หลงหยู่นั้นได้แต่ยืนนิ่งไม่อาจจะตัดสินใจลงได้
ในเวลานี้เองที่มันปรากฏอีกเงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากความว่างเปล่า
เมื่อได้เห็นผู้มาถึงหลงหยู่ก็เหมือนได้เห็นเรือช่วยชีวิตรีบร้องเรียกเขาขึ้นทันที “ท่านพ่อ!”
ผู้มาถึงนี้มันคือจักรพรรดิเทพสวรรค์หลงจื่อนั่นเอง!
จักรพรรดิเทพสวรรค์หลงจื่อมองดูเย่หยวนด้วยดวงตาเย็นเยือก
แม้ว่าเมืองบูรพาโลกเสมือนนั้นมันจะเป็นดินแดนของเผ่ามังกรมีมังกรอยู่นับไม่ถ้วนแต่เรื่องนี้มันก็ต้องใช้เวลาในการสั่งสมประชากรมานานแสนนานกว่าที่พวกเขาจะมีจำนวนมากมายอย่างทุกวันนี้ได้
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นปราการมังกรพิรุณแห่งนี้มันก็ยังดูเล็กกว่าเมืองของมนุษย์ไปถนัดตา
ในความจริงแล้วประชากรเผ่ามังกรนั้นมันน้อยกว่ามนุษย์ไปมาก น้อยจนไม่อาจจะเอาไปเทียบกับอสูรเผ่าอื่นได้เสียด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นหลงจื่อหรือหลงหยู่ พวกเขาต่างก็ย่อมจะให้ความสำคัญกับลูกหลานเป็นอย่างมาก
แต่เวลานี้ลูกหลานของพวกเขากลับตายลงด้วยน้ำมือเย่หยวน มีหรือที่พวกเขาจะทนปล่อยมันผ่านไปได้?
“มันนั้นเป็นเผ่ามังกร!” จักรพรรดิเทพสวรรค์หลงจื่อกล่าว
นั่นทำให้ผู้คนทั้งหลายต่างต้องผงะไปตาม ๆ กันกับคำพูดของจักรพรรดิเทพสวรรค์หลงจื่อนี้
ทางหลงฉือที่ได้ยินก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้จึงได้ร้องถามออกไปทันที “หลงจื่อ เจ้าต้องการอะไรกันแน่?”
หลงฉือนั้นได้ขึ้นไปรายงานกับเบื้องบนถึงตัวตนอันน่าประหลาดของเย่หยวนแล้ว
ด้วยตำแหน่งความเป็นผู้อาวุโสพิทักษ์เช่นเดียวกัน หลงจื่อเองก็ย่อมจะได้ยินเรื่องของเย่หยวนมาแล้ว
หลงจื่อจึงร้องตอบกลับมา “ในเมื่อมันเป็นเผ่ามังกร เช่นนั้นก็ต้องจัดการตามแบบแผนของกฎระเบียบของเผ่ามังกร”
หลงฉือที่ได้ยินต้องหรี่ตาลงมองทันที “หลงจื่อ! เจ้าคิดจะทิ้งให้เผ่ามังกรเราตกสู่ห้วงสงครามศักดิ์สิทธิ์หรือ?”
“หลงฉือ คำว่า ‘สงครามศักดิ์สิทธิ์’ นี้มันทำให้เจ้าหวาดกลัวจนหัวหดเช่นนี้เลย? เผ่ามังกรเรานี้อยู่เหนือล้ำเผ่าพันธุ์ใด ๆ ในโลกหล้า! เราไปกลายเป็นเผ่าพันธุ์ขี้กลัวหัวหดเช่นนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“แต่ถึงจะเป็นเช่นไรเราก็จะทำให้ทั้งเผ่าพันธุ์ต้องฉิบหายเพราะหลานของเจ้าคนเดียวไม่ได้! หรือว่าเจ้าจะบอกว่าหลงห่าวมันนี้มีค่ากว่าคนเผ่ามังกรทั้งหลายทั้งสิ้น?”
