“หลายปีมานี้ฝ่าบาทได้สั่งการให้มีการตรวจสอบเรื่องของความตายของนักบวชนิกายนอกแห่งนิกายสวรรค์หยกแท้ จุนเถียน เวลานี้มันมีร่องรอยขึ้นมาแล้วเพราะมีคนแจ้งว่าจุดสุดท้ายที่นักบวชจุนเถียนนั้นมุ่งหน้าไปมันคือป่าหมึกเรือง! ที่ข้าเรียกพวกเจ้าทั้งหลายมาในวันนี้มันก็เพื่อจะขอแรงออกช่วยค้นหาศพหรือสาเหตุการตายของเขา หากทำได้เจ้าชายผู้นี้จะให้รางวัลอย่างาม!”
ในโถงประชุมตระกูลถังนั้นมีชายหนุ่มหน้าหล่อผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่บนที่นั่งประธานก่อนจะกล่าวเล่าเรื่องราวด้วยใบหน้าเรียบเฉย
แน่นอนว่าชายหนุ่มคนนี้ย่อมจะเป็นองค์ชายรองแห่งอาณาจักรตะวันออกแล้ว
เขานั้นมายังตระกูลถังในครานี้เพื่อที่จะพบปะกับเหล่าผู้นำค่ายสำนักกำลังทั้งหลายที่อยู่ใต้ตระกูลถัง เพื่อที่จะขอยืมแรงของคนทั้งหลายนั้นออกตามหาข่าวการตายของจุนเถียน
เรื่องราวในครั้งนี้มันเป็นภาระหน้าที่ที่ทำให้องค์ชายใหญ่ต้องปวดหัวอย่างมาก เพราะฉะนั้นองค์ชายรองก็จึงไม่อาจจะทำการอย่างเปิดเผยได้มากนัก
ถังจินหัวลุกขึ้นก้มหัวลงกล่าว “ภาระขององค์ชายรองนั้นมันคือภาระของตระกูลถังเราด้วย! จากนี้ไปข้าน้อยจะส่งคนออกไปตรวจสอบให้ทั่วป่าต่อให้ต้องขุดป่าหมึกเรืองขึ้นมาก็ตาม เราจะตามหาศพของนักบวชจุนให้ได้!”
องค์ชายรองพยักหน้ารับ “อืมๆ ได้ยินคุณถังว่าเช่นนั้นแล้วข้าก็ค่อยสบายใจหน่อย เรื่องวันนี้มันสำคัญอย่างมาก พวกเจ้าอย่าได้ประมาทไป แล้วก็อาจารย์กู่ อาจารย์นั้นมีเส้นสายมากมายหากได้ยินข่าวอะไรมาก็ช่วยแลกเปลี่ยนกับตระกูลถังและเสริมแรงกันและกันด้วย”
กู่เม่าพยักหน้ารับขึ้นมา “องค์ชายรองวางใจเถอะ กู่เม่านั้นเข้าใจดี แต่จะว่าไปถังหยู พี่ชายของเจ้านั้นก็ดูจะบรรลุขึ้นมาในช่วงเวลาไล่ๆ กับที่นักบวชจุนหายตัวไปเลยนะ? บังเอิญเสียจริง!”
ถังหยูนั้นผงะหน้าหันไปมองทันที ไม่นึกฝันว่ากู่เม่ากลับจะแทงหลังเขาในเวลาเช่นนี้
ตั้งแต่เรื่องราวในวันนั้นผ่านไปกู่เม่ากับตระกูลถังนั้นก็มีรอยร้าวขึ้นมาในหัวใจของทั้งสองฝ่าย
เพียงแค่ว่าผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายนั้นมันสุดแสนลึกล้ำจนเกินกว่าที่จะแยกออกจากกันได้ง่ายๆ
แต่ครั้งนี้กู่เม่าก็อดทนต่อไปไม่ได้
ถังหยูได้แต่ต้องร้องว่ากลับไป “อาจารย์กู่ ท่าน!”
แต่องค์ชายรองนั้นกลับเบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความสนใจ “พี่ชายของถังหยู?”
