จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2268

สรุปบท ตอนที่ 2268 กดหัวเผ่าเทวาด้วยตัวคนเดียว!: จอมเทพโอสถ

อ่านสรุป ตอนที่ 2268 กดหัวเผ่าเทวาด้วยตัวคนเดียว! จาก จอมเทพโอสถ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2268 กดหัวเผ่าเทวาด้วยตัวคนเดียว! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

“น-นายท่าน! ท-ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่?”

เมื่อหนิงเทียนปิงได้สติกลับมานั้นและพบว่ามีเย่หยวนอยู่ตรงหน้าเขาก็ย่อมจะตื่นตะลึงอย่างสุดใจพยายามฝืนตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนแต่เย่หยวนกลับรีบเดินมากดตัวเขาลง “นอนไปดีๆ! อย่าได้ขยับ!”

หนิงเทียนปิงนั้นเพิ่งตื่นขึ้นมาได้แน่นอนว่าบาดแผลของเขามันยังห่างไกลจากคำว่าหายดีนัก

เพราะครั้งนี้หนิงเทียนปิงบาดเจ็บอย่างสาหัสจนแทบจะตายลง มันย่อมไม่มีทางใดที่จะรักษาได้หายอย่างทันท่วงที

เมื่อเริ่มตั้งสติขึ้นมาได้หนิงเทียนปิงก็เริ่มเข้าใจได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในเวลานี้

หนิงเทียนปิงนั้นได้แต่นอนนิ่งกัดฟันแน่น “นายท่าน ข้า… ข้าสร้างปัญหาให้ท่านแล้ว!”

เขานั้นมาเพื่อจะแก้แค้นให้แก่อาจารย์แต่กลับกลายเป็นการเดินเข้ามากลางดงกับดักของประตูวิญญาณมรณาแทน

เสี้ยววิญญาณของโม่ลี่เฟยนั้นต้องดับสูญลงเพราะคิดปกป้องตัวเขา

หลังจากนั้นเขาก็ถูกตัวหรงซีเยว่นั้นจับมาทรมานอย่างหนักหน่วงคิดรีดข้อมูลเกี่ยวกับเย่หยวนออกมา

แต่เขาไม่ได้คิดบอกเรื่องราวใดๆ

เย่หยวนจึงกล่าวออกมา “เจ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว เวลานี้มีความแค้นใดก็ค่อยมาสะสางกัน!”

แต่จู่ๆ สายตาของหนิงเทียนปิงก็หันไปเห็นหรงซีเยว่ที่มุมห้องจนต้องอ้าปากค้าง

“นายท่าน นาง… นาง…”

“นางนั้นเป็นคนเผ่าเทวา ที่แห่งนี้มันคือโลกใบน้อยของตระกูลสายเลือดเร้นแห่งเผ่าเทวา อ่า เจ้าไม่ต้องกังวลไป เวลานี้พวกมันทั้งหลายคงกำลังวุ่นวายกันยกใหญ่” เย่หยวนกล่าว

ระหว่างที่พูดคุยกันไปประตูห้องโอสถมันก็ถูกเปิดขึ้นเผยให้เห็นหรูเฟิงที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าหนักใจ

ดูท่าแล้วเขาคงต้องเสียเวลาและกำลังอย่างหนักหน่วงไปกับการจัดการหยุดยั้งการกระจายตัวของพิษ

เขานั้นต้องเสียเวลาและกำลังมหาศาลกว่าที่จะหยุดการไหลของพลังฟ้าดินในโลกใบน้อยนี้ได้ นั่นคือวิธีที่เขาใช้ในการหยุดการแพร่กระตายตัวของพิษ

เพราะนอกจากวิธีนี้เขาก็ไม่อาจจะนึกถึงวิธีอื่นได้แล้ว

เพียงแค่ว่านี่มันคือวิธีหยุดการแพร่กระจาย มิใช่วิธีการรักษาใดๆ ทั้งสิ้น

สุดท้ายการรักษานั้นมันก็คงมีแต่ต้องก้มหัวขอร้องเย่หยวน

หลังจากที่ต่อสู้กับมันยาวนานในที่สุดหรูเฟิงก็ได้เข้าใจถึงความน่ากลัวของเจ้าพิษร้ายนี้

