“เย่หยวน ขั้นเทวะม่วง!”
“เทพสวรรค์ฉิงหยู ขั้นยอดเยี่ยมสุด!”
“เทพสวรรค์จิ่วห่าว ขั้นยอดเยี่ยม!”
…
ห้าเทพสวรรค์กลุ่มหนึ่งพ่ายแพ้ ก็มีห้าเทพสวรรค์กลุ่มใหม่ขึ้นมา เพียงแค่ว่าสุดท้ายแล้วผลมันก็ยังเป็นความพ่ายแพ้อย่างราบคาบ!
อีกห้าถึงหกรอบต่อมามันก็ยังไม่มีผลลัพธ์ใดๆ เปลี่ยนแปลงไป
เย่หยวนนั้นยังคงหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะม่วงออกมา ส่วนเหล่าผู้ท้าชิงนั้นหลอมได้แค่ขั้นยอดเยี่ยมสุดหรือขั้นยอดเยี่ยมธรรมดาๆ
ไม่ว่าจะอย่างไรเสียมันก็ไม่มีใครบรรลุขึ้นถึงขั้นสวรรค์ได้
ไม่นานนักเหล่าเทพสวรรค์ด้านบนก็รู้สึกถึงความผิดปกติ
“ซี้ด… นี่มันไม่ถูกต้องแล้ว!” เทพสวรรค์เหลียวหมิงร้องบอกขึ้น
ที่ด้านข้างสหายของเขาเทพสวรรค์เฉิงเฟิงจึงยิ้มขึ้นมา “หึๆ เจ้าเองก็คงสัมผัสได้แล้ว? ปรมาจารย์เย่ผู้นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ!”
เทพสวรรค์เหลียวหมิงหันมาหา “เจ้าเห็นถึงมันก่อนแล้ว?”
เทพสวรรค์เฉิงเฟิงยิ้มตอบกลับไป “ลำดับการขึ้นสังเวียนนั้นมันถูกจัดตามพลังฝีมือของเทพสวรรค์ทั้งหลาย ซึ่งจะหมายถึงอันดับในที่นั่งด้วย ผู้ที่ขึ้นสังเวียนเวลานี้น่าจะอยู่ในอันดับสี่สิบถึงห้าสิบ พวกเขาทั้งหลายนั้นมีพลังฝีมือเหนือล้ำกว่าน้องหลงยี่มาก ให้พูดตามตรงแล้วต่อให้ปรมาจารย์เย่จะเก่งกาจปานใด มันก็น่าจะมีคนที่เริ่มบรรลุขึ้นถึงขั้นสวรรค์มาได้บ้างแล้ว แต่จนถึงตอนนี้มันก็ยังไม่มีใครที่จะบรรลุขึ้นขั้นสวรรค์มาได้แม้แต่คนเดียว!”
“นั่นมันย่อมจะหมายความว่าปรมาจารย์เย่นั้นมีฝีมือเหนือซ่อนไว้อยู่! นี่มัน… หรือจะบอกว่าเขานั้นเก่งกาจถึงขั้นปรมาจารย์จริงๆ?”
เทพสวรรค์เหลียวหมิงตื่นตะลึงอย่างมาก!
เดิมทีแล้วเขาย่อมจะคิดว่าเย่หยวนนั้นมีวิชาการอนุมานที่เหนือล้ำ แต่วิชาการหลอมจริงๆ มันอาจจะยังไม่แข็งแกร่งนัก
แต่ใครจะไปคิดฝันว่าแท้จริงแล้ววิชาการหลอมของเย่หยวนมันจะกลับน่ากลัวไม่แพ้การอนุมานของเขาเลย
เย่หยวนนี้เป็นชายหนุ่มที่ราวกับสัตว์ประหลาดจริงๆ!
