จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2962

สรุปบท ตอนที่ 2962 คลื่นกำเนิดอันยุ่งเหยิง!: จอมเทพโอสถ

ตอน ตอนที่ 2962 คลื่นกำเนิดอันยุ่งเหยิง! จาก จอมเทพโอสถ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2962 คลื่นกำเนิดอันยุ่งเหยิง! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 2962 คลื่นกำเนิดอันยุ่งเหยิง!

“มันกลับเป็นเขา! เจ้าหมอนี่กลับไปเข้าร่วมกับเผ่าเลือดด้วย ดูท่าตระกูลวิญญาณนิพพานของเรานั้นมันจะมีแต่ศัตรูล้อมหน้าหลังจริงๆ!”

“เจ้ารู้จักเขา?”

“เขาเป็นเจ้าโลกชาวมนุษย์มีนามว่าโม่หยุน ฝีมือของเขานั้นไม่ได้อ่อนแอกว่าเจ้าโลกหลูที่ไล่ตามเราออกมาเลย! โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเต๋าค่ายกล เขานั้นเรียกได้ว่าบรรลุถึงระดับสมบูรณ์แบบแล้วก็ว่าได้”

“อ่า เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก หลังจากเจ้าบรรลุเจ้าโลกแล้วเจ้าคงรับมือเจ้าโลกนับสิบๆ ได้ด้วยตัวเอง เจ้าดูเถอะ! เรายืนอยู่หน้ามันแท้ๆ แต่ตัวมันกลับไม่อาจจะเห็นเราได้แม้แต่น้อย!”

ในห้วงความฝันนั้นหยุนหนีและเย่หยวนกำลังพูดคุยกันอยู่ตรงหน้าเจ้าโลกโม่หยุน

แต่ตัวเจ้าโลกโม่หยุนนั้นกลับยังนั่งหลับตาต่อไป

เจ้าโลกโม่หยุนคนนี้เก่งกาจอย่างมาก แต่ว่าหยุนหนีและเย่หยวนสองคนร่วมมือกันนั้นสามารถสังหารได้แม้แต่สองเจ้าโลกที่ระวังตัวมาก่อน

ทำให้เรื่องแค่นี้มันย่อมจะไม่เกินมือ

แน่นอนว่าหากพวกเขาคิดอยากสังหารเจ้าโลกโม่หยุนแล้วมันคงมิใช่เรื่องง่ายดายแน่

ห้วงความฝันนั้นมันเกิดขึ้นจากใจคน

การที่หยุนหนีสามารถขังหวู่เจียและหลูให้สู้กันจนปางตายได้นั้น…

เพราะคนทั้งสองคิดจะสังหารพวกเขาอยู่แล้ว ซึ่งนางก็แค่เปลี่ยนเป้าหมายสังหารเป็นกันและกันแทน

แต่หากจะสังหารคนด้วยห้วงความฝัน มันคงยากเกินทำได้สำหรับตัวนางในตอนนี้

หากเจ้าโลกมันฆ่าลงได้ง่ายๆ เช่นนั้นมันก็คงไม่ถูกเรียกเป็นเจ้าโลกแล้ว

แต่ก็เพราะเช่นนี้ที่ทำให้พวกเฉียชางที่ได้เห็นสองเจ้าโลกตายลงต้องตกตะลึงอย่างหนักหน่วง

“เอาล่ะ ลงไปกันเถอะ เจ้าโลกบู๋เมี่ยน่าจะเข้าห้วงมิติอื่นและทางเข้ามันคงอยู่ใต้บึงนี้แน่นอน” เย่หยวนกล่าวขึ้น

หยุนหนีพยักหน้ารับก่อนจะทิ้งร่างลงไปในบึงน้ำพร้อมๆ กันเย่หยวน

บึงนี้มันอาจจะดูเล็กแต่ว่ามันกลับลึกอย่างไม่น่าเชื่อ

หลังจากคนทั้งสองทิ้งตัวลงมาได้พักใหญ่ๆ พวกเขาก็มาพบเข้ากับก้อนแสงสีเหลืองที่สะดุดตา

ดูท่าแล้วนี่คงเป็นเส้นทางเข้าสู่ห้วงมิติอื่นแน่

เมื่อเข้าเส้นทางห้วงมิติมาแล้วภาพตรงหน้าคนทั้งสองมันก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

