกลัวจนตัวสั่นทั้งยังเรื่องที่ประตูวิญญาณมรณานั้นแสนลึกลับไม่มีใครทราบได้ว่าที่กบดานของพวกมันนั้นอยู่ที่ใด ไปไหนมาไหนราวกับผีร้าย ผู้คนทั้งหลายได้แต่ร่ำร้องหวาดกลัวความทรมานที่จะตามพวกมันไป”

เสียของเล้งชิวหลิงที่กล่าวขึ้นมานี้มันทำให้ใบหน้าของไป๋เฉินต้องถอดสี

“หึๆ ดูท่าเมืองนี้มันจะยังพอมีคนฉลาดอยู่บ้าง เจ้านั้นได้รู้แล้วว่าประตูวิญญาณมรณาของข้านั้นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะมาต่อต้านได้ จงรีบไปเรียกเย่หยวนออกมาเสียไม่เช่นนั้นแล้วอย่าหาว่าข้านั้นเสียมารยาท” ชายผู้นั้นร้องบอก

“ท่านอาจารย์นั้นเข้าเก็บตัวมานานหลายปีแล้วและคงไม่อาจมาพบเจอเจ้าได้ หากเจ้าคิดอยากได้โอสถจริงๆ ก็ไว้ค่อยมาใหม่” ไป๋เฉินแสดงสีหน้ามืดดำออกมา

ชายคนนั้นจึงหัวเราะขึ้น “คนที่ประตูวิญญาณมรณาข้าอยากพบเจอ ต่อให้มันจะนอนตายอยู่ในโลงศพมันก็ต้องลุกมาพบเจอข้า!”

คำพูดนี้มันสุดแสนที่จะอวดดีไม่คิดสนใจไป๋เฉิน เทพถ่องแท้ผู้นี้อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

ไป๋เฉินขมวดคิ้วแน่นพร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “รบกวนการเก็บตัวของผู้คนนั้นมันเปรียบเหมือนฆ่าสังหารบิดามารดาของผู้คน! เจ้าคนโอหังจะไร้เหตุผลเกินไปแล้ว!”

แต่ชายคนนั้นกลับตอบออกมาอย่างไม่สนใจ “สังหารบิดามารดาผู้คนนั้นเป็นสิ่งที่โม่ชิงคนนี้ได้กระทำมาอย่างไม่อาจนับครั้งได้! ฆ่าลงอีกสักครั้งจะมีปัญหาใด? ในเมื่อมันไม่ออกมาแล้วข้าก็จะเริ่มการเข่นฆ่าสังหาร เริ่มจากเจ้าก่อนแล้วกัน!”

พูดจบโม่ชิงก็ปล่อยคลื่นพลังออกจากร่างทำให้พลังโลกของเทพถ่องแท้ถูกปลดปล่อยพร้อมด้วยหมอกหนาสีดำสนิทเป็นคลื่นพลังที่ทำให้ผู้สัมผัสต้องขนลุกซ่าไปทั้งกาย

“เทพถ่องแท้หนึ่งดาวขั้นสุด!” ไป๋เฉินหน้าถอดสีทันทีที่สัมผัสได้

เขานั้นเพิ่งจะบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพถ่องแท้มาได้ยังไม่ถึงสิบปีและตอนนี้ยังทำได้เพียงแค่เริ่มจัดกำลังให้เข้าที่เข้าทางเท่านั้น

ไม่ว่าจะอย่างไรเสียมันก็ไม่มีทางจะรับมือโม่ชิงผู้นี้ได้

ความแตกต่างของระดับขั้นในอาณาจักรเทพถ่องแท้นั้นมันย่อมจะยิ่งใหญ่กว่าของอาณาจักรนภาสวรรค์อย่างมาก

ต่อให้พวกเขานั้นจะอยู่ในอาณาจักรและดาวเดียวกันมันก็ยังมีความแตกต่างที่ราวฟ้าดินเกิดขึ้นได้

“หึๆ แค่คนอย่างเจ้า เด็กน้อยที่เพิ่งขึ้นอาณาจักรเทพถ่องแท้มานี้ก็กล้าจะต่อต้านข้าแล้ว? ห้าผีเบิกทวาร!”

