จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2768

“ให้ตายสิวะ! เจ้าเด็กคนนี้มันมีกฎแห่งห้วงมิติที่น่ากลัวล้ำนัก เร็วเหลือเกิน!”

จ้าวติงนั้นมีพลังถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นกลางแต่ว่าเขานั้นก็ยังไม่อาจจะตามเงาเย่หยวนได้ทัน

เขานั้นไม่อาจจะจับตัวเย่หยวนไว้ได้ด้วยตัวคนเดียว!

“หนีเร็ว! รีบแยกย้ายกันหนีไป!” จ้าวติงนั้นสั่งลั่นขึ้นมาจากหน้าประตูขึ้นเขา

สีหน้าของเหล่าจักรพรรดิหยกทั้งหลายนั้นเปลี่ยนสีไปทันทีเมื่อได้ยิน มีหรือที่พวกเขาจะยังมีเวลามาลังเล ต่างรีบหนีกันไปคนละทิศละทาง

เย่หยวนนั้นแผ่จิตออกไปตามจับตำแหน่งที่คนทั้งหลายทันที

ตูม!

เย่หยวนนั้นตามทันจักรพรรดิหยกขั้นปลายคนหนึ่งและสังหารเขาลงด้วยหมัดเดียว!

“ชาติชั่ว ข้าจะฆ่าเจ้า!” จ้าวติงนั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมไล่ตามเย่หยวนไปสุดแรง

แต่เย่หยวนนั้นไม่คิดต่อสู้ใดๆ กับเขาแม้แต่น้อยและพุ่งตัวหลบหนีหายไป

ตูม!

หมัดของเย่หยวนต่อยลงพื้นทำให้แผ่นดินสั่นไหวแตกออก

แผ่นดินที่แตกแยกนี้มันได้สังหารศิษย์พลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำและเลิศใหญ่ลงไปมากมายและหลายต่อหลายคนบาดเจ็บหนัก

จ้าวติงนั้นเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างคับแค้นสุดใจ!

ศิษย์ตายหรือบาดเจ็บนั่นย่อมจะไม่ทำให้เขาคับแค้นใดๆ

แต่จำนวนที่เย่หยวนสังหารลงไปนั้นต่อให้จะเป็นพันธมิตรโอสถเองก็ไม่อาจจะมองข้ามมันไปได้เช่นกัน!

การไม่อาจสังหารเย่หยวนลงนี้มันได้ทำให้พันธมิตรโอสถหลักไม่พอใจเขามากอยู่แล้ว

หากครั้งนี้ยังปล่อยให้เย่หยวนมาทำลายพันธมิตรสาขาลงจนราบอีกเขาคงไม่เหลือหน้าจะไปพบเจอใครได้

แต่เขานั้นไร้พลังจะต่อต้าน

เขาไม่อาจตามเย่หยวนได้ทัน!

เย่หยวนนั้นใช้พลังกฎแห่งห้วงมิติออกมาทำให้มีความเร็วล้ำ!

ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นจักรพรรดิหยกเย่หยวนก็สังหารลงได้ในอึดใจ

กว่าจ้าวติงจะตามไปถึงเย่หยวนก็พุ่งตัวออกไปล่าคนอื่นแล้ว

ความรู้สึกไร้พลังเช่นนี้มันทำให้จ้าวติงแทบคลั่ง!

เพราะอีกฝ่ายนั้นมีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุด!

“หึๆ ศิษย์ของพันธมิตรโอสถมันอ่อนแอเสียจริง! ก่อนนั้นตอนที่เจ้าบุกเข้ามาสังหารคนนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเจ้าเองก็คงคิดเช่นนั้นเหมือนกันล่ะสิ?” เย่หยวนถามขึ้นมาด้วยเสียงหัวเราะ

ตูม!

