จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2610

ตู้ม!

ตู้ม!

ตู้ม!!

ดาบแสงทั้งสองเข้าปะทะกับเม็ดบัวทั้งห้าอย่างต่อเนื่องจนทำให้เกิดเสียงระเบิดลั่นขึ้นมาเป็นพักๆ

ดาบแสงพุ่งตัด ห้าธาตุหมุนวน เย่หยวนกำลังต่อสู้ติดพันกับฮันยี่อย่างไม่มีทีท่าจะจบลงง่ายๆ

เหล่าคนทั้งหลายที่ได้เห็นนั้นต่างต้องอ้าปากค้างขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

ยอดฝีมือแปลงยอดเต๋าคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา “ให้ตายสิวะ ไอ้เด็กคนนี้มันแปลงยอดเต๋าได้จนถึงระดับสมบูรณ์แล้ว ยังจะเข้าแดนเนรเทศมาฝึกบ้าบออะไรอีก! ไอ้หมอนี่มันคิดเข้ามากลั่นแกล้งผู้คนชัดๆ!”

ไม่มีใครคิดฝันว่าเย่หยวนจะเก่งกาจได้จนถึงขั้นน่ากลัวเช่นนี้!

ผู้นำเจ้าศักดิ์สิทธิ์อย่างฮันยี่แทบไม่เคยลงมือแต่พวกเขาทั้งหลายได้เห็นเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่สองและสามลงมือบ่อยครั้ง

แต่พลังของพวกเขาไม่อาจจะเอามาเทียบกับเย่หยวนได้แม้แต่เศษเสี้ยว

สามสิบกระบวนท่าอะไรตอนนี้มันเป็นได้แค่มุกตลก!

เพราะเย่หยวนนั้นสามารถใช้พลังของสามกฎต่อสู้กับห้ากฎได้อย่างไม่ด้อยกว่าแม้แต่น้อย!

แน่นอนว่าทางฮันยี่เองก็ไม่แสดงท่าทีว่าจะแพ้ออกมาเช่นกัน

พลังธาตุทั้งห้ามันหมุนวนอย่างต่อเนื่องดั่งพลังของโลกที่เกื้อหนุนไม่มีหมดสิ้น ไร้ซึ่งจุดอ่อนใดๆ ให้โจมตีเข้าไปเผด็จศึกได้

แม้แต่ตัวเย่หยวนเองก็ยังไม่อาจจะเจาะมันเข้าไปได้เช่นกัน

เมื่อหลินถงได้ยินเสียงร้องด่าเช่นนั้นเขาก็สวนกลับไปทันที “นายท่านไม่ได้บรรลุสำเร็จแปลงยอดเต๋ามาจากโลกภายนอก ท่านเพิ่งจะมาบรรลุสำเร็จแปลงยอดเต๋าเมื่อสามปีที่แล้ว ณ เมืองตะวันโรจน์”

เมื่อเหล่ายอดฝีมือแปลงยอดเต๋าทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ต้องหันไปดูด้วยดวงตาเบิกกว้าง

“หะ?! ส-สามปีก่อน? ไอ้เจ้าบ้านี่เจ้าล้อข้าเล่นแล้ว? แค่สามปีเขาจะทำให้แปลงยอดเต๋าสมบูรณ์แบบได้หรือ?” ยอดฝีมือแปลงยอดเต๋าคนนั้นสวนกลับมา

เพราะการทำให้มันสมบูรณ์ ต่อให้พวกเขาจะมีเวลานับสามสิบปีพวกเขาก็ไม่อาจทำได้ ไม่ต้องพูดถึงสามปีเลย!

ที่สำคัญไปกว่านั้นสิ่งที่เย่หยวนแปลงยังเป็นพลังของสามกฎ แตกต่างจากพวกเขาที่แปลงพลังแค่กฎเดียวอย่างสิ้นเชิง!

ต่อให้จะใช้เวลานับร้อยๆ ปีมันก็ไม่มีใครว่าแปลก

แต่เย่หยวนกลับใช้เวลาสามปี?

ต่อให้ตาย ใครจะไปเชื่อ?!

