จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1981

“ข้า… ขอยอมติดตามเจ้าไป!”

แม้ว่าเย่หยวนจะพูดออกมาด้วยท่าทางสบายๆ แต่อู๋เต้าย่อมจะเข้าใจได้ดีว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้ล้อเล่นอย่างแน่นอน

เย่หยวนพยักหน้า “ข้าจะดึงเจ้าเข้าไปแล้ว อย่าได้ขัดขืนไม่เช่นนั้นจะได้เจ็บตัวเปล่า”

นั่นทำให้ริมฝีปากของอู๋เต้าต้องสั่นกระตุก เขานั้นสุดท้ายถึงอย่างไรก็ไม่เต็มใจ

เขานั้นเป็นตัวตนอันยิ่งใหญ่ถึงเทพสวรรค์แต่วันนี้กลับต้องมากลายเป็นทาสของเจ้าหนูคนนี้ มีหรือที่ตัวเขาจะยอมรับมันได้ง่ายๆ?

เว้นเสียแต่ว่าตอนนี้เมื่อชีวิตอยู่ในกำมือของผู้คนแล้วตัวเขาก็ย่อมจะไม่มีทางเลือกอื่น

ในตอนนี้เรื่องราวทั้งหลายมันมิใช่สิ่งที่เขาจะตัดสินใจได้เอง

กว่าจะได้ออกมาจากการผนึกที่ยาวนานแต่วันนี้กลับต้องมาพบเจอเรื่องเช่นนี้

เขานั้นย่อมเจ็บแค้นอยู่ในหัวใจ!

ในเวลานั้นเองที่เกิดคลื่นพลังอันรุนแรงหนึ่งดึงดูดตัวอู๋เต้าจนหายวับไป

ภายในไข่มุกสยบวิญญาณมันมีหวู่เฉินคอยจัดการอยู่เย่หยวนย่อมจะไม่ต้องกังวลใดๆ

เดิมทีเขานั้นคิดที่จะทำลายอู๋เต้าทิ้งไปเสียแต่เมื่อลองนึกดูอย่างรอบคอบแล้วไม่ว่าจะอย่างไรแม้ตัวอู๋เต้าจะสูญเสียความทรงจำไป แต่สุดท้ายเขาก็เป็นถึงยอดฝีมือในอดีตกาล

บางทีในสักวันเย่หยวนอาจจะใช้งานใดๆ ตัวเขาได้สักอย่าง

“พี่เย่ รีบไปกันเถอะ เจ้าพวกมารกระดูกทั้งหลายนั้นเองก็ไม่ได้อ่อนแอนัก หากพวกมันกลับมาแล้วเราคงเลี่ยงการต่อสู้มิได้แน่” ซงหยูรีบบอก

เย่หยวนพยักหน้าและพาทุกผู้คนเดินกลับออกมา

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าระหว่างที่เดินออกมาจนถึงหน้าถ้ำพวกเขาก็ได้พบเข้ากับพวกซัวโม่และเฟิงเสี่ยวเถียนทั้งหลายเข้าเสียก่อน

แต่ตอนนี้เหล่าเด็กแห่งโชคชะตาที่มีฝีมือค่อนข้างอ่อนแอนั้นได้หายหน้าหายตาไปหลายคน ดูท่าคงจะตายลงไปเพราะการต่อสู้กับมารกระดูก

เมื่อพวกซัวโม่และเฟิงเสี่ยวเถียนได้เห็นพวกเย่หยวนสีหน้าของพวกเขาทั้งหลายก็เปลี่ยนไปทันที

เมื่อมองดูที่ถ้ำด้านหลังของเย่หยวน ซัวโม่ก็ถามขึ้น “ทำไมพวกเจ้าจึงมาอยู่ที่นี่? หรือว่า… ซากร่างเทพสวรรค์นั้นพวกเจ้าจะเก็บไปสิ้นแล้ว?”

