โหวฉิงเต็มไปด้วยความลำบากใจ “ท่านอ๋อง คุณหนูหยุนกับจวินซื่อจื่อกำลังพักผ่อนอยู่ในห้อง หากเข้าไปรบกวนตอนนี้ คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่?”
สีหน้าของโม่ฉือหานเย็นชาลงกะทันหัน “ทำไม ข้ามาแล้วนางยังกล้าไม่พบหรือ?”
โหวฉิงตกใจจนตัวสั่น “ท่านอ๋องเข้าใจผิดแล้ว ฮูหยินของข้าคลอดยาก สองวันนี้คุณหนูหยุนดูแลฮูหยินเหนื่อยล้าเกินไป ข้าจะส่งคนไปแจ้งต่อคุณหนูหยุนเดี๋ยวนี้”
“ไม่จำเป็น ข้าไปหานางด้วยตัวเอง!” โม่ฉือหานฮึออกมาอย่างเย็นชา ลุกขึ้นมาก็เดินจากไป
โหวฉิงรีบร้อนนำทาง ในใจกลับอดที่จะบ่นขึ้นมาไม่ได้ ผู้ยิ่งใหญ่สามคนนี้มาอยู่ด้วยกันนี่คือจะเอาชีวิตของเขาใช่ไหม
ไม่ช้าทั้งสองคนก็เดินมาถึงลานหลัง โม่ฉือหานเห็นรั่วจิ่งกับหลิงเฟิงเฝ้าอยู่หน้าประตูจากระยะไกล แสดงให้เห็นว่าจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงอยู่ด้านใน
โม่ฉือหานเดินก้าวใหญ่เข้าไป “ข้าต้องการพบหยุนถิง ไปรายงานนาง”
“ขอโทษด้วยหลีอ๋อง ฮูหยินกับซื่อจื่อของเรากำลังนอนกลางวัน มีเรื่องอะไรรอให้พวกเขาตื่นขึ้นมาแล้วค่อยว่ากันเถอะ” หลิงเฟิงปฏิเสธอย่างเย็นยะเยือก
นัยน์ตาสีดำที่ดุร้ายของโม่ฉือหานกวาดมองมา “บัดซบ องครักษ์อย่างเจ้าก็กล้าพูดกับข้าเช่นนี้หรือ!”
“หลีอ๋องเข้าใจผิดแล้ว ข้าก็แค่ทำตามหน้าที่ที่องครักษ์คนหนึ่งควรต้องทำเท่านั้น ซื่อจื่อสั่งไว้ว่าห้ามใครไปรบกวนการพักผ่อนของเขากับฮูหยิน หากหลีอ๋องยังทำเช่นนี้อีก ก็อย่าหาว่าข้าที่เป็นผู้น้อยล่วงเกินผู้ใหญ่” หลิงเฟิงกล่าวอย่างไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตนจนดูต่ำต้อย
“ไอ้ระยำ นี่เจ้ากล้ายั่วยุข้าหรือ คนมา บุกเข้าไป!” โม่ฉือหานคำรามด้วยความโกรธ
ทันใดนั้นคนชุดดำสิบกว่าคนก็ลอยลงมาจากฟ้า จู่โจมไปทางหลิงเฟิงกับรั่วจิ่งทันที
“ท่านอ๋องไม่ได้นะ ท่านกับคนของจวินซื่อจื่อต่อสู้กันที่นี่ หากเรื่องไปถึงหูฝ่าบาท ฝ่าบาทต้องโทษว่าข้าต้อนรับแขกไม่ทั่วถึงอย่างแน่นอน” โหวฉิงเกลี้ยกล่อมทันที
“ถอยไปข้างหนึ่งเลยไป ตอนนี้ข้าไม่มีเวลามาฟังเจ้าพล่าม” โม่ฉือหานกล่าวด้วยความโมโห
โหวฉิงวิ่งออกไปไกลทันที มองดูคนสองคนต่อสู้อยู่ด้วยกัน ในใจรู้สึกกลัวแทบตาย โหวฉิงนึกถึงโม่เหลิ่งเหยียน รีบไปหาเขาทันที
เพียงแต่ว่า เมื่อโม่เหลิ่งเหยียนได้ยินว่าหลีอ๋องกับคนของจวินหย่วนโยวกำลังต่อสู้กันอยู่ สีหน้าสงบนิ่ง กล่าวอย่างไม่รีบร้อน “ถึงแม้จะสู้กันจนตายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับท่าน ท่านอยู่เฝ้าพี่สาวของข้าที่นี่ก็พอ ถึงแม้ฝ่าบาทจะถามขึ้นมา ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับท่าน”
โหวฉิงคิดแล้วก็ถูก “ใช่แล้ว ข้าไม่ได้เป็นคนให้พวกเขาต่อสู้กันเสียหน่อย พวกเขาจะสู้กันเองนี่นา เสียดายดอกไม้ใบหญ้าในลานของข้า”
“พอเถอะนายท่าน ดอกไม้ใบหญ้าอีกหน่อยค่อยหาซื้อก็ได้ ท่านก็อยู่ดูแลลูกที่นี่เถอะ อย่าไปเพิ่มความวุ่นวายเลย” ฮูหยินเอ่ยปาก
“ฟังคำฮูหยิน”
นัยน์ตาสีดำที่คมกริบของโม่เหลิ่งเหยียนหรี่ลงเล็กน้อย ก้าวเท้าออกจากห้องไป เดินมาทางด้านนี้
เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จู่ๆทำไมโม่ฉือหานผู้นี้ถึงมาที่นี่ได้ เขาคงไม่ได้ตั้งใจมาทะเลาะกับจวินหย่วนโยวโดยเฉพาะหรอกใช่ไหม?
หลังจากที่โม่เหลิ่งเหยียนเร่งไปถึง ก็เห็นคนของโม่ฉือหานถูกทุบตีจนล้มอยู่บนพื้นพอดี นอกจากหลิงเฟิงกับรั่วจิ่งแล้ว ยังมีองครักษ์เงามังกรเพิ่มขึ้นมาสี่ห้าคน
โม่ฉือหานรู้สึกโมโหอย่างมาก มองไปที่ทุกคนที่ล้มอยู่บนพื้นด้วยความโกรธเคือง แทบอยากจะสับหลิงเฟิงและคนอื่นๆเป็นหมื่นๆชิ้น แต่เขาก็รู้ว่า ตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ขององครักษ์เงามังกร หดหู่และคับข้องใจอย่างยิ่ง
โม่ฉือหานเห็นโม่เหลิ่งเหยียนเข้าพอดี ถึงได้นึกขึ้นมาได้ว่า ฮูหยินของแม่ทัพภักดีคือพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของเขา “ซวนอ๋อง เจ้าเข้าไปเรียกหยุนถิงออกมา”
โม่เหลิ่งเหยียนเลิกคิ้ว “เหตุใดหลีอ๋องไม่เข้าไปด้วยตัวเองเล่า?”
“หากข้าสามารถเข้าไปได้ ยังต้องใช้เจ้าอีกหรือ?”
“ทั่วทั้งใต้หล้าแห่งนี้ นอกจากฝ่าบาทแล้วยังไม่มีใครสามารถออกคำสั่งกับข้าได้” โม่เหลิ่งเหยียนตอกกลับไป
ใบหน้าของโม่ฉือหานมืดมนราวกับน้ำแข็งมากยิ่งขึ้น “เช่นนั้นเจ้ามาทำไม?”
“มาดูว่าท่านถูกตบหน้าอย่างไรไงล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...