ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิฉายาฟ้านั้นแตกต่างจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิอื่นๆ ไปมากเพราะมันมีรถม้าและผู้คนมากมายเดินทางเข้าออกอย่างไม่ขาดสาย
เย่หยวนมาถึงหน้าประตูเมืองนี้และต้องยืนนิ่งไปพักใหญ่
เพราะเวลานี้มันมีหญิงสาวยืนรอเขาอยู่ที่หน้าประตูเมือง
หญิงสาวคนนั้นลดมือขวาลงทำความเคารพทักทายเขาพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มสวยงาม “ซีเยว่รอท่านมานานแล้ว ท่านตกใจหรือไม่ที่ได้เห็นซีเยว่ในที่นี้?”
หญิงสาวผู้นี้มันใช่ใครที่ไหนนอกจากตัวหรงซีเยว่ผู้ที่เคยพบเจอกับเย่หยวนมาก่อนนั้น!
หรงซีเยว่นั้นเป็นยอดหญิงอัจฉริยะของเมืองจักรพรรดิหยกเมฆาแห่งสิบเมืองสันเขาใต้ผู้ที่ได้เข้าไปเรียนรู้วิชาในหอยอดดอก
ตอนนั้นนางได้วางแผนการร้ายมากมายทำให้เจียงยู่ถังต้องพบเจอเคราะห์ร้าย
จากนั้นด้วยพลังอำนาจอันเหนือล้นของเย่หยวน ตัวหรงซีเยว่จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องมาขอโทษถึงหน้าประตูเมือง
แต่เย่หยวนก็ไม่ได้นึกได้ฝันว่าที่แท้มันเป็นหญิงสาวคนนี้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด!
ช่างเป็นแผนการที่ชั่วร้ายนัก!
แต่จู่ๆ สายตาของเย่หยวนก็ต้องหรี่แคบลงก่อนจะกล่าวขึ้น “ที่แท้เจ้าเป็นเผ่าเทวา!”
เพราะในตอนนั้นเย่หยวนยังไม่ได้รับรู้ถึงตัวตนของเผ่าเทวาใดๆ และยังไม่มีสายตาที่ดีพอจะตัดสินได้ว่าหรงซีเยว่นั้นผิดแปลกจากผู้คน
แต่เมื่อได้เจอกันอีกครั้งในครานี้ เขาก็สัมผัสได้ในพริบตาเดียว
ครานี้มันเป็นฝ่ายหรงซีเยว่ที่เปิดตากว้างขึ้นมาแทนก่อนจะยิ้มตอบกลับมา “ท่านกลับรู้ถึงเรื่องราวของเผ่าเทวาเสียด้วย! เช่นนั้นซีเยว่คงต้องขอแนะนำตัวใหม่อีกครา! ข้านั้นคือบุตรีเทวะสายเลือดเร้นแห่งเผ่าเทวา หรงซีเยว่ขอคารวะท่านเย่”
คำพูดแนะนำนี้มันทำให้มุมปากของเย่หยวนต้องกระตุกขึ้นมาทันที ที่พวกมันทั้งหลายเอาตัวเยวี่ยเมิ่งลี่ไปก็เพราะเรื่องบุตรีเทวะนี้เช่นกัน
เขาไม่นึกไม่ฝันว่าวันหนึ่งจะได้มาเจอกับบุตรีเทวะเข้าอีกคน
นั่นทำให้จิตสังหารของเย่หยวนแผ่กระจายออกมาอย่างหนักหน่วงทันที
หรงซีเยว่เองก็ตกตะลึงกับท่าทางนี้ของเย่หยวนไม่น้อย ก่อนหน้ายังไม่เท่าไหร่แต่พอกล่าวถึงนามของบุตรีเทวะ สีหน้าของเย่หยวนมันกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“สายเลือดเร้น! ดูท่าเหล่าเผ่าเทวาที่ถูกปิดขังไว้ในมิตินรกนั้นมันจะยังมีพวกเจ้าสายเลือดเร้นที่หลบรอดออกมาได้!” เย่หยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หรงซีเยว่ต้องเบิกตากว้างขึ้นทันที “ดูท่าท่านจะรู้เรื่องเผ่าเทวาเราไม่น้อย!”
เย่หยวนจึงตอบกลับไปอย่างเย็นเยือก “ไม่ใช่แค่รู้ เย่ผู้นี้เกือบสังหารบุตรเทวะของพวกเจ้าลงได้พร้อมๆ กับเก้าผู้อาวุโสสายเลือดลมปราณ! หวังว่าวันนี้เจ้าจะไม่โชคร้ายตายตกไปด้วยมือข้าแล้วกัน”
หนงซีเยว่นั้นเปิดปากออกกว้างมองดูภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง “เก้าผู้อาวุโสสายเลือดลมปราณ! ไม่มีทาง! เก้าผู้อาวุโสนั้นแข็งแกร่งที่สุดในเผ่าเรา ด้วยกำลังของท่านนี้แค่กระบวนท่าเดียวก็คงไม่อาจรับไว้ได้หรอก!”
หนงซีเยว่นั้นย่อมเข้าใจถึงตัวตนของเก้าผู้อาวุโสสายเลือดลมปราณ ในสายตาของนางแล้วมีหรือที่เย่หยวนจะทำอะไรคนเช่นนั้นได้
เย่หยวนจึงยิ้มเย้ยตอบกลับไป “เช่นนั้นหรือ? เวลานี้มิใช่ว่าเส้นทางของสองโลกมันควรเปิดขึ้นแล้วหรอกหรือ? เจ้าลองไปถามหยวนเจี่ยวเอาเองเถอะว่าข้าโม้หรือไม่ แล้วพวกเจ้านั้นก็มีบรรพบุรุษนามว่าเทียนเหออยู่มิใช่หรือ? มันเองก็ถูกข้าตัดแขนขาดจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปที่ใดไม่ทราบได้”
หนงซีเยว่นั้นเบิกตากว้างขึ้นทันที เพราะทุกนามที่เย่หยวนเอ่ยออกมานี้มันล้วนเป็นตำนวนของเผ่าเทวาสิ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทียนเหอนั้น เขาคือสุดยอดฝีมือจากยุคก่อน!
เรื่องเช่นนั้นมันย่อมไม่มีใครจะรับรู้ได้
ที่สำคัญไปกว่านั้นนางยังพอเข้าใจนิสัยของเย่หยวนไม่น้อยว่าเขามิใช่คนขี้โม้เกินตัว
หรือว่าเขาจะเคยทำเรื่องราวเช่นนั้นจริง?
จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
นางได้แต่ต้องสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวออกมาด้วยสีหน้าแปลกๆ “เชิญท่านทางนี้”
เย่หยวนเดินตามหรงซีเยว่มาจนถึงด้านในเมืองแต่กลับพบว่าคนภายในเมืองนี้มันอยู่กันเป็นกลุ่มห่างไกล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...