เฟิงเสี่ยวเถียนเองก็เบิกตากว้างไม่แพ้กันแต่สิ่งที่เขากำลังจ้องมองและสนใจนั้นมันแตกต่างจากซัวโม่นิดหน่อย

“ซงหยู เจ้ากลับบรรลุขึ้นมาได้! ไม่สิ พวกเจ้า… บรรลุขึ้นมาได้ทุกผู้คนอย่างนั้นหรือ?”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นได้เห็นว่ามิใช่เพียงแค่ซงหยูที่บรรลุขึ้นมาเป็นเทพถ่องแท้สี่ดาว แต่ผู้คนทั้งหลายในกลุ่มเองก็ได้พัฒนาพลังบ่มเพาะขึ้นไปอย่างมาก บรรลุขึ้นมากกว่าหนึ่งดาวธรรมดาๆ ยกเว้นเสียแต่เย่หยวน

พวกเขาทุกคนในตอนนี้แทบจะขึ้นอาณาจักรเทพถ่องแท้สี่ดาวอยู่แล้ว

มันต้องเป็นโชคลาภเช่นใดที่จะสามารถทำให้ผู้คนทั้งหลายพัฒนาตัวไปได้ถึงขนาดนั้น? ถึงกับสามารถบรรลุขึ้นมาได้ง่ายๆ?

เมื่อเฟิงเสี่ยวเถียนพูดขึ้นซัวโม่เองก็ได้หันไปเห็นเช่นกันทำให้ความตื่นตกใจของเขานั้นไม่ได้น้อยไปกว่าคนอื่นๆ เลย

ตัวเฟิงเสี่ยวเถียนและซัวโม่นั้นมีรัศมีผ่าจักรพรรดิ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็ยังต้องไปเจอสมบัติอันล้ำค่าจึงสามารถบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพถ่องแท้สี่ดาวมา

ส่วนคนอื่นๆ ที่ตามพวกเขามานั้นย่อมจะไม่โชคดีปานนั้นแน่

แต่พวกซงหยูทั้งหลายนี้กลับบรรลุขึ้นมาได้พร้อมๆ กัน โชคลาภใดๆ ที่พวกเขาไปพบเจอนั้นมันย่อมจะต้องเหนือล้ำมหาศาลอย่างแน่นอน!

ซงหยูนั้นมีเพียงรัศมีจักรพรรดิ แน่นอนว่าทั้งเฟิงเสี่ยวเถียนและซัวโม่ย่อมจะดูถูกตัวเขาอยู่ไม่น้อย

แต่ใครจะไปคาดคิดว่าซงหยูและพวกนั้นกลับก้าวเดินขึ้นมาพร้อมๆ กับพวกเขาทั้งหลายได้อย่างง่ายดาย

“หึ พวกเจ้าคงตกใจมากล่ะสิ? ข้าที่มีเพียงรัศมีจักรพรรดิกลับสามารถตามความเร็วการบ่มเพาะของพวกเจ้าทั้งหลายผู้มีรัศมีผ่าจักรพรรดิได้ทัน!” ซงหยูตอบกลับไปด้วยท่าทางเย้ยหยัน

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นแสดงสีหน้าดำมืดออกมาก่อนจะจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงต่ำทุ้ม “ข้าขอถามเจ้าอีกครั้ง พวกเจ้าเอาซากร่างเทพสวรรค์นั้นไปหมดแล้วใช่หรือไม่?”

ซงหยูตอบด้วยรอยยิ้ม “หากใช่แล้วจะทำไม?”

ซัวโม่มองดูซงหยูด้วยสายตาเย็นเยือก “ส่งมันมาแล้วข้าจะละเว้นเจ้าจากความตาย!”

ตอนนี้ตัวเขาได้บรรลุอาณาจักรเทพถ่องแท้สี่ดาวทำให้ความมั่นใจใดๆ ของเขานั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย

ด้วยความช่วยเหลือจากเฟิงเสี่ยวเถียนแล้วตัวเขาย่อมไม่คิดว่าซงหยูจะต้านทานใดๆ ได้

ส่วนพลังของเย่หยวนนั้นแม้ว่ามันจะน่ารำคาญอยู่บ้างแต่ตัวเขาที่บรรลุขึ้นอาณาจักรเทพถ่องแท้ขั้นกลางมาได้แล้วมันย่อมจะเหนือล้ำกว่าอีกฝ่ายอย่างไม่อาจเทียบเคียง

ต่อให้เย่หยวนจะมีสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ แต่มันก็ย่อมจะไม่มีทางเทียบเคียงเขาได้อีกต่อไป!

“หึๆ ช่างเป็นคำพูดที่อวดดีเสียจริง! หากเจ้ามีปัญญาก็มาเอามันไปเองสิ!” ซงหยูกล่าวท้า

“หึ! ไอ้เจ้าโง่! คลื่นจันทร์ตะวันตก!”

พูดจบซัวโม่ก็ยกมือขึ้นเข้าโจมตีอย่างรุนแรงและฉุนเฉียวไม่คิดจะเจรจาใดๆ อีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