“ค่อยยังชั่วหน่อย”
ซูกงกงที่อยู่ด้านหลังถูกยัดเยียดความหวานอีกแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ คนหนุ่มสาวนี่ช่างหวานเลี่ยนจริงๆ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก
ชางหลันเย่มองดูเงาร่างที่เดินไปไกลของหยุนถิง นานพักใหญ่ถึงได้เก็บสายตากลับมา มือที่กำผ้าเช็ดหน้าเอาไว้บีบแรงขึ้นเล็กน้อย
ทั้งสามคนตรงไปยังลานของหลิ่วเฟยโดยตรง เพิ่งจะเข้าประตูไปก็เห็นในลานมีคนยืนอยู่สองคน
หญิงสาวสวมชุดกระโปรงยาวสีม่วงอ่อน ด้านในสวมผ้าโปร่งรัดอกสีกุหลาบที่บางโปร่ง รอบเอวผูกริบบิ้นสีเข้มเอาไว้เส้นหนึ่ง คลุมด้วยเสื้อคลุมผ้าโปร่งบางราวกับปีกจักจั่นลายดอกเหมยสีแดงอมม่วงที่ทอดยาวกับพื้น เส้นผมสยายออก รวบผมทรงมวยเซียนโบยบินอย่างง่ายๆเอาไว้ ปิ่นหยกขาวม้วนขึ้นมา เรียบง่ายและงดงาม สง่างามและสุภาพเรียบร้อย
เพียงแต่ว่าสีหน้าของนางซีดขาว คิ้วขมวดกันเล็กน้อย คนทั้งคนเผยความอ่อนแอและเจ็บป่วย ยิ่งทำให้ดูน่าสงสารมากขึ้น ทำให้คนอดที่จะมีแรงกระตุ้นที่อยากจะปกป้องไม่ได้
“บ่าวคำนับฝ่าบาท หลิ่วเฟยเหนียงเหนียง คุณหนูหยุนมาถึงแล้ว” ซูกงกงรีบคำนับทันที
“ลุกขึ้นเถอะ” ฮ่องเต้ตอบอย่างราบเรียบ
“กระหม่อมคำนับฝ่าบาท หลิ่วเฟยเหนียงเหนียง” จวินหย่วนโยวเอ่ยปาก
“ข้าคำนับฝ่าบาท คำนับเหนียงเหนียง” หยุนถิงก็คำนับตามเช่นกัน
ฮ่องเต้เหลือบมองจวินหย่วนโยวครู่หนึ่ง สีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย“คนที่ข้าเรียกพบคือหยุนถิง เหตุใดจวินซื่อจื่อถึงตามมาด้วย?”
“ทูลฝ่าบาท ฮูหยินของกระหม่อมถูกพิษร้ายแรง ถึงแม้สารพิษจะถูกกำจัดไปแล้ว แต่ร่างกายยังอ่อนแอมาก กระหม่อมไม่วางใจให้นางมาคนเดียวดังนั้นก็เลยตามด้วย” จวินหย่วนโยวตอบอย่างราบเรียบ
“ทำไม เจ้ากลัวว่าข้าจะกินนางหรืออย่างไร?” ฮ่องเต้กลอกตามองเขาครู่หนึ่ง
“กระหม่อมมิได้คิดเช่นนั้น”
“ข้าว่าเจ้าคิดนั่นแหละ เมียไปถึงไหน เจ้าก็ตามไปด้วย เจ้าควรระวังฐานะซื่อจื่อของเจ้าหน่อย” แม้แต่ฮ่องเต้ก็ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว
“ข้างนอกล้วนร่ำลือกันว่าซื่อจื่อโปรดปรานคุณหนูหยุนอย่างมาก วันนี้ได้พบก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ หาได้ยากที่ทั้งสองจะรักใคร่กันอย่างลึกซึ้งเช่นนี้ ฝ่าบาทควรจะดีใจกับพวกเขาถึงจะถูก รักแท้หาได้ยาก ลุกขึ้นมาเถอะ” ขณะที่หลิ่วเฟยพูดไปก็ไอไปสองสามครั้ง
เสียงอ่อนโยนนุ่มนวล ใกล้ชิดไร้ที่เปรียบ
“ขอบพระทัยหลิ่วเฟยเหนียงเหนียง” หยุนถิงกล่าว
“คุณหนูหยุนเกรงใจไปแล้ว รบกวนพวกเจ้ามาในวันนี้ต้องขออภัยด้วยจริงๆ เป็นเพราะร่างกายของข้าไม่เอาไหน ข้าก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร ฝ่าบาทจะให้ซูกงกงไปเชิญเจ้ามาให้ได้” หลิ่วเฟยกล่าวขอโทษ
“สุขภาพของเจ้าสำคัญกว่าสิ่งใด ข้าย่อมจะละเลยไม่ได้อยู่แล้ว หยุนถิงข้าได้ยินมาว่าเจ้าท้าประลองบ่อนพนันฟู่กุ้ยของซวนอ๋องแล้ว พิษกร่อนวิญญาณนั่นไม่มีผลกระทบกับสุขภาพของเจ้าจริงหรือ?” รูม่านตาดำที่มองมาทางนางของฮ่องเต้มีความเฉียบคมแวบผ่านไปเล็กน้อย
“ทูลฝ่าบาท เหตุผลที่ใบหน้าของข้าดำเช่นนี้ก็เพราะถูกพิษ ระยะนี้ข้ากำลังกินยาแก้พิษอยู่ตลอด คิดไม่ถึงว่าแมวตาบอดจะพบกับหนูตายบังเอิญข่มกันกับพิษของซวนอ๋องเข้าพอดี ได้แต่บอกว่าเป็นความโชคดีเท่านั้น” หยุนถิงตอบอย่างเคารพนบนอบ
“เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าขอสั่งให้เจ้าตรวจวินิจฉัยให้กับหลิ่วเฟย จะต้องละเอียดและระมัดระวัง” สีหน้าของฮ่องเต้เคร่งขรึมไร้ที่เปรียบ
“เพคะ ฝ่าบาท” หยุนถิงเดินเข้ามาจับชีพจรให้หลิ่วเฟยทันที
หลิ่วเฟยยื่นมือออกมา มองพิจารณาหยุนถิง
สีหน้าของนางดำมืดราวกับถ่าน มองไม่เห็นลักษณะใบหน้าที่ชัดเจน มีเพียงดวงตาคู่สวยนั่นที่ชัดเจน สดใส ว่องไว ไม่มีแผนร้ายและคิดไม่ดี ยิ่งไม่มีการประจบสอพลอ หลิ่วเฟยพบเจอผู้คนมานับไม่ถ้วน แค่ดวงตาคู่นี้ก็ดูออกว่านางแตกต่างจากพวกผู้หญิงในวังหลังเหล่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...