“เริ่มแรก ที่ข้ายอมรับปากแต่งงานกับเจ้าเพราะเจ้าช่วยข้าแก้พิษ แต่หลังจากที่เราใกล้ชิดกันมากเข้า กลับพบว่าเจ้าไม่ได้เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ ไม่เป็นโล้ไม่เป็นพายอย่างที่เขาร่ำลือกัน
เจ้ารู้ทักษะทางการแพทย์ ยิ่งเก่งกาจเรื่องพิษ มีความกล้าหาญทั้งยังละเอียดถ้วนถี่ เกลียดชังความชั่วร้ายอยุติธรรม แต่หากมีแค้นต้องชำระ ไม่เคยวางท่าใหญ่โตกับคนรับใช้ เข้ากับพวกเขาได้ดี ทั้งยังห่วงใยพวกเขา ช่วยทวงความไม่เป็นธรรมให้ซูชิงโยว อีกทั้งยังสั่งสอนองค์ชายสี่------
วางแผนกลยุทธ์แยบคาย คิดการณ์รอบคอบ มีความระมัดระวัง พบผู้มีปัญญาพูดเรื่องมีสาระ พบพวกไร้ปัญญาก็สามารถพูดเรื่องบ้าบอได้ มีไหวพริบปฏิภาณ กระทั่งอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ก็ยังถอนตัวออกมาได้โดยไม่ถูกสงสัย เป็นคนที่เปิดหูเปิดตาสร้างความประทับใจให้ข้าได้อย่างยิ่ง
ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า วันหนึ่งข้าจะรู้สึกชื่นชม หรือแม้แต่ถึงขั้นยกย่องผู้หญิงคนหนึ่งได้ขนาดนี้ เจ้าเป็นคนแรกที่ทำให้ข้ามีความคิดเช่นนี้ ดังนั้นการได้แต่งงานกับเจ้าจึงนับว่าเป็นเกียรติของข้ามากกว่า"
“ดังนั้น ซื่อจื่อแค่รู้สึกชื่นชมและยกย่องข้าเท่านั้น ไม่มีอะไรอื่นแล้วหรือ?” หยุนถิงทำหน้ามุ่ย
เมื่อเห็นท่าทางผิดหวังของนาง จวินหย่วนโยวก็ยื่นมือออกไปโอบนางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน: "แน่นอนว่าไม่ใช่แค่นั้น ข้าเคยคิดว่าทั้งชีวิตนี้ของข้าคงต้องเป็นแบบนี้ไปตลอด นับตั้งแต่สูญเสียพ่อแม่ไปเมื่อครั้งยังเด็ก ข้าก็อยู่คนเดียวมาโดยตลอด
ข้างกายข้ามีเพียงพ่อบ้าน หลิงเฟิง รั่วจิ่ง กับพวกองครักษ์เงามังกร พวกเขาล้วนเกิดมาพร้อมข้า มีชีวิตอยู่พร้อมข้า ร่วมกันแบกรับทุกอย่างในจวนซื่อจื่อพร้อมกันกับข้า
จนกระทั่งเจ้าปรากฏตัว ข้าถึงได้รู้ว่าการที่มีคนห่วงใยใส่ใจ ช่างเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นและรับรู้ได้จริงขนาดนั้น รู้สึกว่าข้าไม่ได้เป็นเหมือนศพเดินได้ที่เย็นชาแข็งทื่ออีกต่อไป
ในสายตาคนภายนอก ข้าเป็นเหมือนสัตว์ประหลาด เป็นพญายม เป็นผีร้ายที่หลุดมาจากขุมนรก มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่เต็มใจเข้าใกล้ข้า เป็นห่วงข้า ใส่ใจข้า
กลายเป็นว่าแท้ที่จริงแล้วข้าก็ยังมีคนที่ห่วงใย มีคนเอ็นดู มีคนใส่ใจ--- ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะการปรากฏตัวของเจ้า เป็นเพราะเจ้ามาปรากฏตัวขึ้นในชีวิตของข้า
ความรู้สึกนี้มีค่าควรแก่การหวงแหนอย่างมาก เป็นสิ่งมีค่าต่อคนอย่างข้าที่ไม่เคยได้รับความอบอุ่นมาก่อน ดังนั้นหยุนถิง ข้าขอบคุณเจ้ามาก ขอบคุณที่เจ้ายินดีเข้ามาใกล้ชิดข้า เจ้าคือคนที่ควรค่าแก่การทะนุถนอมที่สุดในชีวิตของข้า
เดิมทีข้าก็ไม่อยากพูดเรื่องพวกนี้หรอก เพราะด้วยสุขภาพของข้าคงจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน แต่เมื่อได้เห็นรอยยิ้มสดใสเจิดจ้าของเจ้า ที่เหมือนแสงตะวันอันอบอุ่นในฤดูหนาว ทำให้ข้าอบอุ่นหัวใจ
