การคืนชีพของเผ่าเลือดนั้นมันเป็นปัญหาใหญ่สำหรับมนุษย์
ศัตรูที่ฆ่าไม่ตายนั้นมันมีแต่จะทำให้พวกเขาหมดแรงใจสู้!
“เช่นนั้นหรือ? แต่การฟื้นตัวของเจ้ามันก็ช้าลงมากนี่?” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปก่อนจะดึงพลังปราณกลับปิดค่ายกลดาบเอกภพลงทันที
เพราะการสังหารสับร่างพวกเผ่าเลือดลงด้วยค่ายกลดาบเอกภพนี้มันทำให้การฟื้นฟูตัวของเผ่าเลือดนั้นช้าลงไปมาก
จากนั้นสายเลือดมังกรของเย่หยวนมันก็ปะทุออกมา!
หมัดแปลงเก้ามังกรสวรรค์!
เย่หยวนต่อยหมัดออกมาใส่หมอกเลือดตรงหน้า
เปลี่ยนให้หมอกเลือดนั้นกลายเป็นเพียงแค่ความว่างเปล่าทันที
เท่านี้มันก็เหลือไว้เพียงแค่หมอกขาว
ดวงตาของจักรพรรดิเซียนขั้นสุดคนนั้นเบิกกว้างขึ้นร้องลั่น “นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?”
เย่หยวนตอบกลับไป “มันมีใครในโลกนี้ที่เป็นอมตะจริงบ้าง? พวกเจ้ามันก็แค่มีจำนวนมากไป ข้าจึงต้องตัดกำลังของพวกเจ้าให้เหนื่อยอ่อนก่อนสังหารเท่านั้น!”
พูดจบเขาก็ต่อยหมัดออกไปอีกครั้งหนึ่งทำลายเผ่าเลือดอีกคนลง
หากจะเทียบแล้วค่ายกลดาบเอกภพนั้นย่อมจะมีการโจมตีป้องกันที่ครบเครื่อง มันช่วยขยายพลังของเย่หยวนเวลาต้องรับมือเมื่อถูกรุมโจมตีได้ดี
แต่หากจะวัดกันด้วยพลังโจมตีที่รุนแรงแล้วค่ายกลดาบเอกภพมันย่อมจะด้อยกว่าหมัดแปลงเก้ามังกรสวรรค์ไปมาก
ตอนนี้สายเลือดมังกรของเย่หยวนมันพัฒนาไปถึงระดับภูติศึกแล้ว พลังของมันย่อมจะรุนแรงกว่าก่อนๆ หลายเท่า!
ที่สำคัญไปกว่านั้นพลังนี้มันยังเล็กไปที่จุดเดียวทำให้ความรุนแรงนั้นมากล้ำ
มันเหมาะมากที่จะใช้กำจัดเผ่าเลือด
เย่หยวนต่อยหมัดออกไปทำลายเผ่าเลือดจนลดฮวบไปกับตา
ตูม!
จักรพรรดิเซียนขั้นสุดคนนั้นเองก็ตายลงด้วยหมัดเดียวเช่นกัน
ฮันกวงที่อยู่ลึกในหมอกนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้น
เพราะเขานั้นสัมผัสได้ว่าสายเลือดของลูกน้องเขามันกำลังค่อยๆ จางหายลงไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว
“เป็นอะไรหรือท่านฮันกวง? มันก็แค่จักรพรรดิเซียนไม่กี่คน หรือว่าเมี่ยเฉินจะจัดการไม่ได้เชียว?”
ฉื่อเลอนั้นไม่ได้มีสัมผัสที่เฉียบคมเท่าฮันกวงแต่ว่าเมื่อได้เห็นสีหน้าของฮันกวงนั้นเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่ามันมีเรื่องผิดปกติ
ฮันกวงเบิกตากว้างกล่าวขึ้นมาอย่างตกตะลึง “ตอนนี้มันเหลือแค่เมี่ยเฉินคนเดียวแล้ว!”