ในเวลาสั้นๆ นี้ความเร็วการแพร่กระจายของพิษมันเหนือล้ำกว่าที่เขาคิดไปมาก

แม้ว่าเผ่าเทวานั้นจะมีจำนวนน้อยนิดแต่ตระกูลสายเลือดเร้นของพวกเขานี้ก็ใช้เวลามากมายหลายต่อหลายล้านปีในการรวบรวมผู้คนของเผ่าเทวามาอยู่ในโลกใบน้อยนี้

โชคยังดีที่เขาลงมือรวดเร็วมีสมาชิกเผ่าเทวาต้องตายลงไปแค่ไม่กี่พัน

เหล่ายอดฝีมือที่อยู่ในระดับเต๋าสวรรค์เจ็ดลายนั้นยังพอจะเอาชีวิตรอดได้แต่สุดท้ายก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน

ส่วนเหล่าที่ขึ้นถึงระดับเต๋าสวรรค์แปดลายนั้นแม้พิษจะไม่อาจเอาชีวิตพวกเขาได้แต่พวกเขาก็คงต้องใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กับการกดดันการแพร่กระจายของพิษนี้

พลังงานในชีวิตของพวกเขาแทบทั้งหมดมันต้องเสียไปกับเจ้าพิษตัวนี้

มันเป็นพิษที่น่ากลัวจนเกินไป!

“เด็กน้อย ส่งยาแก้พิษมา!” หรูเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าหนักใจ

เย่หยวนหันมามองด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “นี่คือวิธีที่เจ้าใช้ขอร้องคน? หากข้าให้ยาแก้พิษไปทั้งอย่างนี้ข้าคงไม่มีค่าใดแล้ว?”

หรูเฟิงนั้นเข้าใจได้ทันทีว่าเจ้าเด็กคนนี้มันมากเล่ห์ไม่อาจจะจัดการลงได้แม้แต่น้อย

ตระกูลสายเลือดเร้นนั้นหลบซ่อนอยู่ในโลกนี้มานานนับล้านปีแต่ก็อยู่กันอย่างสงบสุขมาเสมอ

เจ้าเด็กคนนี้มาถึงแค่วันเดียวกลับทำให้โลกทั้งใบแทบแตกสลายลง

ที่น่าเจ็บใจที่สุดก็คือต่อให้จะมีฝีมือมากแค่ไหนมันก็ไม่อาจจะทำอะไรเจ้าเด็กน่ารังเกียจคนนี้ได้!

น่าเจ็บแค้นนัก!

แม้ว่าการสังหารเย่หยวนนั้นจะง่าย แต่หากพิษนี้กระจายออกไปแล้วทั้งโลกใบน้อยนี้มันคงได้กลายเป็นดินแดนแห่งความตาย

ถึงเวลานั้นมันคงจะเหลือแต่เหล่าเต๋าสวรรค์แปดลายทั้งหลายที่รอดชีวิตได้

หรูเฟิงกัดฟันแน่นก่อนจะพยายามฝืนทำหน้าตาอ่อนโยน “สหายหนุ่มเย่ เรื่องราวของสหายผู้นี้เราต้องขอโทษด้วยจริงๆ! หลังจากจบเรื่องราวแล้วข้าจะหาวิธีชดเชยให้แน่ๆ ช่วยมอบยาแก้พิษนั้นให้ข้าด้วยเถอะ!”

เมื่อเขาพูดออกไปเขาก็แทบอยากจะตบปากตัวเอง

ตัวเขานี้คือใคร?

เขาคือหนึ่งในเก้าผู้อาวุโสแห่งสายเลือดเร้น!