ดังนั้นข้าจึงคิดว่า ตลอดช่วงเวลาที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อปกป้องเจ้า ปกป้องเจ้าอย่างรอบด้าน หากวันหนึ่งในอนาคตข้าไม่อยู่แล้ว จวนซื่อจื่อกับองครักษ์เงามังกรก็ขอฝากฝังไว้กับเจ้า
เดิมทีข้าเองก็กังวลเกี่ยวกับการคงอยู่หรือจากไปของพวกเขา แต่ตอนนี้เมื่อเจ้าปรากฏตัว ข้าก็ไม่กังวลอีกต่อไป พวกเขาติดตามเจ้า ข้าย่อมวางใจ เจ้าจะเป็นตัวแทนของข้าในอนาคต" จวินหย่วนโยวไม่เคยพูดอะไรยาว ๆ แบบนี้มาก่อน ยิ่งไม่เคยสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงของเขาแบบนี้มาก่อนด้วย
หยุนถิงฟังจนขอบตาทั้งสองข้างพลันแสบร้อน เห็น ๆ อยู่ว่านางแค่ต้องการจะแหย่ให้ซื่อจื่อลำบากใจเฉย ๆ เพื่อจะดูว่าผู้ชายยุคโบราณคนนี้ จะตอบคำถามท้าตายประเภทนี้ยังไง
แต่ไม่คิดว่าจะถูกซื่อจื่อสารภาพรักแบบนี้ ทั้งยังเป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยอารมณ์รักใคร่ลึกซึ้งและความชอบธรรมอันหนักหน่วงขนาดนี้ด้วย ทำให้นางถึงกับไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปอย่างไรเลยทีเดียว
“ซื่อจื่อท่านอย่าพูดอย่างนี้สิ ขอแค่ยังมีข้าอยู่ ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าเป็นอะไรไปหรอก นอกจากนี้ ให้ข้ากินดื่มเที่ยวเล่นยังพอไหว แต่เจ้าไม่กลัวว่ากลุ่มองครักษ์เงามังกรของเจ้าจะถูกข้าขายทิ้งหมดรึ?” หยุนถิงแกล้งทำเป็นพูดหยอกล้อให้ขำ
"ไม่มีทางหรอก เจ้าเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพและคุณธรรม ถึงกับช่วยทวงความเป็นธรรมแทนคนแปลกหน้าคนหนึ่ง จะขายองครักษ์เงามังกรที่สาบานด้วยชีวิตว่าจะติดตามข้าไปจนวันตายได้อย่างไรกัน ข้าเชื่อเจ้า" จวินหย่วนโยวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
หยุนถิงฟังจนหัวใจหนักอึ้งไปหมด: "ซื่อจื่ออย่าได้พูดอย่างนี้เลย หลังจากนี้ไปก็ขอว่าอย่าได้พูดอีก ข้าไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่เจ้าคิด องครักษ์ของเจ้าเจ้าก็ดูแลเองเถอะ ข้าไม่อยากหาเรื่องยุ่งยากมาใส่ตัว
ทำไมถึงพูดเรื่องหนัก ๆ แบบนี้ล่ะ ซื่อจื่อวางใจเถอะ กระดูกกระเดี้ยวในร่างกายเจ้าแข็งระดับนี้อยู่ต่อไปอีกสิบปีก็ไม่มีปัญหา ไม่แน่นะว่าบางทีพอถึงเวลานั้นอาจมีปาฏิหาริย์ก็ได้ เรื่องของอนาคตค่อยพูดกันในอนาคต แค่หวงแหนปัจจุบันให้ดีก็พอ "
หยุนถิงยื่นมือออกไปกอดจวินหย่วนโยว หากก่อนหน้านี้คือความเห็นอกเห็นใจ ตอนนี้มันคือความเอ็นดูสงสาร
นางรู้สึกเจ็บปวดใจแทนเขาจริง ๆ สำหรับทุกสิ่งที่เขาต้องทนแบกรับมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา สำคัญยิ่งกว่านั้นคือความไว้วางใจและความห่วงใยที่เขามีต่อตัวเอง รวมถึงความรู้สึกที่แท้จริงซึ่งหาได้ยากของเขาด้วย
ในฐานะซื่อจื่อ เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางกลอุบาย แผนการชั่วร้ายต่าง ๆ นานาตั้งแต่เด็ก การที่เขาทำแบบนี้กับนาง นับว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากจริง ๆ
จวินหย่วนโยวจับมือของหยุนถิงแน่นขึ้น ก้มหน้าลงจุมพิตบนหน้าผากของนางเบา ๆ
"ขอบคุณเจ้ามาก ที่ยินดีอยู่เคียงข้างข้า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...