โม่ชิงยกมือสองข้างออกมาพร้อมปล่อยหัวกะโหลกห้าหัวให้พุ่งออกมาจากแขนเสื้อของตนเป็นลำแสงพุ่งตรงใส่ไป๋เฉินทันที

ไป๋เฉินได้แต่กัดฟันแน่นพร้อมชักหอกยาวสีดำทมิฬออกมา

หอกยาวนี้เป็นสมบัติเทพถ่องแท้เลิศล้ำขั้นกลางที่เย่หยวนยอมจ่ายไปมากมายเพื่อซื้อมันมาจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาว

ด้วยหอกนี้ในมือไป๋เฉินก็ปล่อยคลื่นพลังโต้กลับมาบ้าง

เจ้าหัวกะโหลกทั้งห้านั้นส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาดังก้องกังวานอยู่ในหูของไป๋เฉิน

ไป๋เฉินนั้นตื่นตกใจอย่างมากและพยายามตั้งสติให้ได้มากที่สุด ใช้พลังจิตศักดิ์สิทธิ์เพื่อขับไล่เสียงของหัวกะโหลกเหล่านั้น

แต่เสียงร้องโหยหวนของเจ้าหัวกะโหลกทั้งห้านั้นมันราวกับมีเวทมนตร์ทำให้ไป๋เฉินไม่อาจตั้งสติได้เลย

ไป๋เฉินนั้นไม่คิดยอมแพ้รอความตาย ยกหอกยาวขึ้นมาโบกสะบัดปล่อยคลื่นพลังอันมหาศาลออกมาสู่โลกภายนอก

พลังปะทะนี้ทำให้เสียงกัดกินวิญญาณนั้นเงียบหายไปทันที

‘เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!’

วิชาหอกนี้ถูกใช้ออกราวกับฝนพิรุณที่ตำกระหน่ำ ไม่เปิดโอกาสให้หัวกะโหลกทั้งห้านั้นได้มีโอกาสใดๆ

โม่ชิงที่เห็นเช่นนั้นจึงได้แต่เยาะเย้ยขึ้น “เจ้าหนู แค่ลำพังพลังของอาวุธเจ้าไม่อาจเก่งกาจได้หรอก! ในเมื่อเจ้าคิดรนหาที่ตายแล้วข้าก็จะส่งเจ้าไปเอง!”

พูดจบวิชาที่เขาใช้ออกมาก็เปลี่ยนไป ตอนนี้หัวกะโหลกทั้งห้านั้นเริ่มเปิดปากออกมาพ่นควันหมอกสีดำเข้าหาไป๋เฉิน

นั่นทำให้สีหน้าของไป๋เฉินซีดเผือดลงทันที รู้สึกราวกับว่าวิชาหอกของเขานั้นกำลังถูกเจ้าหมอกนี้ดูดกลืนเข้าไป

‘ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!’

กะโหลกทั้งห้านั้นมีจิตรวมเป็นหนึ่ง ภายใต้การควบคุมของโม่ชิงนี้มันจึงไม่มีช่องว่างให้ตอบกลับใดๆ ได้เลย

“ห้าผีทลายยมโลก!”

ความเร็วของกะโหลกทั้งห้านั้นจู่ๆ ก็เพิ่มสูงขึ้นจนทำให้ดวงตาของไป๋เฉินแทบมองตามมันไม่ทัน

‘ปึก!’

เสียงดังก้องสนั่นขึ้นเพราะหัวกะโหลกนั้นได้พุ่งทะลุผ่านพลังโลกของไป๋เฉินเข้ามา ชนเข้ากับม่านป้องกันปราณเทวะของเขาส่งร่างของเขาให้ลอยลิ่วปลิวไป

ไป๋เฉินรู้สึกได้ถึงรสชาติในลำคอก่อนจะกระอักเลือดออกมาคำโต

เว้นเสียแต่ว่ามันยังไม่จบเพียงเท่านี้

กะโหลกทั้งห้านี้ตามติดกันมาอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้หายใจแม้แต่น้อย พวกมันนั้นคิดจะตามเข้ามาปิดบัญชีชีวิตของเขา!

‘ปัง!’

การโจมตีสำเร็จอีกครั้งทำให้ตอนนี้ไป๋เฉินรู้สึกราวกับหน้าอกของตัวจะฉีกขาดลง

ต่อให้เขาจะมีความได้เปรียบด้านอาวุธแต่เขาก็ยังมิใช่คู่มือของโม่ชิง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