หลงจื่อเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบสวนกลับมา “หากเป็นเช่นนั้นก็เรียกประชุมผู้อาวุโสเถอะ! จักรพรรดิผู้นี้ไม่ยอมปล่อยเรื่องมันผ่านไปง่าย ๆ แน่”
พูดจบหลงจื่อก็เดินหายไป
คนเผ่ามังกรทั้งหลายได้แต่จ้องมองภาพตรงหน้าอย่างเงียบงัน เดิมทีพวกเขาย่อมจะคิดว่าเย่หยวนได้ตายแน่แล้ว แต่ทั้งเทพสวรรค์หลงหยู่ ทั้งจักรพรรดิเทพสวรรค์หลงจื่อก็ไม่ได้ฆ่าสังหารเขาลงใด ๆ
เรื่องนี้มันคงนับได้ว่าเป็นครั้งแรกในปราการมังกรพิรุณทีเดียว
แต่ทุกผู้คนต่างก็เข้าใจดีว่าเรื่องราวในวันนี้เมื่อมันไปถึงที่ประชุมผู้อาวุโสแล้ว มันคงจบไม่สวยนัก
หลงฉือหันมามองเย่หยวนด้วยความโกรธและความผิดหวังในเวลาเดียวกัน “เจ้านี่นะ ช่างหาเรื่องใส่ตัวเก่งจริง ๆ!”
แต่เย่หยวนกลับตอบไปอย่างเรียบเฉย “มิใช่ข้า เป็นพวกมันต่างหากที่คิดสร้างปัญหา!”
เมื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดไป ทางหลงฉือเองก็ไม่อาจจะกล่าวว่าใด ๆ ได้อีก
เจ้าพวกหลงห่าวทั้งหลายนี้จะหาเรื่องใครไม่หา กลับมาหาเรื่องยอดคนอย่างเย่หยวน จะบอกว่าสมควรตายแล้วก็คงไม่ผิด
ตัวเย่หยวนนั้นย่อมไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นหลานผู้อาวุโสพิทักษ์ใด ๆ คิดท้าทายตัวเขา มันย่อมจบลงด้วยความพิโรธที่ตามมา
เจ้าหนุ่มคนนี้ไม่กลัวแม้จะต้องเผชิญหน้ากับจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลาย มีหรือที่จะมาหดหัวเกรงกลัวเด็กน้อยอย่างหลงห่าวใด ๆ?
ตอนนั้นเขาใช้พลังกระดูกจักรพรรดิกิเลนสั่งจักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนทั้งหลายคุกเข่าลงต่อหน้า และเขาก็ได้ทำมันอย่างไม่มีท่าทีคิดเกรงกลัวใด ๆ ด้วย!
“เฮ้อ! เจ้าฆ่าสังหารมันได้คงสาแก่ใจแล้ว แต่ที่แห่งนี้มันมิใช่โลกภายนอก! เรื่องนี้ทางหลงจื่อมันคงไม่ปล่อยผ่านไปง่าย ๆ ดูท่ามันจะต้องหาทางลงโทษสังหารเจ้าให้ได้!” หลงฉือถอนหายใจ
“มันมาไม้ไหนก็ตอกมันกลับไปด้วยไม้นั้น จะไปเกรงกลัวใดเล่า?” เย่หยวนตอบกลับไปอย่างไม่แยแส
แต่ในเวลานี้ลู่เอ๋อและหยางเฟยเอ๋อได้แต่ทำหน้ารู้สึกผิด
ลู่เอ๋อกล่าวขึ้น “นายน้อย มันเป็นความผิดของลู่เอ๋อแท้ ๆ ที่สร้างปัญหาให้ท่าน”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าไปสร้างปัญหาที่ใดกันเล่า? ปัญหาต่างหากที่มันเข้ามาหาเจ้า โลกหล้านี้มันย่อมจะมีพวกโง่ไร้สมองทำการอย่างไม่ดูหน้าดูหลังอยู่เสมอ”
ลู่เอ๋อพยายามจะเถียงออกมา “แต่…”
“ไม่มีแต่ใด ๆ ทั้งสิ้น เจ้ายังไม่เข้าใจความสามารถของนายน้อยเจ้าหรือ?” เย่หยวนพูดตัดบท
…
ภายใต้การนำของหลงฉือนั้นเย่หยวนก็ได้เดินมาถึงบ้านหินหลังหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...