แต่ในระหว่างที่หรูเฟิงกำลังไปตามตัวผู้อาวุโสใหญ่มานั้นลุงซ่งที่ได้รับคำสั่งแรกไปก็ได้นำเอาตัวหลี่จ้าวชิงมา

เมื่อหนิงเทียนปิงเห็นหลี่จ้าวชิงเขาก็แทบจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง

หลี่จ้าวชิงนั้นมีใบหน้าขาวซีด เมื่อเขาได้เห็นหรงซีเยว่เขาก็ต้องรีบวิ่งเข้าไปกอดขานางร้องไห้ขอชีวิต “บุตรีศักดิ์สิทธิ์ ช-ช่วยข้าด้วย! ข้าน้อยนั้นรับใช้ประตูวิญญาณมรณามานานนับแสนๆ ปีและไม่เคยละเลยหน้าที่! ท่าน… ท่านจะทิ้งข้าไม่ได้นะ!”

หลี่จ้าวชิงนั้นเป็นแค่ผู้น้อยในประตูวิญญาณมรณาและย่อมไม่ได้รู้ถึงเรื่องราวของเผ่าเทวาใดๆ ตัวตนของหรงซีเยว่ในประตูวิญญาณมรณานั้นมันเป็นบุตรีศักดิ์สิทธิ์

แต่หรงซีเยว่กลับยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไปด้วยความสงสาร “มันมิใช่ว่าข้าไม่อยากช่วยเจ้า แต่เวลานี้ข้าเองยังเอาตัวไม่รอด! เจ้า… ภาวนาเถอะ”

พูดจบนางก็หันหน้าหนีไป

เย่หยวนนั้นยกดาบขึ้นมาตัดที่ขอบโต๊ะออกมาเหมือนเป็นแผ่นระลึกถึงคนตาย

จากนั้นเขาก็ขยันิ้วขีดตัวอักษรลงไปสร้างแผ่นระลึกถึงคนตายขึ้นมาจริงๆ

เมื่อสลักแล้วเสร็จเขาก็วางมันลงบนโต๊ะและกล่าวบอกหลี่จ้าวชิง “คุกเข่า!”

หลี่จ้าวชิงนั้นหันไปมองที่อักษรบนแผ่นนั้นและได้เห็นว่ามันเขียนไว้ว่า ‘ระลึกถึงอาจารย์ผู้ล่วงลับ โม่ลี่เฟย’

หลี่จ้าวชิงสั่นสะท้านไปทั้งกายเขานั้นไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าแค่เด็กน้อยเทพสวรรค์คนหนึ่งแห่งใดจึงยังไม่มีใครมาจับจัดการมันไปอีก?

หรือว่าประตูวิญญาณมรณานั้นจะหวาดกลัวเด็กน้อยเทพสวรรค์คนหนึ่งนี้?

เพราะยอดฝีมือระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์ที่สังกัดอยู่กับประตูวิญญาณมรณามันก็มีไม่น้อย!

ตุบ!

แต่หลี่จ้าวชิงก็ไม่คิดลังเลคุกเข่าลงตามที่ได้รับคำสั่ง

“กราบคารวะและขออภัย!” เย่หยวนสั่งออกมาด้วยท่าทางไม่เปิดช่องให้ต่อรองใดๆ

“น-นายท่านไว้ชีวิตข้าด้วย! ข้าจะกราบคารวะ! ข้าขอกราบ! พี่โม่ ข้านั้นทำการไปตามคำสั่งผู้คน มันไม่ได้เป็นสิ่งที่ข้าต้องการทำด้วยตัวเองเลยจริงๆ!”

พูดไปหลี่จ้าวชิงก็ก้มหัวลงโขกพื้นต่อหน้าป้ายระลึกนั้น

หนิงเทียนปิงนั้นรู้สึกตื้นตันขึ้นในหัวใจ หากมิใช่เพราะนายท่านเขานี้แล้วความแค้นใดๆ มันก็คงไม่มีทางจะสะสางได้

………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