คลื่นพลังดุร้ายนั้นมันเข้ากระแทกร่างของคนทั้งสองทันที

หยุนหนีและเย่หยวนได้แต่ต้องทำหน้าเหยเก เพราะทั้งสองสัมผัสได้ว่าร่างวิญญาณของพวกเขาแทบจะฉีกออกเป็นชิ้นๆ ด้วยลมของที่แห่งนี้

“ช่างเป็นสถานที่ที่น่ากลัวยิ่งนัก ที่แห่งนี้มันคงเป็นสนามรบมาก่อนแน่นอน ที่สำคัญไปกว่านั้นยอดฝีมือคลื่นกำเนิดที่ตายลงในที่นี้มันคงมีมากกว่าล้านคน!” เย่หยวนได้แต่ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างตกตะลึง

เพราะที่แห่งนี้มันคือสนามรบที่มีแต่คลื่นกำเนิดทุกหนแห่ง!

ในสนามรบนั้นมันมีคลื่นกำเนิดลอยไปมาทั่วทุกทิศอย่างไร้การควบคุมใดๆ ราวกับว่าพวกเขานั้นยังคงต่อสู้กันอยู่

หากคนธรรมดาได้มายืนอยู่ตรงนี้แค่คลื่นกำเนิดแสนยุ่งเหยิงนี้มันก็คงมากพอที่จะฉีกร่างของพวกเขาออก

โชคยังดีที่เย่หยวนและหยุนหนีนั้นมีร่างวิญญาณที่พิเศษกว่าใครๆ ทำให้ยังพอทนทานรับมันได้

หยุนหนีหน้าเปลี่ยนสีร้องขึ้นมา “เย่หยวน เหมือนว่าข้า…จะเข้าใจแล้ว”

เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องผงะไปเช่นกันก่อนจะหันมาพบว่าร่างของหยุนหนีนั้นมันค่อยๆ แตกสลายออก

เขาอดไม่ได้ที่จะต้องเบิกตากว้างอย่างเข้าใจในความหมายขึ้นมา

ร่างวิญญาณฝันเมฆาและร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันเป็นสิ่งวิเศษที่สร้างปาฏิหาริย์ได้

ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นเป็นร่างวิญญาณที่เกิดขึ้นจากความโกลาหลและสามารถเป็นทุกเต๋าได้

ส่วนร่างวิญญาณฝันเมฆานั้นมันเป็นร่างวิญญาณที่ไร้กำเนิด

มันจึงสามารถบ่มเพาะเต๋ามากมายได้อย่างไม่ถ้วนในห้วงแห่งฝันของตน

มันทำให้สองร่างวิญญาณนี้มีข้อได้เปรียบมากล้ำเมื่อคิดศึกษาคลื่นกำเนิด

และด้วยคลื่นกำเนิดอันยุ่งเหยิงในที่แห่งนี้แล้ว ก็ย่อมจะเหมือนสรวงสวรรค์ของผู้ครอบครองสองร่างวิญญาณนี้!

หยุนหนีนั้นมีพลังบ่มเพาะอยู่ที่ยอดสุดของมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุดมานานแสนนาน

นางย่อมจะสามารถเรียนรู้คลื่นกำเนิดในที่แห่งได้อย่างรวดเร็วมากล้ำกว่าปกติ

ตอนนี้มันเป็นโอกาสที่จะบรรลุแล้ว!

แต่ว่าเย่หยวนเองก็รู้ดีว่าแม้มันจะเป็นโอกาสทองแต่มันก็เป็นหายนะเช่นกัน

เพราะว่าคลื่นกำเนิดนับล้านๆ ในที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกันหรือว่ามีรูปแบบตายตัวใดๆ

ซึ่งคลื่นกำเนิดหลายอย่างนั้นต้องใช้การศึกษาที่แตกต่างกันออกไป

และถ้าพลาดไปเพียงนิดก็อาจจะถึงขั้นเสียสติได้

เย่หยวนนั้นร้อนใจอย่างมาก เขานั้นมั่นใจว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่อันตรายถึงชีวิต

แต่เขานั้นกลับไม่มีอะไรจะกู้สถานการณ์ได้เลย

ร่างวิญญาณของเขามันเริ่มเสียการควบคุมไปเรื่อยๆ!

