“มารอคน? หึ! ข้าว่าเจ้านั้นมาสร้างเรื่องเสียมากกว่า! ที่แห่งนี้มันไม่ต้อนรับเจ้า! เชิญ!”
จางถูนั้นรู้สึกเกลียดชังและเกรงกลัวเย่หยวนไม่น้อย ตอนนี้เขาแค่อยากจะไล่เจ้าเด็กคนนี้ไปให้พ้นๆ
แต่ตัวเขาเองก็ไม่กล้าจะไปยุ่มย่ามกับเย่หยวนมากมายนัก เพราะจิตใจของเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งปานนั้น
สุดท้ายเขาจึงได้แต่พูดไล่ออกไป
เย่หยวนเทสุราลงดื่มอีกจอกก่อนจะตอบกลับไป “เจ้าวางใจเถอะ หากข้าเสร็จธุระแล้วต่อให้เจ้าจะไปเชิญ ข้าก็คงไม่มาอีก”
เย่หยวนยกสุราของตนขึ้นมาดื่มจนทำให้ทั้งโรงเตี๊ยมมันเปี่ยมล้นไปด้วยกลิ่นหอมของสาดตะวันโอบ
เมื่อได้กลิ่นสุรานี้สุราเพลิงคลั่งใดๆ มันก็ไม่มีรสไม่มีชาติอีกต่อไป
ไม่ว่าจะดูอย่างไรเขาก็ต้องจงใจทำแน่
ภายในโรงเตี๊ยมน้อยๆ นี้ความเจ็บแค้นดวงใจจึงพุ่งทะยานขึ้น
มีหรือที่จางถูจะไม่เข้าใจว่าคนทั้งหลายนั้นคิดอย่างไร? เขานั้นคิดอยากจะเตะเย่หยวนออกไปจากร้านด้วยเท้าของตนเสียให้ได้ แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่ยอมจะไป
ไม่นานนักก็มีชายแก่ชุดเทาเดินเข้ามายังโรงเตี๊ยมเพลิงคลั่งนี้
เมื่อชายแก่คนนี้มาถึงเขาก็ตะโกนสั่งทันที “จางถู เฒ่าคนนี้ขอสุราเพลิงคลั่งสามไหพร้อมกับแกล้ม!”
เมื่อจางถูได้เห็นผู้ที่มาถึงนี้เขาก็รีบเข้าไปรับหน้าด้วยท่าทางสุภาพทันที “แหม! อาจารย์ซ่งเฉา ไม่ได้มาเสียหลายวันเลยนะ!”
ตอนนี้มันมิใช่แค่จางถู แต่คนทั้งหลายในโรงเตี๊ยมเวลานี้เมื่อได้เห็นซ่งเฉาแล้วพวกเขาต่างก็ลุกขึ้นยืนทำความเคารพชายแก่ตามๆ กัน
ดูท่าแล้วตำแหน่งของซ่งเฉาในชุมเก้าสายนี้มันคงสูงส่งไม่น้อย ไม่มีใครไม่รู้จักตัวเขา
ซ่งเฉาหัวเราะขึ้น “ข้ายุ่งกับการหลอมโอสถมาหลายวัน พอหลอมโอสถแล้วเสร็จท้องมันก็ร้องขึ้นมา ข้าเลยรีบมุ่งหน้ามาทันที อ่า นี่มันกลิ่นหอมนัก! เฒ่าถู ร้านเจ้ามีสุราใหม่หรือ? ทำไมมันถึงได้หอมหวนเช่นนี้?”