กู่เม่ายิ้มตอบกลับไป “องค์ชายรอง จะว่าไปคนผู้นี้เองมันก็สุดแสนจะลึกลับ! ดูอย่างไรก็อยู่แค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นต้นแต่กลับทำลายตระกูลกุ้ยลงในคืนเดียว! สังหารแม้แต่กุ้ยไห่เฉิงลงได้ แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นมันก็คือ… หึๆ ความเข้ากันได้ต่อสมุนไพรสวรรค์ของเขานั้นมันไม่ถึงหนึ่งแต้มเสียด้วยซ้ำ แต่เขาคนนั้นกลับคิดฝันอยากจะเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์! แล้วยังมีหน้ามาท้าทายเฒ่าคนนี้และหนีไปเก็บตัวนานถึงสิบแปดปีแล้ว! เกรงว่าเขาคงไม่มีหน้าจะออกมาพบเจอผู้คนอีกต่อไปแล้วใช่หรือไม่เล่า?”
หลังจากเรื่องวันนั้นผ่านไปกู่เม่าก็สืบเรื่องราวของเย่หยวนมาตลอด
บางเรื่องนั้นมันย่อมจะไม่อาจปิดบัง ตำแหน่งของกู่เม่าในเมืองจักรพรรดินี้เองมันก็สุดแสนจะยิ่งใหญ่ มิใช่เรื่องแปลกที่เขาจะสืบสาวได้
เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลายที่อยู่ด้วยต่างต้องหัวเราะเย้ยขึ้นมาเมื่อได้ยิน
“ความเข้ากันได้กับสมุนไพรสวรรค์ไม่ถึงหนึ่ง? หึๆ นี่มันผู้ถูกสวรรค์ทอดทิ้งหรืออย่างไรกัน?”
“ที่น่ากลัวที่สุดนั้นมิใช่เรื่องที่ไร้พรสวรรค์แต่เป็นเรื่องความไม่รู้จักประเมินตัวเอง! เขานั้นไม่มีความเข้ากันได้แม้แต่น้อยแต่กลับยังคิดอยากจะเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์?”
“น่าขันเสียจริง มันไปทำอะไรอยู่นานถึงสิบแปดปีกัน?”
…
ความเข้ากันได้หนึ่งนั้นมันย่อมเป็นแค่ตัวตลก
หากคิดอยากเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ด้วยค่าความเข้ากันได้แค่หนึ่งนั้นมันย่อมจะกลายเป็นเรื่องตลกในหมู่ตัวตลก
คนทั้งหลายนั้นต่อให้จะมิใช่คนปากร้ายแต่ก็ยังอดด่าว่าออกมาไม่ได้!
ทางฝั่งองค์ชายรองนั้นเองก็ยิ้มกล่าวขึ้นมา “อ่า? น่าสนใจ ถังหยู องค์ชายผู้นี้อยากจะพบพี่ชายของเจ้าคนนี้เสียหน่อย ได้หรือไม่?”
“เรื่องนั้น… ขอรับ!” ถังหยูได้แต่ต้องกัดฟันรับคำไป
เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วมันย่อมจะไม่มีทางเลือกอื่นอีก
เขาได้แต่หันไปจ้องกู่เม่าแต่อีกฝ่ายนั้นกลับยิ้มตอบมาด้วยใบหน้าระรื่น
…
“เสี่ยวฉี ท่านพี่นั้นยังเก็บตัวอยู่ภายใน?” เมื่อถังหยูเดินทางมาถึงที่เก็บตัวของเย่หยวนเขาก็ถามสาวใช้ที่เขาสั่งให้มาดูแลเย่หยวน
เสี่ยวฉีพยักหน้ารับ “เจ้าค่ะนายน้อย วันก่อนข้านั้นได้เอาหอมม่วงรัดพันกำเข้าไปส่งให้ท่านนายแล้ว”
ถังหยูนั้นขมวดคิ้วแน่น “หืม? มิใช่หญ้ากระดูกมังกรหรือ? ทำไมมันกลายเป็นหอมม่วงรัดไปเล่า?”
เสี่ยวฉีส่ายหน้าตอบกลับมา “ไม่ทราบเจ้าค่ะ นายท่านนั้นสั่งเสี่ยวฉี เสี่ยวฉีก็แค่ทำตาม”
ถังหยูเบิกตากว้างขึ้นมา “หรือว่าท่านพี่จะทำสำเร็จ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...