จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 1022

ดวงตาเฉยเมยที่ลึกล้ำราวกับทะเลของโม่เหลิ่งเหยียนชำเลืองมองนางครู่หนึ่ง เต็มไปด้วยความดูถูกและเยาะเย้ยถากถาง “ข้าพร้อมเสมอ!” กล่าวจบก็จากไปโดยตรง

เวินฉิงที่อยู่บนพื้นมองดูแผ่นหลังที่ไม่แยแสและเด็ดขาดของโม่เหลิ่งเหยียน ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่พลุ่งพล่าน

กองทัพหลวงติดตามจากไป คุกหลวงที่กว้างใหญ่เหลือเพียงเสียงกรีดร้องของเวินหานเทียนเท่านั้น ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกหวาดกลัวในใจอย่างมาก

“ท่านพ่อขอโทษด้วย เป็นเพราะข้าไร้ความสามารถ ข้าช่วยท่านไม่ได้.......” เวินฉิงตะโกนร้องไห้ พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะลุกขึ้นมาจากพื้น

แต่ฝ่ามือของโม่เหลิ่งเหยียนเมื่อครู่หนักหน่วงเกินไป นางยังไม่ทันจะยืนได้มั่นคงคนทั้งคนก็ล้มลงไปอีกครั้ง เวินฉิงได้แต่ฝืนคลานไปด้านข้างทีละนิดทีละนิด

เวินหานเทียนในเวลานี้รู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น มือและเท้าถูกตัดออกไปจนหมด เลือดสีแดงสดไหลออกมาตามแขนขาส่วนที่ขาดของเขา พื้นถูกย้อมเป็นสีแดง ทำให้คนรู้สึกสยดสยอง

เขามองไปทางเหนือศีรษะด้วยความไม่เต็มใจ “ข้าเวินหานเทียนสืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้านมาตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบ วางแผนมานานหลายปีคิดไม่ถึงว่าจะพ่ายแพ้ให้กับคนหนุ่มสาวไม่กี่คนนี้ ข้าไม่เต็มใจ ฉิงเอ๋อร์เจ้าจะต้องล้างแค้นแทนพ่อให้ได้นะ!”

“ท่านพ่อท่านวางใจเถอะ ขอเพียงข้ายังมีลมหายใจอยู่ ก็จะต้องฆ่าซวนอ๋อง จวินหย่วนโยวและคนอื่นๆกับมือให้ได้ ล้างแค้นให้ท่านและคนตระกูลเวิน!” เวินฉิงกล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“สมกับที่เป็นลูกสาวของข้าเวินหานเทียน เช่นนี้ข้าตายก็ไม่เสียดายแล้ว!”

เวินฉิงไม่ได้ตะโกนเรียก และไม่ได้ขอความเมตตาอีก เพราะนางรู้ว่าร้องขอความเมตตากับตะโกนเรียกไปก็ไม่มีประโยชน์ มองดูพ่อของตัวเองเสียเลือดมากไปและเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาตัวเองไปอย่างนั้น ดวงตาของเวินฉิงแดงก่ำ

ช้าเร็วสักวันหนึ่ง นางจะให้โม่เหลิ่งเหยียนชดใช้ด้วยเลือดให้ได้!

และโม่เหลิ่งเหยียนออกจากพระราชวังก็ไปรายงานต่อฮ่องเต้ ฮ่องเต้ไอขึ้นมาอย่างรุนแรง “เช่นนี้ ถูกเกินไปสำหรับเขาแล้ว!”

หากไม่ใช่เพราะคนโง่อย่างเขาถูกคนใช้เป็นเบี้ยหมาก แล้วตัวเองจะถูกพ่อบ้านจวนซื่อจื่อทำร้ายได้อย่างไร ฮ่องเต้รู้สึกเกลียดชังจริงๆ

“ฝ่าบาทอย่าได้ทรงกริ้วไป พระวรกายสำคัญ!” โม่เหลิ่งเหยียนตอบ

“ใช่แล้ว ข้าไม่ควรโกรธจริงๆนั่นแหละ ข้ายังมีสิ่งที่ไม่ได้ทำมากมายเหลือเกิน เจ้าไปสั่งให้คนไปจัดเตรียมกลยุทธ์การผลิตที่ข้าหารือกับขุนนางราชสำนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทั้งหมดออกมา ข้าจะอาศัยช่วงที่ยังพอมีเวลา จัดการเตรียมการแคว้นต้าเยียนให้เรียบร้อย” น้ำเสียงของฮ่องเต้แฝงไปด้วยความกระวนกระวายเล็กน้อย

“กระหม่อมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้” โม่เหลิ่งเหยียนหันหลังก็จากไป เจอกับหยุนไห่เทียนที่เร่งเดินทางมาเข้าพอดี ทั้งสองคนพยักหน้าให้กันถือว่าเป็นการทักทายกันแล้ว

หยุนไห่เทียนมุ่งหน้าไปยังพระตำหนัก “ฝ่าบาท ทหารที่ชายแดนแคว้นเรามาแจ้งข่าว ระยะนี้มีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายจำนวนมากมารวมตัวกันที่ชายแดนแคว้นต้าเยียนกับแคว้นเทียนจิ่ว พวกเขาดูแล้วก็ไม่ได้มีความผิดปกติอะไร แต่มีคนตั้งหลายพันคน เมื่อมีสิ่งผิดปกติย่อมมีสิ่งแปลกปลอม เรื่องนี้จำเป็นต้องระวังเอาไว้”

ดวงตาของฮ่องเต้หรี่ลงเล็กน้อย เต็มไปด้วยความมืดมน “เจ้าสงสัยแคว้นเทียนจิ่ว?”

“ถึงแม้ข้าน้อยจะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด แต่คนหลายพันคนรวมตัวกันที่ชายแดนมันเป็นเรื่องจริง” หยุนไห่เทียนตอบด้วยความเคารพนบนอบ

“หรือว่าเริ่นเซวียนเอ๋อร์ต้องการจะเปิดศึกกับแคว้นต้าเยียน นางกับหยุนถิงมีความสัมพันธ์ที่ดีมากไม่ใช่หรือ?” ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว

“ถิงเอ๋อร์เคยบอกข้าน้อยว่า หลังจากที่เริ่นเซวียนเอ๋อร์กับเซ่อเจิ้งอ๋องกู้จิ่วเยวียนแต่งงานกัน ก็ไปท่องเที่ยวกันแล้ว ตอนนี้ป๋อจิ้งเป็นคนดูแลการงานของราชสำนักของแคว้นเทียนจิ่วชั่วคราว”

“ป๋อจิ้ง?” ฮ่องเต้ตกอยู่ในห้วงแห่งความคิด

แคว้นต้าเยียนก็มีสายอยู่ที่พระราชวังแคว้นเทียนจิ่วเช่นกัน ฮ่องเต้รู้ว่าป๋อจิ้งเป็นคนของกู้จิ่วเยวียน หรือว่าการเคลื่อนไหวนี้เป็นเจตนารมณ์ของกู้จิ่วเยวียน?”

“หยุนไห่เทียน ข้าขอสั่งให้เจ้าส่งคนไปที่ชายแดนแคว้นต้าเยียนกับแคว้นเทียนจิ่วทันที ตรวจสอบจุดประสงค์ของคนพวกนั้นมาให้ชัดเจน หากพวกเขาต้องการก่อสงครามจริงๆ แคว้นต้าเยียนข้าก็พร้อมที่จะรับศึกอย่างแน่นอน!” ฮ่องเต้ออกคำสั่ง

“พ่ะย่ะค่ะ!” หยุนไห่เทียนไปจัดการทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