ซ่งเฉากล่าวถามขึ้นมาพร้อมจมูดที่พยายามสูดดมกลิ่นนั้น กลิ่นหอมของสุราชนิดนี้มันทำให้ตัวเขารู้สึกสดชื่นหัวใจอย่างมากมายมหาศาล
แต่เมื่อเขาถามขึ้นมาสีหน้าของจางถูก็เปลี่ยนไปทันที ไม่รู้จะต้องตอบมันว่าอย่างไร
แต่กลับเป็นคนชอบแส่เรื่องชาวบ้านผู้หนึ่งที่พูดขึ้นมาแทน “อาจารย์ซ่งเฉา สุรานั้นมันเป็นของที่เจ้าเด็กคนนั้นนำมาดื่มเอง”
ซ่งเฉาจึงได้หันไปมองดูเย่หยวนด้วยความตกตะลึงก่อนจะก้าวเดินเข้าไปหาทันที “เด็กน้อย สุรานี้กลิ่นดี ให้เฒ่าคนนี้ลองมันหน่อย”
คำพูดของเขานี้มันไม่มีการขอใดๆ แต่เป็นคำสั่ง
ความหมายของเขาก็คือ จะดื่มให้ได้ไม่ว่าเจ้าจะยอมหรือไม่!
เมื่อจางถูได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
‘เจ้าชอบอวดตัวนักมิใช่หรือ?’
‘ตอนนี้อาจารย์ซ่งเฉาท่านมาขอสุราของเจ้าแล้ว ขอดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะยังกล้าปฏิเสธหรือไม่!’
เย่หยวนนั้นไม่คิดเงยหน้ามองใดๆ รินสุราสาดตะวันโอบลงจอกตนเองก่อนจะเปิดปากขึ้นพูด “เจ้าคือซ่งเฉา?”
ซ่งเฉาที่ได้ยินก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นทันที ดูท่าคงไม่ชอบน้ำเสียงของเย่หยวนนี้สักเท่าไหร่ “ใช่แล้ว เฒ่าคนนี้นี่แหละซ่งเฉา เด็กน้อย สุรานี้…”
คำพูดของเขายังกล่าวไม่ทันจบเย่หยวนก็หยิบเอาจดหมายน้อยออกมาวางต่อหน้าเขา
“สารท้าดวล?”
ซ่งเฉานั้นผงะไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมา “เด็กน้อย เจ้าคิดจะท้าเฒ่าคนนี้? เจ้าคิดว่าเฒ่าคนนี้เป็นใครกัน?”
คนทั้งหลายที่ได้เห็นเองก็ต้องผงะไปตามๆ กัน เจ้าเด็กคนนี้มันบ้าไปแล้วหรือ?
“เจ้าเด็กคนนี้มันมาจากไหนกัน? หรือว่ามันจะเสียสติ? อาจารย์ซ่งเฉานั้นเป็นถึงหนึ่งในสามจอมเทพโอสถหกดาวที่เก่งกาจที่สุดในชุมเก้าสายเรา แต่ตัวมันที่เป็นแค่เด็กน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมกลับกล้าท้าทายอาจารย์ซ่งเฉา?”
“อาจารย์ซ่งเฉานั้นเป็นผู้มีตำแหน่งสูงส่ง มีหรือที่ใครก็จะสามารถท้าทายเขาได้?”
“เจ้าเด็กคนนี้มันคงบ้าอยากดังใช่ไหมล่ะเนี่ย? ถึงกับกล้าหาเรื่องสร้างจุดสนใจใหญ่โตขนาดนี้”
“อ่า! ข้ารู้แล้ว ที่แท้คนที่มันบอกว่ากำลังรออยู่ก็คืออาจารย์ซ่งเฉานี่เอง!”
…
ในเวลานี้เมื่อมีคนคิดขึ้นมาได้ คนทั้งหลายก็ถึงบางอ้อไปตามๆ กัน
หากแค่บอกว่าเจ้าเด็กคนนี้สังหารดาบสายฟ้าหวางเหิงลงด้วยกระบวนท่าเดียว คนทั้งหลายก็ย่อมจะพอเข้าใจได้
แต่ตอนนี้กลับคิดไปท้าทายซ่งเฉานั้น พวกเขาทั้งหลายย่อมจะไม่อาจทำใจยอมรับ
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียการฆ่าสังหารนั้นมันเป็นเรื่องปกติธรรมดาในทุ่งราบสุดอุดรนี้ การยกดาบทะเลาะกันมันเป็นสิ่งที่สุดแสนชินตาผู้คน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...