ดูเหมือนเขาจะต้องทำการสืบสำนักราตรีอย่างละเอียดเสียแล้ว จวินหย่วนโยวคิดอยู่ในใจ
“สำนักราตรีคือที่ใด?” หยุนถิงถามด้วยความสงสัย
“ฮูหยินขอรับ สำนักราตรีคือหน่วยสังหารที่ใหญ่ที่สุดในสี่แคว้น มีศิษย์ทั่วหล้าทั้งสี่แคว้น มักเป็นผู้นี่ยากจนและดุร้าย พวกเขาฝึกหน่วยกล้าตายมาเป็นจำนวนมาก”
พวกเขามิเคยเอ่ยถามถึงผู้ที่ซื้อตัวพวกเขา และมิเคยเผยตัวตนของตนเอง เพียงแค่มีเงินจ่าย พวกเขาก็ยินดีรับงาน มิว่าจะเป็นราชวงศ์หรือคนในยุทธจักร ล้วนฆ่าได้ทั้งสิ้น
เมื่อได้รับคำสั่งมา พวกเขาก็จะมิถอยหากยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาจะตามฆ่าเป้าหมายจนสุดหล้าฟ้าเขียว หากผู้ที่ส่งไปฆ่าถูกฆ่าตายเสียก่อน ก็จะส่งอีกคนหนึ่งไปทำหน้าที่ จนกระทั่งสิ้นสุดภารกิจ” หลิงเฟิงอธิบาย
หยุนถิงได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึง “มิหยุดหากยังมิตาย ได้ยินแล้วน่ากลัวนัก”
“ทหาร มาเอาตัวเขาไป ข้าต้องการสอบถามด้วยตนเอง” โม่เหลิ่งเหยียนกำชับ
“ข้าจะไปกับเจ้าด้วย” จวินหย่วนโยวกล่าวด้วยความเย็นชา
“อืม”
“ฮูหยิน เจ้ากลับไปก่อนเถิด พักผ่อนสักพักแล้วข้าจะไปหาเจ้าหลังเสร็จธุระ” จวินหย่วนโยวมองไปทางหยุนถิง
“เจ้าค่ะซื่อจื่อ” หยุนถิงตอบอย่างว่าง่าย
เมื่อเห็นพวกเขาออกไปกันแล้ว หยุนถิงจึงเดินออกมาจากเรือนเพียงลำพัง นางเห็นใครบางคนจากไปท่ามกลางสถานการณ์ไฟไหม้ที่ไม่ไกลออกไปนัก
ชายชุดดำผู้นั้นเดินไปอย่างรวดเร็ว นางเองเห็นชายผู้นั้นสวมหน้ากากสีเงิน นางเดินตามติดไปโดยไม่ยั้งคิด
ฟู่อี้เฉินที่เมื่อครู่เดินทางไปห้องน้ำ เมื่อเดินออกมาก็พบหยุนถิงจึงเดินเข้าไปอย่างรีบร้อน
เขาเดินทางมาถึงในวันนี้ พบเข้ากับเหตุการณ์ไฟไหม้พอดี ฟู่อี้เฉินนึกถึงครั้งก่อนที่ค่ายใหญ่ที่นางใช้ตนในการฝึกฝนฝีมือ เขาก็โมโหยิ่งนัก ดึกดื่นเช่นนี้นางมิหลับมินอน จะไปที่ใดกัน?
เขาเดินตามนางไปโดยมิคิดเช่นกัน
หยุนถิงเดินห่างออกไปจากชายผู้นั้นระยะหนึ่ง พบว่าเขาเดินไปทางหลังเขา จึงรู้สึกถึงความประหลาดใจ
หยุนถิงขมวดคิ้วเข้าหากัน นางตั้งใจจะหันกลับ แต่ถูกร่างชายชุดนั้นเข้ามาขวางทาง “เจ้าคือสตรีที่จวินหย่วนโยวใส่ใจและรักที่สุด?”
ชายผู้นั้นสวมชุดสีดำ ร่างกายสูงใหญ่ สวมหน้ากากสีเงิน สะท้อนความเย็นออกมาท่ามกลางความมืด มองมิเห็นใบหน้า แต่แววตาสีดำขลับคู่นั้นที่โผล่ออกมาช่างดูมืดมนเยือกเย็นโหดร้ายราวกับงูพิษ ทำให้หยุนถิงมองไปแล้วดูมิสบายใจนัก
“เจ้ามาจากสำนักราตรี” หยุนถิงเอ่ยถามมาประโยคนี้
นี่มิใช่คำถาม แต่เป็นประโยคบอกเล่าที่แน่ใจ
“สตรีเช่นเจ้าดูฉลาดเฉลียวมิเบา น่าเสียดายเหลือเกินที่เจ้าเป็นผู้หญิงของจวินหย่วนโยว หากข้าฆ่าเจ้าทิ้งเสีย คาดว่าจวินหย่วนโยวคงจะตายทั้งเป็น” ชายที่สวมหน้ากากสีเงินเผยรอยยิ้มอันชั่วร้ายขึ้น
หยุนถิงสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตจากแววตา นางใจหายว่าตนประมาทเกินไป จึงได้ติดกับดักชายผู้นี้ มือสังหารที่เข้าไปฆ่าเป่ยหมิงฉี่ คาดว่าคงเป็นเพียงแค่ตัวหลอก
บัดนี้ซื่อจื่อและซวนอ๋องกำลังสืบคดีความ ในระยะเวลาอันสั้นนี้คงมาช่วยนางมิทันแน่ นางคงต้องยืดเวลาออกไป
หยุนถิงทำท่าทางเยาะเย้ย “หากเจ้ามีความเกลียดแค้นต่อจวินหย่วนโยว หมายความว่าเจ้ามิอาจสู้กับซื่อจื่อได้ จึงใช้ข้าที่เป็นสตรีผู้อ่อนแอมาเป็นเครื่องมืองั้นหรือ?”
ชายผู้สวมหน้ากากสีเงินแผ่รังสีอำมหิตเยือกเย็นออกมา ดวงตาคู่นั้นแฝงไปด้วยความโมโห หันมาจ้องมองนาง “ข้านะหรือสู้จวินหย่วนโยวมิได้? น่าขำสิ้นดี เจ้าจะใช้วิธีการกระตุ้นให้ข้าโมโหคงไร้ผล ข้าฆ่าเจ้าก่อน จากนั้นข้าก็จะฆ่าจวินหย่วนโยวเช่นกัน”
ชายสวมหน้ากากสีเงินตะคอกออกมาแล้วลงมือโจมตี เขารู้ดีว่าลูกน้องของตนคนนั้นมิอาจรับมือกับจวินหย่วนโยวได้นานนัก หากว่าเขารอจนจวินหย่วนโยวเดินทางมาก็คงมิมีเวลาลงมือแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...