แกรก…แกรก แกรก
เสียงแตกร้าวเริ่มค่อย ๆ ดังขึ้นมาจากบนท้องฟ้ากว้างใหญ่ เวลานี้ดาบยักษ์ของเย่หยวนนั้นมันค่อย ๆ แตกร้าวออกมา
ตอนนี้บนตัวดาบนั้นมันค่อย ๆ เกิดเส้นรอยร้าวขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่อาจห้าม
เจตจำนงของสองยอดจักรพรรดิเทพสวรรค์นี้มันรุนแรงจนเกินไป
เมื่อได้เห็นว่าดาบนั้นมันใกล้จะหักลงเต็มทีจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูก็ยิ้มขึ้น “หึ ๆ! ข้าขอดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะยังไม่ตายได้อย่างไร! จะเรียกเจตจำนงแห่งดาบได้แล้วทำไมเล่า? ต่อให้เจ้าจะมีจิตเหนือล้ำฟ้าดินปานใดแต่เจ้าจะมีปัญญาต้านทานยอดคนทั้งสองท่านนี้พร้อม ๆ กันได้?”
เวลานี้ทั้งหม้อหลอมและฝ่ามือนั้นยังคงถูกกดดันลงมาเรื่อย ๆ โดยที่มีดาบยักษ์นั้นเป็นเสาค้ำยันไว้เพียงลำพัง
เพียงแค่ว่าเมื่อมองดูดาบนั้นแล้ว มันคงต้านทานพลังทั้งสองได้อีกไม่นาน
“เฮ้อ สุดท้ายก็ยังอ่อนแอกว่าหน่อย!”
“ในมหาพิภพถงเทียนนี้จะมีสักกี่คนที่ต้านทานพลังของยอดคนทั้งสองนี้พร้อม ๆ กันได้?”
“น่าเสียดายจริง ๆ รองมหาปราชญ์นั้นเป็นยอดคนแท้ ๆ!”
…
เสียงแสดงความเสียดายดังขึ้นไม่ขาดสายเพราะพวกเขานั้นเสียดายพรสวรรค์และอนาคตในวันหน้าของเย่หยวนที่กำลังจะต้องตายลง
แต่ทว่าท่ามกลางเสียงถอนหายใจนั้นเย่หยวนกลับได้ยกฝ่ามือขึ้นดันออกไปยังท้องฟ้ากว้างพร้อมคลื่นพลังที่รุนแรงล้ำ
“จิตวิญญาณมังกรของข้าค้ำจุนจักรวาล! จงปรากฏแก่ข้า!”
เย่หยวนร้องขึ้นมาพร้อมคลื่นลมแรงที่พัดทุกสิ่งอย่างปลิวไหวไป
จากนั้นไม่นานเจตจำนงมังกรที่รุนแรงไม่แพ้เจตจำนงแห่งดาบมันก็ได้พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
“โฮ่ก!”
เจ้ามังกรยักษ์นั้นเปิดปากร้องลั่นส่งเสียงอันโกรธแค้นไม่ยอมฟ้าดิน มันเป็นเสียงร้องที่ไม่หวาดกลัวผู้แข็งแกร่ง มันเป็นเสียงร่ำร้องของความไม่ยอมใคร
เจ้ามังกรยักษ์พุ่งทะยานขึ้นฟ้าไปรับฝ่ามือนั้นไว้
ปัง!
ดาบยักษ์ปะทะหม้อหลอมยักษ์ มังกรยักษ์ปะทะฝ่ามือยักษ์
ภายใต้สายตาอันมึนงงของทุกผู้คน ทั้งหม้อหลอมและฝ่ามือนั้นมันก็ได้ค่อย ๆ ตกลงมาช้าลงเรื่อย ๆ
ตอนนี้สี่เจตจำนงมันได้เข้าปะทะกันอยู่กลางอากาศ
แน่นอนว่าคลื่นพลังจากการปะทะนี้มันย่อมจะสั่นสะท้านไปทั้งโลกา
ลมรุนแรงพัดโบก ฟ้าดินลั่นคลอน
เหล่าทหารเลวและทหารม้าทั้งหลายที่เคยทำสงครามบนหมากกระดานนี้ได้ถูกคลื่นพลังนี้พัดจนหายไปไม่เหลือแม้ร่องรอย
“นี่มัน…นี่มันเจตจำนงมังกรฟ้า! เหตุใดเขาถึงได้มีเจตจำนงมังกรฟ้าที่รุนแรงและบริสุทธิ์ปานนี้ได้? นี่มันคงอยู่ในระดับของเหล่าบรรพบุรุษทั้งหลายแล้วมิใช่หรือ!”