เย่หยวนเองก็ไม่นึกว่าเขานั้นกลับจะต้องมาเจออันตรายหนักหน่วงเช่นนี้

นี่มันคือสภาพที่ร่างกายอ่อนแอไม่อาจจะรับยาแรงได้

พลังบ่มเพาะและร่างวิญญาณของเขานั้นมันยังไม่ถึงขั้นที่จะเข้ามารับคลื่นกำเนิดมากมายนี้ไว้ได้

แต่ว่าร่างวิญญาณของเขามันกลับกลืนคลื่นกำเนิดมาอย่างไม่อาจควบคุม!

ในส่วนลึกของสนามรบโบราณนี้มันมีสี่ขุมพลังกำลังนั่งกดพลังของกันและกันอยู่

คนทั้งสี่นั้นมาถึงจุดที่เรียกได้ว่าสมดุล ไม่มีคลื่นพลังใดๆ เล็ดลอดออกไปสู่ภายนอก

คนทั้งสี่นี้ย่อมจะเป็นสี่ยอดเจ้าโลกแล้ว

“เฮอะๆ เด็กน้อยสองคนที่ยังไม่บรรลุเจ้าโลกกลับกล้าบุกเข้ามาในสนามรบเทพฉงน! เจ้าโม่หยุนมันช่างไร้ฝีมือแท้ๆ! ที่สำคัญพวกมันยังเป็นผู้มีร่างวิญญาณฝันเมฆาและร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! ผีเฒ่าบู๋เมี่ยเท่านี้เจ้าก็คงมีผู้สืบทอดแล้ว!” เสียงหัวเราะหนึ่งดังลั่นขึ้นมา

เสียงนี้มันย่อมจะเป็นของเจ้าโลกเชียหลงแห่งมิตินรก

“เฮอะ!” เจ้าโลกบู๋เมี่ยไม่คิดจะตอบอะไรกลับไป

เขานั้นรู้ดีว่าเชียหลงคิดจะพูดจาเย้ยหยันเขา

แต่ว่าเขาเองก็ตกตะลึงอย่างมากเช่นกัน

ในระหว่างที่เขาไม่อยู่นั้นตระกูลวิญญาณนิพพานกลับให้กำเนิดผู้มีร่างวิญญาณหมอกหุ้มคนที่สองขึ้นมา!

ที่สำคัญมันยังเป็นร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงแท้แน่นอน!

ยอดเจ้าโลกอย่างเขานั้นย่อมจะมองออกในพริบตา

“นังเด็กที่มีร่างวิญญาณฝันเมฆานั้นยังพอว่า นางอาจจะยังพอมีโอกาสรอดบ้างแต่เจ้าเด็กร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันคงไม่ทันได้ประเมินตัวเองล่ะมั้ง? ฮ่าๆๆ เจ้าดูมันเถอะ แทบจะสิ้นสติไปแล้ว! ที่แห่งนี้มันคือสนามรบที่ทุกสวรรค์ร่วมมือกันเข้ากำจัดวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดที่ตายลงในศึกครั้งนั้นมันมีนับล้านคน! และคนอย่างมันก็เป็นแค่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ตัวน้อยมีหรือที่จะรอดชีวิตไปจากที่นี่ได้!” เจ้าโลกเทียนเหวินกล่าวขึ้นมาตาม

“ผีเฒ่าบู๋เมี่ย เด็กน้อยทั้งสองมันมาเพื่อช่วยเจ้า ดูท่าคงทำได้เพราะร่างวิญญาณหมอกหุ้มมันสัมผัสถึงคลื่นพลังที่เจ้าทิ้งไว้แน่ เพียงแค่ว่าตระกูลวิญญาณนิพพานกลับส่งคนออกมาได้แค่นี้ ข้าว่าพวกยู่เทียนทั้งหลายมันคงตายลงสิ้นแน่แล้ว เจ้ายังจะคิดทนยื้ออีกหรือ?” คนที่พูดขึ้นมานั้นคือเจ้าโลกเฉียเกอ

เจ้าโลกบู๋เมี่ยหัวเราะตอบกลับไป “พวกเจ้าสามคนเองก็ทุ่มกันสุดกำลังแล้ว แต่ทำอะไรข้าได้หรือ? อย่างมากพวกเราสี่คนก็แค่ต้องตายไปด้วยกันเท่านั้น! เจ้าคิดว่าฉายานามผู้อมตะของข้ามันได้มาเล่นๆ หรืออย่างไร?”

………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