จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2967

ตอนที่ 2967 บู๋เมี่ยยอมก้มหัว หยุนหนีบรรลุอาณาจักร!

“ทีนี้จะให้ยืมได้หรือยัง?”

เย่หยวนกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยอย่างหนักแน่น

มีหรือที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นจะยังไม่เข้าใจ?

เย่หยวนนั้นยึดติดกับการยืมร่มคลื่นม่วงของเขาอย่างมาก

“ข้าไม่ให้แล้วจะทำไม? หรือสภาพของเจ้าในตอนนี้จะโจมตีเป็นครั้งที่สองได้?” เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นกล่าวเย้ยขึ้น

เย่หยวนไม่คิดตอบอะไรกลับและแปลงเป็นร่างหมอกปลุกคลื่นกำเนิดขึ้นมาอีกชุดใหญ่

ฝนดาวตกระลอกที่สองพุ่งขึ้นมาทันที!

แน่นอนว่าพลังของมันย่อมจะไม่อาจเทียบเคียงกับรอบแรกได้

และเป้าหมายการโจมตีในครั้งนี้มันยังมิใช่เจ้าโลกทั้งสี่แต่เป็นแต่ตัวเจ้าโลกบู๋เมี่ยเพียงแค่คนเดียว

เมื่อเจ้าโลกบู๋เมี่ยได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดขนลุกขึ้นทั้งกายไม่ได้

เจ้าเด็กนี่มันไม่คิดจะรอดชีวิตกลับไปแล้ว!

หลังจากใช้งานฝนดาวตกอีกรอบหนึ่ง ร่างของเย่หยวนนั้นยังไม่แตกสลายแต่มันก็คงใกล้เต็มทีแล้ว

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเองก็มีสภาพไม่ได้ดีกว่าเขาไปมากนัก ซึ่งคนที่แข็งแกร่งระดับนี้ก็ยังแทบจะกลายเป็นจุณไป

“จะให้ยืมไหม?” เย่หยวนถามขึ้นมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยอีกครั้ง

“ไอ้หนู เจ้ามันคิดง่ายเกินไปแล้ว! นามผู้อมตะของบู๋เมี่ยผู้นี้มันไม่ได้มาเล่นๆ! ทำเช่นนี้ต่อไปคนที่จะตายก่อนมันก็คือเจ้านั้นเอง!” เจ้าโลกบู๋เมี่ยยังไม่คิดยอมรับปาก

เย่หยวนไม่ตอบใดๆ กลับไปและใช้ฝนดาวตกคลื่นกำเนิดระลอกที่สามออกมา!

เมื่อคนทั้งสามได้เห็นความมุ่งมั่นของเย่หยวนนี้พวกเขาก็ต้องตกตะลึงไปไม่น้อยเช่นกัน

เจ้าเด็กนี่มันบ้าโดยแท้ ไม่คิดสนใจชีวิตตัวเองอีกต่อไปแล้ว

ขู่?

มันไม่มีคำว่าขู่!

หากไม่ยอมรับก็จะโจมตีไปเรื่อยๆ จนกว่าจะยอม!

“ไอ้เด็กนี่มันช่างมีนิสัยห้าวหาญนัก! หากวันนี้มันไม่ตายวันหน้ามันคงได้กลายเป็นใหญ่แน่นอน!”

เจ้าโลกเชียหลงกล่าวขึ้น

“เฮอะ!? เจ้าคิดว่ามันจะรอดไปได้อย่างไรเล่า?” เฉียเกอกล่าวขึ้นแทรก

“หากวันนี้กลับออกไปได้เราก็ถือเสียว่าเรื่องวันนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นแล้วกัน!” เจ้าโลกเทียนเหวินกล่าวขึ้น

สี่ยอดเจ้าโลกถูกมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ตัวน้อยเล่นงานจนมีสภาพน่าสมเพช

หากข่าวนี้รั่วออกไปแล้วพวกเขาคงไม่มีหน้าไปพบผู้คนอีก

ปัง ปัง ปัง

การโจมตีอีกระลอกปะทุขึ้นมาตอนนี้ร่างวิญญาณของเย่หยวนนั้นมันจางลงจนแทบจะมองไม่เห็นแล้ว

หากไม่มองดูดีๆ มันก็ไม่อาจจะเห็นเงาร่างคนได้

แน่นอนว่าร่างวิญญาณของเจ้าโลกบู๋เมี่ยเองก็มีสภาพไม่ต่างกันนัก

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเองก็แทบสิ้นสลายลงไปเช่นกันในเวลานี้

แน่นอนว่ามันมิใช่เพราะเย่หยวนเก่งกาจมากล้นสวรรค์แต่เป็นเพราะว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นบาดเจ็บหนักมาก่อนแล้ว

เพราะเขานั้นต้องรับมือยอดเจ้าโลกถึงสามคน!

“ครั้งต่อไปนั้นมันคงเป็นครั้งสุดท้ายของข้าแล้ว ข้าว่าตัวข้าคงไม่อาจรอดกลับมาได้อีก เพียงแต่ข้าก็ไม่แน่ใจว่าท่านจะรอดกลับไปได้หรือไม่เช่นกัน” เย่หยวนกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆ

แต่ว่าคำพูดนี้มันช่างเป็นคำพูดที่แสนเย้ยหยันสำหรับเจ้าโลกบู๋เมี่ย

เขานั้นมีร่างวิญญาณหมอกหุ้ม แต่เย่หยวนเองก็มีร่างวิญญาณหมอกหุ้มเช่นกัน

เย่หยวนนั้นรู้ดีว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยมีขีดจำกัดแค่ไหน

อีกครั้งหนึ่งตัวเย่หยวนจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นจะรอดออกไปได้หรือไม่มันก็ไม่แน่นัก

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นทำหน้าดำหน้าแดงขึ้น

เขานั้นไม่เคยถูกเย้ยหยันเช่นนี้มากี่ปีแล้วกัน?

แม้จะเจอการรุมโจมตีของสามยอดเจ้าโลกนั้นตัวเขาเองก็ยังไม่ต้องใช้พลังออกมาทั้งหมด

ผลลัพธ์การต่อสู้กับสามยอดเจ้าโลกนี้ตัวเขานั้นภาคภูมิอย่างมาก

การทำให้สามยอดเจ้าโลกไม่อาจจะลงมืออย่างไม่ระวังนั้นมันมิใช่สิ่งที่ยอดเจ้าโลกทั่วๆ ไปจะทำได้

ใครจะไปคิดว่าวันนี้เขากลับต้องมาถูกมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์น้อยคนหนึ่งขู่เข้า

“ข้า…”

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นดื้อด้านอย่างมาก เขาคิดอยากจะปฏิเสธออกไป

เพียงแต่ว่าวินาทีที่เขาเปิดปากขึ้นนั้น…

เขาก็เห็นถึงสายตาของคนทั้งสามที่ด้านหลังที่กำลังมองมาด้วยรอยยิ้มจนอดขนลุกขึ้นไม่ได้

พวกมันทั้งสามนั้นคงหวังให้เขาตายตกลงไปพร้อมกับเจ้าเด็กคนนี้แล้ว?

หากเขาตายลงจริงๆ ตระกูลวิญญาณนิพพานก็คงถึงคราวสิ้นสุดกันแน่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