เย่หยวนต่อยหมัดออกมาอีกครั้งสังหารจักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวคนหนึ่งลงไปทันที

ด้วยพลังบ่มเพาะระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุดกอปรกับสายเลือดภูติแท้โกลาหลแล้วเขาย่อมจะสามารถสังหารจักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวได้ด้วยมือข้างเดียว

ในเวลาแค่อึดใจนี้เย่หยวนได้สังหารยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวลงไปถึงห้าคน และสังหารจักรพรรดิหยกไปอีกนับยี่สิบ ไม่ต้องนับคนที่พลังต่ำกว่านี้เลย!

เรียกได้ว่ากำลังของพันธมิตรโอสถสาขายุทธมั่นนี้มันถูกทำลายไปกว่าหนึ่งในสามด้วยเวลาแค่อึดใจนี้!

จ้าวติงนั้นได้แต่ต้องพุ่งตัวอย่างสุดแรงแต่ก็ยังไม่อาจตามทันเย่หยวนได้

“ให้ตายสิวะ! ให้ตาย! ข้าจะสังหารเจ้าลงให้ได้!” จ้าวติงนั้นร้องลั่นขึ้นมา

เย่หยวนนั้นหัวเราะกลับมา “นี่จักรพรรดิเซียนมันอ่อนแอขนาดนี้กันเลยหรือ? ร้องไปร้องมาอยู่ได้ แน่จริงก็มาสังหารข้าให้ได้สิ!”

ในเวลานั้นเองที่ห้วงมิติมันเกิดสั่นสะเทือนขึ้นมา

สองเงาร่างปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า!

เมื่อจ้าวติงได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดร้องขึ้นมาด้วยความดีใจไม่ได้ “หวู่ซิงรุ่ย หลินจงเว่ย พวกเจ้านั้นมาถึงแล้ว ช่วยข้าจัดการไอ้เด็กนรกคนนี้ที สังหารมัน!”

ตอนที่เย่หยวนกำลังพังค่ายกลป้องกันเข้ามาด้วยเขาแดนอนันต์นั้นตัวจ้าวติงก็ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปทันที

ในเวลานี้กำลังเสริมมันก็มาถึงในที่สุด!

พวกหวู่ซิงรุ่ยนั้นได้แต่ต้องผงะเมื่อได้เห็นเพราะว่าเวลานี้บนยอดเขาต่างๆ มันมีศพนอนตายอยู่เกลื่อนไปหมดทุกทิศ

สาขายุทธมั่นนั้นกลับถูกจักรพรรดิหยกขั้นสุดคนหนึ่งทำลายลงสิ้น?

เพราะว่าสาขายุทธมั่นนั้นนับเป็นสาขาที่แข็งแกร่งเป็นอันดับหนึ่งของสาขาย่อยต่างๆ ทั้งสิบห้าสาขา จ้าวติงนั้นเป็นถึงยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นกลางผู้เก่งกาจแต่เวลานี้ตัวเขานั้นกลับไม่อาจจะเอาชนะจัดการจักรพรรดิหยกขั้นสุดคนหนึ่งได้ แต่ว่าเมื่อพวกเขาได้เห็นความเร็วของเย่หยวนนั้นพวกเขาก็เข้าใจเรื่องราวได้ทันที

“ได้ ให้เราจัดการเอง!” หวู่ซิงรุ่ยร้องขึ้นรับก่อนจะพุ่งตัวออกไปดักเย่หยวนทันที

จ้าวติงหัวเราะลั่นขึ้นมา “ไอ้หนู ทีนี้เจ้าจะยังหนีไปไหนได้อีก!”

คนผู้เดียวนั้นมันทำได้แค่ตามหลังเย่หยวน

แต่เมื่อมีจักรพรรดิเซียนถึงสามคนมาร่วมมือกันเช่นนี้มันย่อมจะสามารถวางกำลังดักหน้าหลังเย่หยวนไว้ได้

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียวรยุทธวิญญาณของเขานั้นมันก็คือกำเนิดเทพแห่งเผ่าวิญญาณ!

