หนิงเทียนปิงนั้นนำเอาหัวหลี่จ้าวชิงมาวางไว้ข้างๆ ป้ายระลึกและคุกเข่าลง
“อาจารย์ท่านบนสวรรค์ ศิษย์หนิงเทียนปิงได้สังหารศัตรูแค้นของอาจารย์ลงแล้ว ได้ชำระความคับแค้นที่อาจารย์มีลงสิ้นแล้ว! หากวิญญาณท่านยังอยู่บนโลกหล้านี้ก็ขอโปรดให้ท่านไปสู่สุขคติ”
พูดจบหนิงเทียนปิงก็ก้มหัวลงกราบสามครา
หลายปีมานี้โม่ลี่เฟยได้อยู่ดูแลหนิงเทียนปิงมาราวกับเป็นลูก ความรักภักดีที่หนิงเทียนปิงมีต่อโม่ลี่เฟยนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าความรักภักดีที่เขามีต่อเย่หยวน
แน่นอนว่าการดับสิ้นของโม่ลี่เฟยในครานี้มันย่อมสร้างภาระจิตใจหนักหน่วงให้แก่หนิงเทียนปิง
แต่ทว่าตัวเย่หยวนที่ด้านข้างกลับต้องเบิกตาขึ้นกว้าง
เพราะเขานั้นสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวนั้นอีกแล้ว!
ความเคลื่อนไหวนั้นมันไร้ซึ่งแรงกระเทือนใดๆ ในมิติ เหมือนดั่งเรื่องที่เกิดขึ้น ณ หลุมศพของพ่อเขา
เย่หยวนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกาย ตัวเสี้ยววิญญาณของโม่ลี่เฟยมันได้ดับสูญลงไปแล้วแน่ แต่เวลานี้มันกลับมีคลื่นพลังลึกลับลอยออกไปจากป้ายระลึกวิญญาณของเขา
เรื่องนี้มันทำให้เย่หยวนมั่นใจได้มากกว่าเดิมว่าครึ่งนั้นเองก็คงมิใช่เรื่องที่เขาคิดไปเองเพราะความรักที่มีต่อพ่อแล้ว
แต่คนอื่นๆ ที่อยู่ในที่เดียวกันนี้กลับไม่มีใครสัมผัสได้
หนิงเทียนปิงนั้นหันกลับมาหาเย่หยวนหลังก้มกราบแล้วเสร็จ “เทียนปิงต้องขอบคุณนายท่านมากที่ช่วยแก้แค้นครั้งนี้ให้!”
เย่หยวนรับคำตอบกลับไป “ข้าย่อมจะช่วยเจ้าสะสางมันแน่นอน เอาล่ะ ตอนนี้นอนลงก่อน อาการของเจ้ามันยังไม่ดีนัก ต้องใช้เวลาอีกราวครึ่งเดือนกว่าที่จะหายดี”
หนิงเทียนปิงพยักหน้ารับและลุกกลับขึ้นไปนอนยังเตียงคนไข้อีกครั้ง
…
ครึ่งเดือนต่อมาภายใต้การรักษาของเย่หยวน ในที่สุดหนิงเทียนปิงก็กลับมาเป็นปกติได้
จากนั้นเย่หยวนก็ได้ไปยังห้องเก็บสมุนไพรวิญญาณของตระกูลสายเลือดเร้นภายใต้การนำของหรูเฟิง
หลังได้เห็นเย่หยวนนั่งๆ ยืนๆ เลือกสมุนไพรล้ำค่ามากมายไปใบหน้าของหรูเฟิงก็เริ่มกระตุกขึ้นมา
สมุนไพรทั้งหลายเหล่านี้มันเป็นของล้ำค่าที่ตระกูลสายเลือดเร้นเก็บเกี่ยวมานานหลายต่อหลายปี
บ้างนั้นมันถึงขั้นเป็นพืชสูญพันธุ์ไปแล้วด้วยซ้ำ
“เด็กน้อย พอได้แล้ว! สมุนไพรวิญญาณที่เจ้าเอาไปนี้มันมากจนเกินกว่าจะเก็บในวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้แล้วด้วยซ้ำ!” หรูเฟิงร้องบอก
เย่หยวนจึงหันกลับมามองด้วยรอยยิ้มก่อนจะกวาดทุกสิ่งอย่างลงแหวนไปสิ้น
ที่แท้แล้วก่อนหน้าเย่หยวนยังแค่เลือกๆ ของที่อยากได้ แต่เวลานี้เขาไม่คิดเลือกและกวาดมันไปสิ้น
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
หรูเฟิงหน้าขาวซีดลงแทบจะคิดอยากสังหารเย่หยวนลงให้จบๆ สิ้นๆ กันไป
หรูเฟิงนั้นพยายามกดความโกรธแค้นในใจลง “จ-จำเอาไว้เถอะ!”
เมื่อจบเรื่องสมุนไพรแล้วเย่หยวนก็มาถึงคลังสมบัติและเลือกเหล่าสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์
เย่หยวนเลือกดาบมาถึงสิบสามเล่มก่อนจะมอบดาบนั้นเล่มหนึ่งให้หนิงเทียนปิงใช้ติดตัว
เมื่อมีดาบระดับสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์เข้ามาอีกถึงสิบสองเล่ม ค่ายกลดาบของเย่หยวนมันก็จะยิ่งมีพลังรุนแรงหนักหน่วงกว่าเก่าไปมาก
แต่ครั้งนี้หรูเฟิงเริ่มฉลาดขึ้นมา
แม้จิตใจของเขาจะยังด่าว่าไม่ขาดแต่เขาก็กลืนมันไว้ในท้องไม่คิดพูดกล่าวออกมา
ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าเด็กคนนี้มันอาจจะกวาดสมบัติทั้งคลังไปก็ได้
นอกจากนั้นเย่หยวนยังหยิบเอาผลึกปราณเทวะจำนวนมหาศาลติดตัวออกมาด้วย
ของฟรี ไม่เอาก็เสียโอกาสแย่
ส่วนเรื่องของวรยุทธบ่มเพาะ วรยุทธยุทธต่อสู้ใดๆ นั้นเย่หยวนไม่คิดสนใจไปดูมันด้วยซ้ำ
เพราะสิ่งของเหล่านี้มันไร้ค่าใดๆ กับตัวเขา
สุดท้ายแล้วหรูเฟิงก็ได้พาเย่หยวนและหนิงเทียนปิงมาถึงยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลสายเลือดเร้น
เมื่อเข้ามาถึงแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นคลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์เหนือล้ำก็เข้าปะทะร่างพวกเขาทันที
ในลานกว้างนี้มันได้มีรูปปั้นขนาดยักษ์เท่าขุนเขาตั้งอยู่ถึงแปดตัวด้วยกัน
คลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่สัมผัสได้นั้นถูกปล่อยออกมาจากพวกมันทั้งหลายนี้เอง
เมื่อหนิงเทียนปิงเห็นรูปปั้นเทวาทั้งแปดนั้นเขาก็แทบจะทรุดเข่าลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...