“หึๆ เป็นคนตระกูลซ่งเหมือนๆ กันแต่ซ่งหมินเจ๋อนั้นกลับเป็นได้แค่เศษขยะ!”
“ฝีมือแค่นี้กล้าเอามาแสดงต่อหน้าพี่เหวินห่าวหรือ?”
“น่าขันนัก! ตระกูลซ่งแค่ส่งเจ้ามาให้มันเต็มจำนวนแท้ๆ!”
เมื่อซ่งเหวินห่าวเปิดปากว่าขึ้นมามันก็ย่อมจะทำให้เกิดเสียงด่าว่าซ่งหมินเจ๋อขึ้นมาตามๆ กัน
ซ่งเหวินห่าวนั้นเป็นคนที่มีชื่อเสียงและย่อมจะก้าวขึ้นมาเป็นยอดคนผู้มีอำนาจในวันหน้า
การเข้ามาตีสนิทกับเขาไว้นั้นมันย่อมจะเป็นเป้าหมายที่คนจากตระกูลเล็กๆ ต่างต้องการ
ซ่งหมินเจ๋อนั้นเป็นญาติของซ่งเหวินห่าว แม้จะเทียบกับคนรุ่นเดียวกันตัวเขาก็มีความสามารถไม่มากไร้พรสวรรค์และแทบจะไม่ถูกคัดเลือกมา
แต่ว่าในสายตาคนตระกูลซ่งแล้วเขาย่อมจะเป็นได้แค่ใช้ที่มาส่งเจ้าชายเข้าโรงเรียน ไม่ได้เป็นตัวตนที่สำคัญถึงขั้นจะถูกคัดเลือกใดๆ
ปกติแล้วซ่งเหวินห่าวนั้นย่อมจะดูถูกญาติของตนผู้นี้อยู่เสมอทั้งในและนอกตระกูล
“ข้าไม่ได้คิดจะมาอวดฝีมือใดๆ ต่อหน้าพี่เสียหน่อย ข้าแค่เบื่อจะรอเลยมาฝึกการควบคุมไฟเล่นเท่านั้นเอง” ซ่งหมินเจ๋อกล่าวขึ้นมา
เพียะ!
ซ่งเหวินห่าวนั้นเดินเข้ามาตบหลังเขาทันทีก่อนจะร้องตะโกนขึ้นมาข้างๆ หู “มันเถียงเป็นแล้วเว้ย! คนที่ได้มาในวันนี้มันมีใครบ้างที่อ่อนแอกว่าเจ้า? ด้วยฝีมือกระจอกงอกง่อยของเจ้านี้หากไม่อยากถูกคนเขาด่าว่าก็กลับบ้านไป การให้เจ้ามาด้วยนี้มันทำตระกูลซ่งเสียหน้าจริงๆ!”
ซ่งหมินเจ๋อได้แต่ต้องก้มหน้าลงแต่ดวงตาของเขานั้นยังไม่ยอมรับเพราะเขานั้นไม่คิดว่าตัวเองทำอะไรผิด การฝึกควบคุมไฟเพื่อฆ่าเวลามันก็ผิดด้วยหรือ?
เมื่อซ่งเหวินห่าวได้เห็นว่าซ่งหมินเจ๋อยังไม่คิดยอมรับเขาก็ยิ่งไม่พอใจขึ้นมา
ปัง!
เขานั้นเตะเข้าที่กลางอกของซ่งหมินเจ๋อทำให้อีกฝ่ายนั้นลอยลิ่วไป
“ไอ้เจ้าคนโอหัง เจ้ากล้าใช้สายตาเช่นนั้นมองข้าหรือ? นายน้อยผู้นี้จะกระทืบเจ้ามันให้ตายๆ ไปเสีย!”
เอี๊ยด!
ในเวลานั้นเองที่ประตูห้องหลอมโอสถนั้นมันได้ถูกเปิดออกมา เย่หยวนนั้นเดินนำพวกชุยถงทั้งหลายเข้ามาภายใน
“เจ้าหอสามมาถึงแล้ว!”
เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายนั้นต่างรีบวิ่งมาเข้าแถวในทันที
แม้แต่ซ่งเหวินห่าวนั้นเองก็ยังต้องทิ้งความโอหังใดๆ และมายืนเข้าแถวด้วย
ซ่งหมินเจ๋อนั้นค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นก่อนจะเดินไปต่อหลังแถว
เย่หยวนนั้นหันมองดูหน้าคนทั้งหลายจนทำให้เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายแทบไม่อาจหายใจได้ พวกเขานั้นไม่ทราบว่าทำไมคนผู้นี้ที่มีพลังบ่มเพาะไม่ได้สูงล้ำไปกว่าตนเองแต่สามารถมองพวกเขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
“การที่พวกเจ้าทั้งหลายได้มาที่นี่มันย่อมจะหมายความว่าพวกเจ้านั้นคือยอดอัจฉริยะของตระกูลตนเอง! แต่การถูกตระกูลตนเองเลือกมันไม่ได้หมายความว่าจะถูกข้าเลือกด้วย! เจ้าหอผู้นี้มีมาตรฐานของตนเองในการเลือกศิษย์ เอาล่ะ ตอนนี้พวกเจ้าจงมาแสดงฝีมือให้เจ้าหอผู้นี้ได้เห็นเสียก่อน!” เย่หยวนสั่งออกมา
คนทั้งหลายนั้นต่างตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น
มันเป็นอย่างเย่หยวนกล่าว เหล่าคนที่ได้มารวมตัวกันในที่นี้ต่างเป็นยอดอัจฉริยะสิ้น
พวกเขานั้นย่อมอยากจะแสดงฝีมือออกมาให้เย่หยวนได้เห็นเพื่อหวังจะได้รับความรู้จากเย่หยวนกลับไป
วิธีการหลอมระดับแท้!
“ใครก่อน?” เย่หยวนถามขึ้น
“ข้าขอลงมือก่อน!” ซ่งเหวินห่าวรีบก้าวออกมาก่อนใครเพื่อน
มันมีหลายต่อหลายคนที่คิดอยากจะลงมือก่อนแต่เมื่อได้เห็นซ่งเหวินห่าวก้าวออกมาเช่นนั้นแล้วพวกเขาย่อมจะต้องถอยกลับไปตามๆ กัน
คนที่ลงสนามก่อนย่อมจะได้เปรียบไม่น้อย
เพราะพวกเขานั้นจะได้ติดตากรรมการเป็นคนแรก!
ยิ่งได้แสดงฝีมือออกมาเร็วเท่าใดมันก็ยิ่งจะดึงดูดความสนใจของอีกฝ่ายไว้ได้ง่ายมากเท่านั้น
โดยเฉพาะคนอย่างซ่งเหวินห่าวนั้นที่หากเขาลงมือไปแล้วการหลอมของคนอื่นๆ หลังจากเขาคนสิ้นรสชาติไปทันที ทำให้โอกาสที่จะได้รับเข้าไปเป็นศิษย์นั้นมันน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น
แน่นอนว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้เฉพาะกับคนที่มากฝีมือเท่านั้น
หากไม่มีฝีมือจริงแล้วก้าวออกมาก่อนคนแรกมันก็ย่อมจะกลายเป็นคนที่ถูกลืมไปทันที
เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะกล่าวขึ้น “อืม เจ้าหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานระดับหนึ่ง!”
ซ่งเหวินห่าวนั้นยิ้มกว้างขึ้นมา “เจ้าหอสาม โอสถสวรรค์ปรับฐานระดับหนึ่งนั้นมันไม่อาจจะทำให้ข้าแสดงฝีมือออกมาได้เลย!”
เย่หยวนที่ได้ยินก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “นี่เจ้าเป็นคนทดสอบเจ้าหอผู้นี้หรือว่าเจ้าหอผู้นี้เป็นคนทดสอบเจ้า?”
เมื่อซ่งเหวินห่าวได้เห็นใบหน้าของเย่หยวนนั้นเขาก็อดสะดุ้งตัวขึ้นมาไม่ได้จนต้องรีบกล่าวแก้ตัวออกมา “มะ มันย่อมเป็นท่านเจ้าหอที่ทำการทดสอบศิษย์แล้ว! ขอรับ โอสถสวรรค์ปรับฐานระดับหนึ่งสินะ!”
เมื่อซ่งเหวินห่าวลงมือก็ย่อมจะรุนแรงอย่างมากล้ำทำให้เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นรอบด้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...