จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 1031

“เจ้ากลับไปก็ระมัดระวังตนให้ดี อย่าโดนน้ำเย็น ยิ่งห้ามตีรันฟันแทง ผู้หญิงพึ่งออกจากอยู่ไฟน่ะ ร่างกายยังไม่ฟื้นฟูขึ้นมาเต็มที่ หากเวลานี้ฝืนใช้กำลัง จะสร้างความเสียหายกับร่างกายอย่างที่สุด ไม่ว่าต่อไปอาจจะมีลูกอีกไม่ได้เลยก็ได้”

หยุนถิงแสร้งพูดให้ดูหนักหนามาก ไม่อย่างนั้นด้วยนิสัยโผงผางของโม่หลานต้องไม่ดูแลตัวนางเองแน่นอน

“หนักหนาขนาดนี้เลย?” โม่หลานตกใจมาก

“แน่นอน ดังนั้นเลยต้องพักผ่อนให้ดี ผ่านไปสามเดือนค่อยใช้วรยุทธ์ หากตอนนี้เหลือโรคเอาไว้ จะรักษาไม่หายตลอดชีวิตเชียวนะ” หยุนถิงบอกอย่างเป็นห่วง

“ก็ได้ ข้าจะอดทนสักสามเดือนก่อน ระยะนี้ลำบากเจ้าแล้วนะ ไปละ” โม่หลานหมุนตัวจากไป

หยุนถิงกับหยุนหลีไปส่งนาง มองดูรถม้าของจวนเฉินอ๋องค่อยๆแล่นจากไป ถึงหมุนตัวกลับจวน

“พี่หญิงใหญ่ ลูกชายของโม่หลานน่ารักนัก เหมือนก้อนข้าวน้อยเลย วันหนึ่งกินหลายมื้อเลยล่ะ” หยุนหลีอดบ่นไม่ได้

“เด็กโตเร็ว ย่อมหิวเร็วอยู่แล้ว อึฉี่เสร็จก็หิวแล้ว เจ้าสิ อยู่ด้วยกับเสวี่ยเชียนโฉวมานานขนาดนี้แล้ว ควรจะแต่งงานได้แล้ว” หยุนถิงกระเซ้า

หยุนหลีหน้าแดงทันที “พี่หญิงใหญ่ ข้ายังอยากอยู่เป็นเพื่อนท่านพ่ออีกหลายปีนะ”

“เจ้าแต่งงานแล้วก็มาอาศัยอยู่ที่ตระกูลหยุนและอยู่เป็นเพื่อนท่านพ่อได้”

“แต่ข้าคิดว่า หลังจากแต่งงานแล้วก็มีเรื่องมากมายนัก หากไม่แต่งงานก็คือคนสองคน แต่พอแต่งงานแล้วก็เป็นครอบครัวใหญ่ คนมากเรื่องก็มาก วุ่นวาย” หยุนหลีบ่น

“บ้านข้าไม่มีใคร มีแค่พวกเราสองคน คนอื่นเจ้าไม่ต้องใส่ใจ” เสวี่ยเชียนโฉวพลันเดินออกมาและพูดขึ้น

หยุนหลีแก้มแดงเรื่อทันที ถลึงตาใส่เสวี่ยเชียนโฉวอย่างเขินอาย ไม่พูดอะไรอีก

“พวกเจ้าสองคนกลับจวนตระกูลหยุนเถอะ อีกสองวันก็ เทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว ดูสิว่าที่บ้านต้องการอะไรหรือไม่ ควรจัดการอย่างไรก็จัดการไป ท่านพ่ออายุมากแล้ว ซูเอ๋อร์ก็ออกเรือนแล้ว ตอนนี้ตระกูลหยุนต้องให้เจ้าคอยดูแลแล้วนะ” หยุนถิงบอก

“พี่หญิงใหญ่พูดถูกแล้ว ข้าจะกลับไปละ” หยุนหลีหมุนตัวเดินไป เสวี่ยเชียนโฉวรีบตามไปทันที หยุนถิงมองตามแผ่นหลังของหยุนหลีอย่างใช้ความคิด

“ซื่อจื่อเฟยแย่แล้ว ไท่จื่อสลบไปแล้ว” องครักษ์คนหนึ่งพุ่งเข้ามารายงานอย่างรีบร้อน

หยุนถิงสีหน้าชะงัก รีบพุ่งไปเรือนด้านข้างทันที “เกิดอะไรขึ้น?”

“ข้าน้อยกำลังฝึกความสามารถของร่างกายพวกเขาตามคำสั่งของซื่อจื่อเฟย สุดท้ายไท่จื่อวิ่งไปได้ไม่ถึงสามรอบก็เป็นลมสลบไปเลย ข้าน้อยเองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด” องครักษ์รายงานทันที

“ไป ตามข้าไปดูเร็ว” หยุนถิงยกเท้าเดินออกไปทันที

จวินหย่วนดยวในเรือนเห็นสีหน้าตื่นเต้นของหยุนถิง ขมวดคิ้วทันที “ถิงเอ๋อร์ เกิดอะไรขึ้นรึ?”

“ท่านพี่ ไท่จื่อสลบไปแล้ว” หยุนถิงพูดไป เร่งความเร็วไป

“ข้าไปกับเจ้าด้วย” จวินหย่วนโยวตามไปด้วย

หากไท่จื่อมาเป็นอะไรไปในจวนซื่อจื่อ เขาคงไม่อาจรับมือกับฝ่าบาทได้แน่

เรือนหลัง องค์หญิงองค์ชายคนอื่นพอเห็นหยุนถิงและจวินหย่วนโยวมา รีบแหวกทางให้ทันที “ซื่อจื่อเฟย ท่านรีบดูท่านพี่ไท่จื่อเร็ว สีหน้าเขาซีดมากเลย” องค์ชายรองบอก

“ได้” หยุนถิงจับชีพจรให้ไท่จื่อทันที “ระยะนี้พวกเจ้าอยู่กับไท่จื่อ เขามีอาการอะไรผิดแปลกไปหรือไม่?”

“ข้ารู้ ระยะนี้ท่านพี่ไท่จื่อพยายามฝึกฝนอย่างมาก กลางคืนพอฝึกฝนเสร็จ นอนขดอยู่ในผ้าห่มยังอ่านหนังสือ ตื่นก็เช้ามาก สองวันนี้เขาเอาแต่อ่านหนังสือ จนไม่กินอาหารเช้าเลยด้วย” องค์ชายสามตอบ

“ถูกละ ไท่จื่อมิได้เป็นอะไรมาก เพียงแต่ร่างกายอ่อนแอ อาจเป็นเพราะพอมาอยู่จวนซื่อจื่อก็ไม่ได้กินอาหารเช้าให้ดี ดังนั้นเลยน้ำตาลต่ำ เยว่เอ๋อร์ไปนำน้ำร้อนใส่น้ำตาลทรายแดงมาหนึ่งชาม” หยุนถิงสั่งความ

“เจ้าค่ะ!” เยว่เอ๋อร์รีบไปจัดการทันที

หยุนถิงกดจุดใต้จมูกของไท่จื่อ ไม่นานไท่จื่อก็ฟื้น “ซื่อจื่อเฟย ข้าเป็นกระไรไปรึ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