“หืม? พวกเจ้าทั้งหลายนั้นยังไม่คิดจะมาอีกหรือ? หรือว่าพวกเจ้าคิดจะค้าน?”
โจวหยูเห็นว่าพวกเย่หยวนไม่คิดขยับจึงได้แต่ร้องถามขึ้นด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น
เขานั้นไม่นึกไม่ฝันว่าแม้จะเชือดไก่ให้ลิงดูไปแล้วคนทั้งหลายนี้ก็ยังไม่คิดจะเชื่อฟังคำสั่งของเขา
ด้วยความที่เย่หยวนยังไม่คิดขยับตัว เฟิงเสี่ยวเถียนเองก็ย่อมไม่คิดจะขยับเคลื่อนไปไหน
โจวหยูนั้นมีพลังฝีมือที่เหนือล้ำจริง แต่เย่หยวนเองก็ไม่ต่างกัน!
เขานั้นไม่อาจวัดได้ว่าระหว่างโจวหยูและเย่หยวนนั้นใครกันที่จะแข็งแกร่งกว่า แต่สิ่งที่เขามั่นใจคือเย่หยวนนั้นสามารถฆ่าสังหารเขาได้ด้วยมือข้างเดียว
“พี่เย่ ท่านดูสิ… เราจะไม่ไปกับพวกเขาหรือ?” เฟิงเสี่ยวเถียนถามขึ้นด้วยท่าทางหวาดๆ
เย่หยวนหันไปมองอีกฝ่ายก่อนจะบอกขึ้น “เจ้าอยากไปก็ไป ข้าจะรออีกหน่อย”
เฟิงเสี่ยวเถียนที่ได้ยินเช่นนั้นก็อดไม่ได้จะทำหน้าหนักใจ
‘ไปหรือ?
ข้าจะกล้าไปหรือ?
ข้านั้นได้ลบหลู่เจ้าไปอย่างมากแล้ว หากตอนนี้ข้าไปแล้วเจ้าลงมือออกมาข้าจะไม่ต้องตายลงอย่างโง่ๆ หรือ?
แต่ไม่ไป… ข้าก็จะไม่ถูกเจ้าบ้าโจวหยูนี่สังหารเอาหรือ?’
เฟิงเสี่ยวเถียนได้แต่คิดอยู่ในใจอย่างไม่อาจตัดสินใจได้ว่าจะเลือกทางไหน
เมื่อโจวหยูเห็นว่าเย่หยวนไม่คิดสนใจเขา ใบหน้าของเขาก็เริ่มแดงขึ้นมาด้วยความไม่พอใจในทันที
แต่เมื่อเขาได้เห็นว่าเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นกลับดูมีท่าทางเกรงใจเทพถ่องแท้สองดาวนี้ เขาก็ตื่นตกใจอยู่ไม่น้อย
และเมื่อดูสีหน้าของพวกซงหยูทั้งหลายนั้น ดูท่าแล้วเย่หยวนคนนี้คงเป็นแกนนำของกลุ่มอย่างแน่นอน
“เจ้าเด็กคนนี้ ข้าพูดกับเจ้า เจ้าได้ยินหรือไม่?” โจวหยูถามขึ้นพร้อมมองดูเย่หยวน
“ทัพมารกระดูกนั้นมันมิใช่ศัตรูที่จะกำจัดได้ง่ายๆ เราควรรอต่ออีกหน่อย มีคนมาเพิ่มมันก็ย่อมจะเท่ากับกำลังที่เพิ่ม” เย่หยวนบอก
ตัวเขานั้นเคยเข้าไปต่อสู้กับเหล่ามารกระดูกมาก่อนแล้วและย่อมจะรู้ดีกว่าใครว่ามันเป็นศัตรูที่ยุ่งยากเพียงใด
แม้ว่าตัวเย่หยวนนั้นจะสามารถต่อสู้เปิดทางกลับมาได้แต่ผู้คนทั้งหลายนั้นก็ไม่ได้มีปราณเทวะที่หนาแน่นอย่างที่ตัวเขามี
เมื่อต้องเจอกับมารกระดูกเทพถ่องแท้สี่ดาวมากมายเมื่อใดก็ตามที่ปราณเทวะของพวกเขาหมดสิ้นลง มันคงได้แต่ต้องนั่งรอความตาย
ที่สำคัญกำลังของเหล่ามารกระดูกนั้นมันก็มีมากมายหลายระดับ
พวกตัวอ่อนๆ นั้นเย่หยวนสามารถทำลายมันลงด้วยกระบวนท่าเดียว
แต่พวกที่แข็งแกร่งนั้นแม้จะเป็นเย่หยวนก็ยังรับมือได้ยาก
แม้ว่าดาบสลักกลวงจะแข็งแกร่งเพียงใดแต่เขานั้นก็สามารถใช้มันออกมาได้แค่ครั้งเดียว
เมื่อไม่ถึงตาจนจริงๆ ตัวเขาย่อมไม่คิดจะใช้มันออกมา
เว้นเสียแต่ว่าโจวหยูที่มาถึงทีหลังย่อมจะไม่รู้เรื่องราวทั้งหลายนั้น
และเมื่อเย่หยวนไม่คิดเล่า เฟิงเสี่ยวเถียนเองก็ย่อมไม่กล้าจะเล่าใดๆ
เมื่อได้ยินคำของเย่หยวนโจวหยูก็กล่าวขึ้นด้วยท่าทางไม่พอใจ “ดูท่ามันจะยังมีคนที่ไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรเลวร้าย! ในเมื่อการเชือดไก่ให้ลิงดูเมื่อสักครู่มันไม่พอใจเจ้า อย่างนั้นก็จงดูมันอีกรอบแล้วกัน!”
โจวหยูผู้นี้มีนิสัยดุร้ายมีอะไรก็คิดสังหาร พุ่งตัวเข้ามาโจมตีในทันทีอย่างที่ไม่มีใครจะมองตามทัน
“ตราประทับความเป็นความตาย!”
เย่หยวนนั้นเตรียมรับมือมานานแสนนานจึงได้ปล่อยตราประทับความเป็นความตายออกมารับการโจมตีจากกระบองของโจวหยู
‘ปัง!’
คนทั้งสองต้องก้าวถอยหลังไปหลายก้าวก่อนจะหยุดยืนกับที่ได้
นั่นทำให้สีหน้าของโจวหยูเปลี่ยนไปอย่างมหัน ไม่นึกไม่ฝันว่าเทพถ่องแท้สองดาวน้อยๆ คนหนึ่งนี้จะรับการโจมตีนี้ไว้ได้!
ก่อนหน้าเขานั้นสามารถทำลายสังหารเทพถ่องแท้สี่ดาวลงได้ด้วยการโจมตีเดียว!
“เจ้าเด็กคนนี้มันแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?” โจวหยูได้แต่มองดูภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง
คนทั้งหลายเองที่ได้เห็นเช่นนั้นก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันที พวกเขาทั้งหลายนั้นล้วนคิดว่าเมื่อกระบองนี้ถูกฟาดออกตัวเย่หยวนคงแหลกสลายลงแน่แล้ว
แต่ใครจะไปคิดไปฝันว่าเย่หยวนกลับยืนอย่างมั่นคงโดยไม่มีบาดแผล!
แน่นอนว่าพวกเขาทั้งหลายไม่ได้คิดว่าโจวหยูจะมีฝีมืออยู่เพียงแค่นี้ การโจมตีนี้ตัวเขาคงไม่ได้ใช้พลังออกมาทั้งหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...