หลงฉือนั้นได้แต่จ้องมองดูเย่หยวนภายในเกมกระดานนี้พร้อมด้วยดวงตาที่แทบจะถลนออกจากเบ้า
เดิมทีแล้วต่อให้จะเป็นตอนที่เย่หยวนใช้พลังสายเลือดมังกรออกมาและใช้เสียงเทพมังกรเขาก็ไม่ได้ตื่นตะลึงมากมาย
แต่เจตจำนงมังกรฟ้ามันแตกต่างกัน!
เพราะนี่มันคือสิ่งที่ฝังอยู่ในจิตศักดิ์สิทธิ์ การที่เย่หยวนสามารถใช้เจตจำนงมังกรฟ้าออกมาได้เช่นนั้นมันย่อมจะหมายความว่าเขามีจิตวิญญาณมังกรบริสุทธิ์!
ซึ่งมันจะหมายความว่าเย่หยวนนั้นเป็นสมาชิกเผ่ามังกรฟ้า?
ที่สำคัญไปกว่านั้นเจตจำนงมังกรฟ้าที่สามารถจะต้านทานฝ่ามือยักษ์ของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลได้นั้นมันจะต้องเป็นตัวตนที่สูงล้ำปานใด?
เย่หยวนนั้นมีสายเลือดมังกรฟ้าที่บริสุทธิ์ล้ำเสียยิ่งกว่าเหล่ามังกรส่วนมากเสียด้วยซ้ำ!
ที่ด้านข้างตัวหลงเสี่ยวฉุนก็ได้แต่เบิกตากว้างมองดูภาพตรงหน้า มองดูเย่หยวนอย่างไม่คิดเชื่อสายตา
ตัวนางนั้นได้ฟื้นคืนสติมาสักระยะหนึ่งแล้ว
ตอนนี้นางได้แต่เบิกตากว้างพูดขึ้น “เย่หยวนมีเจตจำนงมังกรที่เหนือล้ำเสียยิ่งกว่าของข้าอีก! ช่างไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ!”
แต่ทว่ามันยังไม่หยุดเท่านั้น
เพราะอีกมือหนึ่งของเย่หยวนได้ถูกยกขึ้นสูงอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้มันเป็นพลังของเผ่ากิเลน!
ในมือของเขานั้นมันคือกระดูกจักรพรรดิกิเลน!
เย่หยวนนั้นไม่ทราบว่ากระดูกจักรพรรดิกิเลนนี้ เจ้าของมันจะเก่งกาจมากแค่ไหนตอนที่ยังมีชีวิตแต่แม้จะตายไปนานนับล้าน ๆ ปีแล้วเขาก็ยังใช้พลังสายเลือดกดดันเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เผ่ากิเลนได้ เย่หยวนจึงคิดว่าต่อให้มันจะอ่อนแอกว่ามหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล มันก็คงไม่อ่อนแอไปกว่ากันมากมายนัก
ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วมีหรือที่เจตจำนงภายในกระดูกจักรพรรดิกิเลนนี้มันจะเป็นสิ่งทั่ว ๆ ไปได้?
แน่นอนว่าเมื่อเงาร่างกิเลนยักษ์นั้นพุ่งทะยานขึ้นฟ้า มันก็พุ่งเข้าไปหาทั้งหม้อหลอมยักษ์และฝ่ามือยักษ์ทันที
ปัง!
ฟ้าดินสั่นสะเทือนขึ้นอีกครั้ง!
ตอนนี้เมื่อมีกิเลนยักษ์เข้าร่วมวงด้วยมันจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงอันมหาศาลขึ้น
เพราะเวลานี้ทั้งหม้อหลอมยักษ์และฝ่ามือยักษ์นั้นมันค่อย ๆ ถูกดันกลับขึ้นฟ้าไป!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...