เวลานี้มันมีหนึ่งคนหนึ่งกระทิงกำลังเดินอยู่บนผิวน้ำด้วยท่าทางไม่รีบร้อน
“อาจารย์เย่ ออกมาเช่นนี้มันจะไม่เป็นไรจริงๆ หรือ?”
“เวลานี้ศาลาโอสถนั้นมีรากฐานที่หนักแน่นแล้ว กำลังของพี่หลัวเองก็เหนือล้ำกว่าคนทั้งหลายจนไม่เห็นฝุ่น ก่อนข้าจะออกมานั้นข้าก็ได้ให้ปราณดาบรักษาชิตพวกลี่เอ๋อไว้ถึงสามดาบ มันคงไม่เป็นปัญหาหรอก”
“ก็จริง ตอนนี้ศาลาโอสถนั้นใหญ่โตเหนือล้ำฟ้าแต่ละนิกายนั้นต่างต้องพึ่งพาศาลาโอสถสิ้น อย่างน้อยๆ ในอีกไม่กี่ร้อยปีมันก็ไม่มีทางที่ขั้วอำนาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้ แต่ว่าตั้งแต่ที่ศาลาโอสถถูกตั้งขึ้นมาอีกครั้งนี้วรยุทธของทวีปพิรุณใสมันก็พัฒนาขึ้นไปอย่างมากด้วย อาจารย์เย่นั้นสร้างคุณไว้มหาศาลจริงๆ! อาจารย์เย่คงลำบากเรื่องการก่อตั้งศาลาโอสถมาหลายปีแล้ว!”
“สิ่งนั้นข้าได้ให้คำมั่นกับคนทั้งหลายไว้ ข้าย่อมจะต้องทำตามที่พูด”
“โชคร้ายที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายของพันธมิตรโอสถมันนั้นเป็นค่ายกลเคลื่อนย้ายทิศเดียว ไม่เช่นนั้นเราคงไม่ต้องเดินทางผ่านทะเลไป ในทะเลนั้นมันมากด้วยอันตรายแถมไม่รู้ด้วยว่าจะต้องมุ่งหน้าไปทิศใด”
“หึๆ โฉปู้ฉุนยังไปได้ข้าเย่หยวนนี้จะไปไม่ได้หรือ? ข้ามั่นใจว่าโฉปู้ฉุนนั้นจะต้องเดินทางไปถึงอีกฝั่งแน่ๆ!”
…
หนึ่งคนหนึ่งกระทิงนั้นย่อมจะเป็นเย่หยวนและต้าหวงแล้ว
เวลานี้มันผ่านมากว่าห้าสิบปีแล้วตั้งแต่ที่เย่หยวนจัดการปรับสมดุลเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลาย
ห้าสิบปีที่ผ่านมานี้เย่หยวนใช้เวลาทั้งหมดไปกับการศึกษาและก่อตั้งศาลาโอสถขึ้นมาอีกครั้ง
เวลานี้ศาลาโอสถนั้นมันยิ่งใหญ่ขยายตัวไปทั่วทวีปพิรุณใสมียอดฝีมือมากมายเข้ามาอยู่ภายใน
การได้ทรัพยากรจากพันธมิตรโอสถและนิกายสวรรค์ทั้งหลายมานั้นมันทำให้เย่หยวนสามารถช่วยหลอมโอสถ
สวรรค์ส่งพวกลี่เอ๋อทั้งหลายขึ้นถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกได้ไม่ยาก
แต่ตอนที่เขาออกเดินทางมานั้นเย่หยวนก็พาแค่ต้าหวงติดตามออกมา
เพราะว่าทะเลนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยอันตราย มันคงมีแม้แต่จักรพรรดิเที่ยงอยู่
แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะเก่งกาจแค่ไหนแต่หากต้องไปเจอกับจักรพรรดิเที่ยงตัวเป็นๆ แล้วเขาก็ย่อมจะทำได้แค่หนีเอาตัวรอดไม่มีเวลามาห่วงคนอื่น
“ต้าหวง เรานั้นผ่านเจ็ดมหาสมุทรมาแล้ว ในทะเลด้านหน้านี้มันคงมีจักรพรรดิเซียนอยู่มากมายไม่น้อย เรามาปกปิดพลังและค่อยๆ เดินทางไปอย่างเงียบๆ เถอะ” เย่หยวนเสนอ
“ขอรับ!”
