“เทพสวรรค์เจาหยวน! พระเจ้าช่วย กำลังฝีมือของเขานั้นไม่ได้ต่ำไปกว่าเหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายเลย ตัวเขากลับคิดร่วมวงด้วย!”
“เทพสวรรค์เจาหยวนนั้นไม่ค่อยจะเข้าข้างใครจึงไม่มีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์คนใดเชิญตัวเขามานั่งตำแหน่งปรมาจารย์ แต่พลังฝีมือของตัวเขานั้นมันไม่ได้ต่ำกว่าเหล่าปรมาจารย์ที่ถูกเชิญมาเลย!”
“เย่หยวนเล่นใหญ่เกินรับแล้ว เท่านี้เมื่อคนในงานชุมนุมโอสถเมฆาได้เห็นความจริงตัวเขาก็คงไม่อาจทนอยู่ในงานชุมนุมโอสถเมฆาได้อีกต่อไป!”
…
เมื่อชายแก่คนนี้เปิดปากพูดขึ้นเหล่าคนทั้งหลายที่ด้านล่างต่างก็ร่ำร้องขึ้นทันที
เช่นนี้แล้วพวกเขายิ่งจะอยากดูความน่าสมเพชของผู้คนมากไปใหญ่
ตอนนี้แม้แต่เทพสวรรค์เปียวหยูเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างมองดูเทพสวรรค์เจาหยวน ไม่นึกไม่ฝันว่าเขาเองก็จะร่วมวงกับคนทั้งหลายด้วย
เพราะฝีมือของเหล่าปรมาจารย์เองนั้นมันก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
หากจะพูดถึงยอดคนผู้ยืนเหนือวิชาการโอสถในแดนใต้แล้วมันก็ย่อมจะเป็นเทพสวรรค์ดันหยู่ผู้มีเต๋าโอสถอาณาจักรบรรพกาล
และตอนนี้เขาก็ยังเป็นแค่อาณาจักรบรรพกาลเพียงผู้เดียวในแดนใต้
ส่วนเหล่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกที่เหลือนั้นล้วนแล้วแต่อยู่ในอาณาจักรเต๋าขั้นสุดและขั้นปลาย
ส่วนเหล่าปรมาจารย์ที่ถูกเชิญมานั้นก็จะยิ่งอ่อนแอลงไปอีก
และเหล่าเทพสวรรค์ห้าอันดับแรกนั้นมันไม่ได้มีพลังฝีมืออ่อนแอกว่าปรมาจารย์ทั้งหลายเลย
เทพสวรรค์ซืออี้นี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดี!
เพราะเดิมทีเขานั้นเป็นถึงคนที่นั่งอยู่บนที่นั่งปรมาจารย์ในงานชุมนุมโอสถเมฆาครั้งก่อนๆ
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเมื่อเขาร่วงลงมาจากตำแหน่งแล้ว เทพสวรรค์เจาหยวนกลับยังสามารถได้อันดับเหนือกว่าตัวเขา แค่นี้มันก็มากพอที่จะอธิบายความเก่งกาจของเทพสวรรค์เจาหยวนแล้ว
หากจะให้เทพสวรรค์เจาหยวนไปนั่งบนตำแหน่งปรมาจารย์มันคงไม่มีใครคิดค้าน!
จากท่าทางของทุกผู้คนในเวลานี้เย่หยวนย่อมจะเข้าใจทันทีว่าเทพสวรรค์เจาหยวนผู้นี้ไม่ธรรมดา
แต่มีหรือที่เย่หยวนคนนี้จะต้องกลัวสิ่งใด?
ในวิชาการโอสถนั้นมันไม่เคยมีใครที่จะบังคับให้เขาต้องก้มหัวให้ได้
ไม่มีทั้งในอดีต ปัจจุบันหรืออนาคตมันก็จะไม่มี!
“ได้ ข้าขอรับคำท้า!” เย่หยวนกล่าว
เทพสวรรค์เจาหยวนพยักหน้ารับออกมา “ได้เห็นปรมาจารย์อายุแค่พันกว่าปีเฒ่าคนนี้ก็แค่สงสัยใครรู้ อยากลองประลองดู”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “พี่เจาหยวน โปรดชี้แนะด้วย”
เทพสวรรค์เจาหยวนหัวเราะขึ้นมา “ข้าไม่กล้าพูดถึงขั้นชี้แนะใดๆ หรอก แต่หวังแค่ว่าเจ้าจะไม่ทำให้เทพสวรรค์ผู้นี้ผิดหวัง”
เย่หยวนนั้นย่อมจะมองออกทันทีว่าเทพสวรรค์เจาหยวนไม่ได้คิดหาเรื่องใดๆ กับตัวเขา เขานั้นแค่อยากจะประลองก็เท่านั้น
เรื่องราวเช่นนี้มันก็เหมือนตอนที่เย่หยวนท้าทายเทพสวรรค์เปียวหยูเมื่อครานั้น ต้องหาวิธีการต่างๆ นานา เพื่อจะท้าทายอีกฝ่าย
ในเวลานี้เทพสวรรค์ดันหยู่จึงยิ้มออกมา “หากเป็นเช่นนั้นงานชุมนุมโอสถเมฆาในครั้งนี้ก็จะเริ่มกันด้วยการท้าทายปรมาจารย์ก่อน”
จนสุดท้ายแล้วมันก็มีผู้ลุกขึ้นมาท้าทายถึงหกสิบสามคน มากเสียกว่าครึ่งของเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายที่มา
เมื่อเหล่าผู้คนทั้งหลายได้ยินคำประกาศนี้ทุกผู้คนต่างก็ต้องสูดลมหายใจเข้าลึก
การที่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวมากมายมาท้าทายจอมเทพโอสถหกดาวเช่นนี้มันย่อมจะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในมหาพิภพถงเทียน
ตอนนี้ภายในลานกว้างสังเวียนขนาดใหญ่ได้ถูกก่อตั้งขึ้น
ทุกผู้คนต่างมองไปยังชายหนุ่มบนสังเวียนนั้น
ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกระโดดขึ้นไปบนสังเวียนนั้นพร้อมสายตาที่สุดแสนดูถูกเย่หยวน
“เด็กน้อย ที่นี่มันมิใช่ที่ของเจ้า ที่ของเจ้ามันอยู่ทางนั้น!” เทพสวรรค์ผู้นั้นชี้ไปยังฝูงชนด้านล่าง “ทำไมเจ้าไม่ลองยอมรับผิดแล้วกลับลงไปเล่า? ข้าว่าคนทั้งหลายเองก็คงไม่ติดใจเอาความใดๆ เพราะเห็นแก่หน้าพี่เปียวหยู”
นั้นทำให้เกิดเสียงร้องเห็นด้วยขึ้นตามจากในฝูงชน
“เทพสวรรค์หลงยี่ท่านพูดถูกแล้ว นี่มันดูอย่างไรก็ทำให้ผู้คนต้องเสียเวลาเปล่า!”
“เทพสวรรค์หลงยี่นั้นเป็นถึงอาจารย์นักหลอมโอสถอาณาจักรเต๋าขั้นกลาง ใช้ชีวิตอยู่กับโอสถมานับแสนๆ ปี แค่จะจัดการกับจอมเทพโอสถหกดาวมันคงแสนง่ายดาย”
“จอมเทพโอสถหกดาวปะทะจอมเทพโอสถเจ็ดดาว ข้าไม่เคยได้ยินได้ฟังเรื่องเช่นนี้มาก่อนเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...