“อะไรนะ?! หรือว่าจะเป็นจักรพรรดิเที่ยงปลอมตัวมา?” ฉื่อเลอนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน
ฉันกวงส่ายหัวออกมา “มันเป็นจักรพรรดิเที่ยงครึ่งก้าวคนหนึ่งและที่เหลือก็มีแค่จักรพรรดิเซียน ไม่มีแม้แต่จักรพรรดิเซียนขั้นสุดด้วยซ้ำ หืม? เมี่ยเฉินตายลงแล้ว!”
สัมผัสได้เช่นนั้นฮันกวงก็หน้าเสียไปทันที
ตายเร็วเกินไป!
นี่มันเพิ่งผ่านไปได้ไม่ถึงสิบห้านาทีดี
หากเผ่าเลือดไม่เจอคู่ต่อสู้ที่มีพลังเหนือล้ำกว่าตนอย่างท่วมท้นแล้วพวกเขาย่อมจะไม่มีทางตายลงได้รวดเร็วปานนี้
จักรพรรดิเที่ยงครึ่งก้าวอย่างเมี่ยเฉินนั้นเอาชนะจักรพรรดิเที่ยงครึ่งก้าวคนอื่นๆ ไปได้สิ้นเชิง
ต่อให้จะไปเจอสัตว์ประหลาดของเผ่ามนุษย์เข้า มันก็คงไม่ยากเกินกว่าจะหนีเอาตัวรอดกลับมา
แต่ตอนนี้กลับตายลงสิ้น!
“ไม่ได้การ! พวกมันจะผ่านหมอกไปได้แน่! ตอนนี้พวกมันรู้แล้วว่าเราหลบซ่อนอยู่ที่นี่ หากมันไปส่งข่าวนี้แล้วแผนของเราคงพินาศสิ้น! ฉื่อเลอ เจ้าพาคนครึ่งหนึ่งออกไปสังหารมัน! ไม่สิ ทุกคนเตรียมเคลื่อนพล! เจ้าต้องสังหารพวกมันลงให้ได้!”
…
“พวกเผ่าเลือดมันลอบโจมตีเจ้าเช่นนี้คงเพราะว่าเราไปเจอพวกมันเข้าเป็นแน่ นี่มันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่บางอย่าง!” หมี่เทียนร้องบอก
เย่หยวนพยักหน้ารับ “เช่นนั้นแล้วเราต้องรีบนำข่าวไปบอกคนบนทวีปสวรรค์แรกให้เร็วที่สุด!”
เย่หยวนเองก็ไม่นึกไม่ฝันว่ากลับจะมาเจอเรื่องราวเช่นนี้ตั้งแต่ก่อนได้เหยียบขึ้นทวีปสวรรค์แรก
เหล่าคนที่ออกมาลอบโจมตีเขานี้มีผู้นำเป็นถึงจักรพรรดิเที่ยงครึ่งก้าว หมายความว่าในหมอกด้านหลังนั้นมันคงมีจักรพรรดิเที่ยงรออยู่เป็นแน่แล้ว!
“ถอย!” เย่หยวนร้องลั่นพุ่งตัวออกไป
“สายไปแล้ว!”
ฝ่ามือหนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมพุ่งเข้าหาหยางชิง
ฝ่ามือนี้มันย่อมจะเป็นของฉื่อเลอแล้ว
“อ้าก! ข้าอีกแล้วเรอะ? ไอ้ฉิบหาย ข้าไม่ได้เก่งที่สุดโว้ย ไอ้โง่!” หยางชิงนั้นร้องขึ้นมาจนเสียงหลงแต่ร่างกายของเขานั้นมันกลับหมุนหลบการโจมตีนี้ไปได้เฉียดฉิว!
ฉื่อเลอต้องเบิกตากว้างมองดูหยางชิงอย่างตะลึง
จักรพรรดิเที่ยงครึ่งก้าวคนนี้มันกลับหลบฝ่ามือของเขาไปได้
แต่แม้จะตกตะลึงแค่ไหนเขาก็ไม่สนใจ เวลานี้บนใบหน้าของฉื่อเลอมันปรากฏรอยยิ้มขึ้นแทน
เพราะคนที่จะลงมือสังหารนั้นมันมิใช่เขา!
มือสังหารจริงๆ คือฮันกวง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...