ทะเลนั้นกว้างใหญ่คนทั้งสองนั้นมุ่งหน้าตรงลงใต้แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาคน
แต่ว่าที่แห่งนี้มันอยู่ชายขอบของเจ็ดมหาสมุทรแล้ว ถึงเขตน่านน้ำเปิดในที่สุด
สิ่งที่เรียกๆ กันว่าเจ็ดมหาสมุทรนั้นแท้จริงแล้วมันก็มีสภาพไม่ต่างจากทวีปพิรุณใส เป็นได้แค่บ้านนอกหลังเขาในทะเล
ทะเลลึกตรงหน้านี้ต่างหากที่มีอันตรายอยู่ทุกมุม
ตูม!
ตูม!
ตูม!
จู่ๆ มันก็ปรากฏเงาร่างสี่เงาด้านหน้าพร้อมด้วยคลื่นพลังปราณที่กระแทกออกมา ดูอย่างไรก็มีการต่อสู้อยู่
ที่สำคัญไปกว่านั้นคลื่นพลังของคนทั้งหลายนั้นยังสุดแสนแข็งแกร่งและมีจำนวนไม่น้อย
“นังเด็กนี่! ครั้งนี้เจ้าอย่าได้หวังจะหนีออกไปได้เลย!”
“เต่าใหญ่นี่ ทำไมต้องตามข้ามาด้วย? มันก็แค่ไข่มิใช่หรือ? จำเป็นต้องคับแค้นอะไรกันด้วย?”
“นังสารเลว! เจ้าขโมยไข่ข้าไปทิ้งไว้ในรังของเทียนคุยเวลานี้ลูกข้าลืมตาดูโลกแล้วแต่กลับไม่รับข้าเป็นแม่อีก! หากวันนี้ข้าไม่สังหารเจ้าลงความคับแค้นในใจข้านี้มันคงไม่มีวันดับหายไปได้!”
“นังตัวแสบ เจ้าเชื่อมไฟจากแก่นโลกเผาทำลายวังมังกรของข้าลงสิ้น! อ้าก! ข้าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้นๆ!”
“นี่ ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งนั้นมันเชื่อมลงแก่นโลก?”
…
ภาพตรงหน้านี้มันช่างวุ่นวายอย่างถึงที่สุด
เวลานี้มันมีจักรพรรดิเซียนราวสามสิบถึงสี่สิบคนกำลังไล่ล่าคนผู้เดียวมา
เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่คิดเข้าไปยุ่งเรื่องคนอื่นแต่พอเงาร่างที่หนีนั้นเข้ามาใกล้ตัวเย่หยวนก็อดหรี่ตามอง
กล่าวขึ้นไม่ได้
“หืม? ทำไมคนผู้นี้ที่โดนไล่ล่ามันถึงได้มีหน้าตาเหมือนจิงเฟยมันเลยเล่า?”
และไม่ต้องรอให้ได้คำตอบอะไรคนที่หนีมานั้นพอเห็นหน้าเย่หยวนนางก็ร้องลั่นโบกมือขึ้น
“อ่า พี่เย่หยวน พี่มาแล้ว! หากพี่ไม่มาจิงเฟยน้อยนี้คงถูกคนฆ่าสังหารแล้ว! เร็วเข้า! รีบๆ มาช่วยข้าหน่อยเร็ว!”
แน่นอนว่าคนที่ถูกตามล่ามานั้นมันย่อมจะเป็นจิงเฟยจริงๆ!
เมื่อเย่หยวนได้เห็นกองทัพที่วิ่งตามหลังนางมานั้นเขาก็อดอ้าปากค้างไม่ได้
นังเด็กคนนี้มันต้องไปก่อเรื่องไว้มากมายแค่ไหนถึงทำให้จักรพรรดิเซียนนับสิบๆ ออกมาไล่ล่าเช่นนี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...