เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้เข้าใจว่าการที่เย่หยวนสังหารพวกมันนับร้อยๆ ในเวลาแค่สองชั่วโมงนี้มันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ปานใด
ในหมู่มารนรกนับร้อยๆ นี้มันมีหลายต่อหลายตัวที่เป็นถึงระดับเทพสวรรค์
หากมองดูสภาพการณ์เมื่อสักครู่นี้แล้ว ต่อให้จะเป็นเหล่ามารนรกระดับเทพสวรรค์หนึ่งดาวก็คงสามารถต่อสู้กับเทพสวรรค์สองดาวได้
ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้นแล้วเย่หยวนได้ทำเรื่องราวใดลงไป?
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขาใช้เวลาแค่สองชั่วโมง!
เหล่าเทพสวรรค์สี่ดาวทั้งหลายต่างต้องยกมือปาดเหงื่อ หากพวกเขาต่อสู้ด้วยตัวเองแล้วมันคงต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะจัดการอีกฝ่ายลงได้
แล้วเจ้าเด็กคนนี้มันเก่งกาจปานใด?
เดิมทีก่อนหน้านี้มันไม่มีใครคิดสนใจท่าทางราวกับเพิ่งได้เห็นผีมาของหลินฉางชิง
แต่เวลานี้พวกเขาต่างได้เข้าใจ!
เจ้าเด็กคนนี้มันคงได้เห็นเรื่องที่เหนือล้ำกว่าคำว่าน่ากลัวไปมาก
“ฉางชิง เจ้าไปเห็นอะไรมากันแน่?” เจิ้งหยูเฟิงดึงตัวหลินฉางชิงเข้าไปถาม
เพราะต่อให้จะผ่านไปนับชั่วโมงแล้วแต่สีหน้าของหลินฉางชิงก็ยังคงซีดขาวไม่ดีขึ้นแม้แต่น้อย
ก่อนหน้านี้ตัวเขานั้นไม่ได้รู้เลยว่าเย่หยวนเก่งกาจปานใด
แต่เวลานี้เมื่อได้เห็นเย่หยวนลงมือฆ่าสังหารเหล่ามารนรกทั้งหลาย เขาก็ได้เข้าใจว่าเย่หยวนนั้นยืนอยู่คนละโลกกับตัวเขาไปแล้ว!
“ล้างบาง! มันคือการล้างบาง! เหล่ามารนรกระดับเทพสวรรค์สองดาวนั้นไม่อาจจะทนรับเขาได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว! เขาใช้แค่หมัดเปล่าๆ ก็ฆ่าสังหารพวกมันทั้งหลายลงได้!” หลินฉางชิงร้องบอก
เย่หยวนนั้นจัดการสังหารมารนรกระดับเทพสวรรค์สองดาวลงด้วยหมัดเดียว หากคิดอยากฆ่าสังหารตัวหลินฉางชิงนี้มันก็คงง่ายกว่าพลิกฝ่ามือ
แล้วตัวเขานี้ไปท้าทายอีกฝ่าย?
ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดศิษย์น้องเมิ่งลี่ถึงได้รักษาระยะห่างกับตัวเขามาเสมอ ไม่แปลกใจเลยว่าแม้เขาจะมากพรสวรรค์ปานใดศิษย์น้องเมิ่งลี่ก็มีคิดสนใจ
ที่แท้แล้วคนรักของนางกลับกลายเป็นสัตว์ประหลาดเช่นนี้!
มีคนรักระดับนี้แล้วมีหรือที่นางจะยังก้มมองคนต่ำตมเช่นตัวเขา?
อัจฉริยะ?
คำนั้นมันก็เป็นได้แค่กองขยะต่อหน้าเย่หยวน!
เจิ้งหยูเฟิงนั้นต้องเบิกตากว้างออกมา “ล้างบาง? เจ้าจะบอกว่าเขานี้มีพลังถึงระดับของเทพสวรรค์สามดาวเลยหรือ?”
แต่หลินฉางชิงกลับส่ายหัวออกมา “ข้าว่ามันไม่ได้มีแค่นั้นแน่!”
“ซี้ด!”
ทุกผู้คนที่อยู่รอบๆ ต่างสูดหายใจเข้าลึกพร้อมๆ กัน
ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดมันถึงได้ทำตัวโอหังปานนี้! ที่แท้มันกลับมีฝีมือมากล้ำ!
ในเวลานี้มันไม่มีใครคิดว่าเย่หยวนเป็นแค่เด็กน้อยอีกต่อไป
การจัดการมารนรกระดับเทพสวรรค์ลงได้มากมายปานนั้นด้วยตัวคนเดียว มันเป็นสิ่งที่มีแต่เหล่าหลี่เยว่เหล่าเทพสวรรค์หกดาวทั้งหลายเท่านั้นที่จะทำได้
หลี่เยว่ที่ได้ยินก็หรี่ตาลงมองพร้อมถามขึ้น “ทำไมเจ้าสัตว์ร้ายทั้งหลายมันถึงได้เก่งกาจปานนี้ ไม่ว่าจะดูอย่างไรมันก็ผิดปกติ! ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเหล่าเทพสวรรค์ที่เคยเข้ามาจึงไม่อาจกลับออกไปได้!”
เจิ้งหยูเฟิงที่ได้ยินก็พยักหน้ารับ “ที่พี่เย่ว่ามานั้นมันไม่มีผิด ภารกิจของเราในครั้งนี้เราต้องระวังให้มาก หากไม่อาจทพสำเร็จได้แล้วก็ต้องรีบถอนไปให้ได้”
แท้จริงในเวลานี้คนทั้งหลายคิดอยากจะหนีไปให้พ้นๆ เสียด้วยซ้ำ
แต่พวกเขาทั้งหลายนั้นยังไม่อาจสร้างผลงานใดๆ ได้ หากกลับไปเช่นนี้แล้วมันคงไม่อาจจะมีหน้าพบเหล่ายอดคนของค่ายสำนักตนเองจึงได้แต่ต้องฝืนใจเดินทางต่อไป
แต่ทว่าสิ่งที่พวกเขาทั้งหลายตื่นตกใจมากที่สุดก็คือระหว่างทางต่อจากนั้นมันกลับเงียบสงัดไร้เสียงหรือการโจมตีใดๆ ไม่มีมารนรกให้พวกเขาทั้งหลายได้พบเห็นอีกแม้แต่ตัวเดียว
และเพราะเช่นนี้เองที่ทำให้คนทั้งหลายยิ่งเครียดหนักไปกว่าเก่า
หลี่เยว่นั้นได้แต่หันไปถามเย่หยวนด้วยท่าทางกังวล “เจ้าหนุ่ม เจ้าเคยพบเจอสัตว์ร้ายทั้งหลายนี้มาก่อนหรือ?”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “เคยพบ!”
“พวกมันคือตัวอะไรกันแน่? แล้วเจ้าเคยพบเจอพวกมันที่ใด?” หลี่เยว่ถาม
เย่หยวนตอบกลับมาอย่างเรียบเฉย “ขอไม่ตอบ”
“เจ้า!” หลี่เยว่แทบสำลักเมื่อได้ยินเช่นนั้น “จะยังมาวางท่าใดอีก? เจ้าเด็กคนนี้ นอกจากเจ้าจะเคยเห็นพวกมันมาก่อนแล้วเจ้ายังสามารถดูดกลืนพลังชั่วร้ายลงไปได้ง่ายๆ! หากให้ข้าเดาแล้วเจ้าต้องเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ของพวกมันแน่!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็เริ่มเดินออกห่างตัวเย่หยวนไปตามๆ กัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...