เทพสวรรค์เฉิงเฟิงยิ้มตอบกลับมา “เรื่องที่ว่าเขาจะมีพลังฝีมือเทียบเท่าเหล่าปรมาจารย์หรือไม่ข้าก็ไม่ทราบ แต่ที่ข้าสนใจกว่าก็คือจะมีใครหรือไม่ที่จะทำให้เขาต้องแสดงฝีมือจริงๆ ออกมา”
การประลองโอสถนี้มันไม่เหลือใครที่จะยังสงสัยในฝีมือของเย่หยวนอีกต่อไป ทุกผู้คนต่างนั่งมองดูคาดหวังว่าพลังฝีมือที่แท้จริงของเขานั้นมันจะอยู่ในระดับใดกันแน่
หลังจากต่อสู้มาเรื่อยเวลานี้เหล่าจอมเทพโอสถห้าและหกดาวทั้งหลายต่างได้เปลี่ยนแนวความคิดกลายเป็นความชื่นชมเย่หยวนอย่างสุดตัว
พวกเขาทั้งหลายนั้นแตกต่างจากเหล่าเทพสวรรค์ เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายเย่หยวนก็ยังเป็นแค่เด็กหนุ่ม แน่นอนว่าการปล่อยให้คนเช่นนี้มาขี่คอเหยียบหัวมันย่อมทำให้เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายไม่พอใจ
แต่เย่หยวนนั้นคือคนรุ่นเดียวกับเด็กหนุ่มสาวทั้งหลายนั้น การที่เขาสามารถมีวิชาเหนือล้ำได้ปานนี้คนทั้งหลายจะยังคิดทำอะไรได้นอกจากชื่นชม?
หลังจากผ่านศึกไปสิบครั้งในที่สุดเย่หยวนก็ชนะอย่างขาดลอยโดยที่ไม่มีใครหลอมโอสถได้ถึงขั้นสวรรค์แม้สักคน
ผลลัพธ์เช่นนี้มันน่าตะลึงเกินไป
“ปรมาจารย์เย่ช่างน่ากลัวนัก จากวันนี้ไปเขานี่แหละคือแบบอย่างชีวิตของข้า ชีวิตนี้ข้าจะต้องหาโอกาสไปยืนต่อหน้าเขาให้ได้”
“กับพ่อเจ้าสิ! เมื่อกี้เจ้ายังว่าเขานั้นอวดดีโอหังเกินบรรยายอยู่เลย”
คนผู้นั้นหน้าแดงขึ้นทันทีที่ถูกว่า “นั่นมัน… เพราะข้ายังไม่รู้! ก่อนหน้านี้มีใครบ้างเล่าที่จะเชื่อว่าจอมเทพโอสถหกดาวนั้นจะเหนือล้ำก้าวขึ้นไปได้สูงปานนั้น!”
“เรื่องนั้นก็จริง เขาทำให้ข้าได้เปิดหูเปิดตาเสียจริงๆ”
…
หลังจากผ่านไปสิบศึก เย่หยวนก็ได้เอาชนะจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งห้าสิบคนลง ไม่ว่าจากนี้ไปใครจะชนะเหล่าเด็กหนุ่มสาวทั้งหลายก็ย่อมจะเชิดชูบูชาเย่หยวนกันยกใหญ่แล้ว
‘ฟุบ!’
เงาร่างหนึ่งพุ่งขึ้นมาบนสังเวียนด้วยใบหน้าเย้ยหยัน
“เทพสวรรค์ออหยุน! ในที่สุดก็ถึงตาเขาเสียที!”
“ทำไมหรือ? เทพสวรรค์ออหยุนนี้เก่งกาจมาก?” เสียงหนึ่งถามขึ้นด้วยความสงสัย
“หึ มากเสียกว่าคำว่าเก่งกาจ! เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดเทพสวรรค์เปียวหยูถึงได้เสนอให้สิบสามคนสุดท้ายสู้กับเย่หยวนแบบตัวต่อตัว เริ่มตั้งแต่เทพสวรรค์ออหยุน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
2970 อิหลินเสวียอิห่าราก ฟื้นขึ้นมาก็ทิ้งกันเลย😂...
พวกเมีย เพื่อนฝูง น้องๆ แม่งเป็นได้แต่ตัวถ่วง ตัวภาระ😂...
ตอนแรกๆอ่านยังไง...
DDD...