ที่ด้านข้าง เฮ่อหยุนเซียงได้กล่าวขึ้นมาเสริม “ล้อเล่น? หึๆ เจ้าคงไม่ได้รู้เลยว่าสามปีก่อนนายท่านนั้นมีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นปลาย! ในเวลาสามปีนี้ท่านคงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการบ่มเพาะพลังปราณด้วยซ้ำ!”

“หะ? ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นปลาย?”

เสียงของยอดฝีมือแปลงยอดเต๋าคนนั้นมันดังขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะกลบเสียงการต่อสู้ระหว่างเย่หยวนและฮันยี่ไป

เพราะเขานั้นตกตะลึงจนไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

เพราะแม้แต่ตัวเฮ่อหยุนเซียงเองเขาก็ยังตกตะลึงไม่น้อยในใจ

ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้เข้าใจเลยว่าเหล่ายอดฝีมือแปลงยอดเต๋านั้นเป็นตัวตนเช่นใด

เขาคิดว่าหากแปลงยอดเต๋าได้มันก็เท่ากับว่าจะเป็นยอดฝีมือไร้ต้านทาน

จนถึงตอนที่เย่หยวนบุกขึ้นเขาศักดิ์สิทธิ์มานี้ที่เขาได้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วการแปลงยอดเต๋ามันก็แค่วิชาอีกขั้นหนึ่งเท่านั้น

ความแตกต่างของหนึ่งกฎและสามกฎนั้นมันยังคงปรากฏชัดเจน

แน่นอนว่าความแตกต่างของสามกฎและห้ากฎนั้นมันก็ย่อมจะยิ่งใหญ่ล้ำ

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือจะบรรลุได้มันก็เรื่องหนึ่งแต่การจะทำให้มันสมบูรณ์ได้นั้นมันย่อมจะแตกต่างกันสิ้นเชิง

การฝึกฝนให้มันสมบูรณ์นั้นต้องใช้เวลายาวนานแต่เย่หยวนนั้นกลับใช้เวลาไม่ถึงสองปีในการทำให้มันสมบูรณ์!

ระหว่างที่เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายพูดคุยกันไปอย่างตกตะลึงนั้นฝั่งการต่อสู้ของเย่หยวนและฮันยี่มันก็มาถึงจุดตัดสินเช่นกัน

คนทั้งสองนั้นต่อสู้กันอย่างเหนื่อยยากและยังไม่อาจรู้ได้แน่ว่าใครเหนือกว่า

แปลงยอดเต๋าของเย่หยวนนั้นมันสมบูรณ์ไร้ช่องว่างให้โจมตีแต่จะอย่างไรเขาก็ยังไม่แข็งแกร่งเท่าแปลงห้ายอดเต๋าของฮันยี่ที่ฝึกมานานปี

ส่วนทางฮันยี่แม้จะแข็งแกร่งกว่าแต่มันก็ยังไม่สมบูรณ์มีช่องว่างอยู่มาก

เขานั้นยังขึ้นไปไม่ถึงระดับความสมดุลของห้าธาตุ

ดูท่าแล้วมันคงเป็นเพราะเรื่องนี้ที่ทำให้เขาไม่ยอมจะบรรลุขึ้นไปชั้นสองมาตลอดจนถึงวันนี้

เพราะหากพื้นฐานไม่มั่นคงแล้วเมื่อบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ไปช่องโหว่นี้มันก็จะยิ่งขยายตัวใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ

นั่นย่อมจะมิใช่สิ่งที่เขาอยากเห็น

แต่ในเวลานี้เขาได้พบกับเย่หยวน!

ต่อหน้าเต๋าเอกภพของเย่หยวนนั้น ฮันยี่ต้องใช้ทุกสิ่งอย่างที่มีออกมาจนหมดสิ้น

เขานั้นไม่อาจจะประมาทได้แม้แต่น้อย!

เพราะหากประมาทไปแล้วมันคงเท่ากับความพ่ายแพ้!

เขานั้นขึ้นมาเป็นผู้นำเจ้าศักดิ์สิทธิ์มาหลายต่อหลายปีแต่เขานั้นยังไม่เคยจะได้เจอศัตรูที่แข็งแกร่งปานนี้มาก่อน

เส้นทางของยอดฝีมือนั้นเดียวดาย

หลายปีมานี้เขาเองก็อยากจะพบเจอคู่ปรับที่พอมือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