ต่อให้อีกฝ่ายนั้นจะยังมีกายเนื้อแต่เขาก็ยังสามารถสังหารคนระดับเดียวกันได้ในการโจมตีเดียว

แต่หลินจงเว่ยนั้นป้องกันไว้ได้!

เย่หยวนนั้นมั่นใจเลยว่านี่คงเป็นผลจากการปะทะกันของเขากับเหยียนยูเจินในครั้งนั้นแน่

คนทั้งหลายนี้มันจึงได้แอบฝึกวิชาป้องกันวิญญาณตนเองไว้

แต่ว่าตอนนี้เขาก็หลุดออกมาจากการปิดล้อมของคนทั้งสามได้แล้ว

หากอีกฝ่ายนั้นมีแค่คนเดียวเขาคงพาสังหารได้ไม่ยาก!

แม้ว่ามันจะเป็นศาสตร์ป้องกันวิญญาณที่เหนือล้ำแค่ไหนแต่ศาสตร์โจมตีวิญญาณของเขามันก็แข็งแกร่งกว่า!

เพราะแม้แต่หลินจงเว่ยนั้นเองก็ยังได้แต่ยืนนิ่งอยู่จนถึงตอนนี้มิใช่หรือ?

“ฮ่าๆๆ ถือว่าโชคดีไปแล้วกัน! วันนี้ข้าจะเลิกเล่นกับพวกเจ้าเพียงแค่นี้แล้ว! แต่ว่าพวกเจ้าต้องระวังตัวไว้ให้ดี ข้าจะมาอีกเมื่อไหร่พวกเจ้าคงเดาไม่ถูกหรอก!” เย่หยวนหัวเราะลั่นพุ่งตัวหายลับไป

พวกจ้าวติงนั้นไม่อาจจะติดตามไปได้ทัน

หากเย่หยวนคิดอยากต่อสู้สังหาร พวกย่อมจะล้อมปิดทางเอาชนะได้

แต่หากเย่หยวนคิดหนีสุดกำลังแล้วพวกเขาย่อมจะไม่อาจตามติดได้ทัน!

หลินจงเว่ยนั้นได้สติขึ้นมาแต่ว่ายังทำหน้ามึนงงอยู่

“เกิด…อะไรขึ้นกัน?”

จ้าวติงนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเก

สามจักรพรรดิเซียนนั้นทั้งยังมีเขาที่เป็นจักรพรรดิเซียนขั้นกลางแต่กลับไม่อาจจับตัวจักรพรรดิหยกขั้นสุดคนหนึ่งไว้ได้ ปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปต่อหน้าต่อตา!

“เจ้าหมอนี่มันมีการโจมตีวิญญาณดั่งเดิมที่รุนแรงนัก! หลินจงเว่ยใช้ศาสตร์ป้องกันออกมาแล้วแต่ก็ยังหมดสติลง! หากสู้กันตัวต่อตัวแล้วมันคงสังหารพวกเจ้าได้ง่ายๆ ราวกับแค่พลิกฝ่ามือแน่!” จ้าวติงนั้นกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าดำมืด

หวู่ซิงรุ่ยพยักหน้ารับด้วยความหวาดหวั่น “เจ้าเด็กคนนี้มันมีกฎแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำนัก การโจมตีวิญญาณดั่งเดิมของมันก็ยากล้ำเกินป้องกัน เป็นตัวปัญญาเสียจริง!”

จ้าวติงมองดูประตูขึ้นเขาที่พังทลายแบนราบด้วยความรู้สึกปวดหัว

“ไอ้เด็กคนนี้มันไม่ยอมจบเรื่องแค่นี้แน่! พวกเจ้ารีบกลับไปเตรียมตัวป้องกันเถอะ ข้าจะกลับไปรายงานที่พันธมิตรหลัก!”

……………………….