จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 63

"ท่านแม่ ข้าก็ไม่อยากตายเหมือนกัน เป็นเพราะน้องหญิงสี่กับท่านพี่เกิดมีปากเสียงกัน ข้าจึงได้เข้ามาขอความเมตตา" หยุนหลิงพูดถึงจุดยืนของตนเองทันที

นางจ้าวเห็นบุตรสาวทั้งสองของตนเองถูกกระบี่ยาวขององครักษ์ผู้หนึ่งจี้อยู่ที่คอ สีหน้าก็ไม่น่า และเป็นกังวลดูอย่างมาก

"เจ้าเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาถือกระบี่จี้บุตรสาวของข้า ที่นี่คือจวนเฉิงเซี่ยง เจ้าจะมาทำอะไรป่าเถื่อนเช่นนี้ไม่ได้นะ" นางจ้าวกล่าวด้วยความโมโห

"นางจ้าวเจ้าหุบปากเลยนะ นี่คือองครักษ์เงามังกรของซื่อจื่อ เจ้าอย่ามาสร้างปัญหาเพิ่ม" หยุนเฉิงเซี่ยงกล่าวห้ามปราม

เดิมทีนางจ้าวที่วางมาดใหญ่โต สีหน้ากลับไม่น่าดูขึ้นมาทันที อับอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี องครักษ์เงามังกรเป็นองครักษ์อันดับหนึ่งของแคว้นต้าเยียน ที่อยู่ในสังกัดของซื่อจื่อ กระทั่งฮ่องเต้และไทเฮาก็บงการไม่ได้

"ไอ๋หยา นี่ล้วนเป็นความเข้าใจผิด ข้าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นห่วงบุตรสาวมากเกินไป จึงไม่รู้ลำดับความสำคัญ ซื่อจื่อได้โปรดอย่าตำหนิเลยนะเพคะ" นางจ้าวกล่าวขออภัยทันที

หลงเอ้อชำเลืองมองนาง มุมปากยกยิ้มอย่างเหยียดหยาม: "บุตรสาวตัวดีทั้งสองของเจ้า ด่าประจานซื่อจื่อ อีกทั้งยังทำให้ฮูหยินของข้าต้องอับอายขายหน้า เจ้าเป็นแม่ที่สั่งสอนได้ดีจริงๆ"

ขณะเดินทางมา คนรับใช้ได้เล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้นางจ้าวฟังคร่าวๆ แล้ว นางจ้าวในเวลานี้รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ไม่ว่าอย่างไร นั่นก็คือบุตรสาวแท้ๆ ของตนเอง เป็นเนื้อสองก้อนที่หลุดออกมาจากร่างกายของตนเอง แต่ทว่า นางมีแก่ใจแต่ไร้กำลัง อีกฝ่ายดุร้ายกระหายเลือด เหมือนกับจวินซื่อจื่อพญายมในนรก

หัวใจของนางจ้าวแตกสลาย เดินเข้าไป แล้วตบหน้าหยุนหลีและหยุนหลิงโดยตรง: "พวกเจ้าทั้งสองไม่รู้จักลำดับความสำคัญ ทำไมถึงพูดจาไร้มารยาทเช่นนี้ นั่นคือซื่อจื่อและคุณหนูใหญ่นะ พวกเจ้าเอาความกล้ามาจากไหนกัน ต้องโทษที่ข้าสะเพร่าในการสั่งสอนพวกเจ้า ยังไม่รีบยอมรับผิดต่อซื่อจื่อและคุณหนูใหญ่อีก"

หยุนหลีมองไปยังนางจ้าวอย่างไม่อยากจะเชื่อ: "ท่านแม่ ทำไมกระทั่งท่านก็ตบข้าหรือ?"

"ที่ข้าตบก็เพราะว่าเจ้ามันโง่ ซื่อจื่อเป็นใคร เจ้าทำให้อับอายขายหน้าได้อย่างไรกัน นี่ไม่ใช่ว่าเจ้ารนหาที่ตายเสียเองหรือ บัดนี้ข้าก็ช่วยพวกเจ้าไม่ได้ รีบไปยอมรับผิดเสีย ไม่เช่นนั้นท่านพ่อของเจ้าก็ไม่อาจปกป้องพวกเจ้าได้" นางจ้าวกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ต่อความไม่ได้เรื่องของบุตร

"ซื่อจื่อข้าผิดไปแล้ว ท่านพี่ข้าสำนึกผิดแล้ว เจ้ากับซื่อจื่อได้โปรดเมตตาปล่อยข้าไปด้วยเถิด เป็นเพราะข้าไม่ได้แนะนำน้องหญิงสี่ นางจึงได้พูดจาจาบจ้วง" หยุนหลิงคุกเข่าขอความเมตตาทันที

เพียงหยุนหลีได้เห็น ก็ตกตะลึง ท่านแม่และท่านพ่อต่างก็ปกป้องตนเองไม่ได้ หรือว่าวันนี้ตนเองจะต้องจบเห่แล้วจริงๆ

ได้ยินคำพูดของหยุนหลิง หยุนหลีก็ยิ่งโมโหเดือดดาล: "พี่หญิงรอง นี่เจ้าต้องการจะโยนความผิดให้ข้าอย่างนั้นหรือ หรือว่าไม่ใช่เจ้าที่บอกว่าพี่ใหญ่ไม่มีคุณธรรม สูตรชานมที่ได้กำไรมากแต่ไม่เอากลับไปให้ครอบครัวหรอกเหรอ?"

หยุนหลิงตกใจจนตัวสั่น: "น้องหญิงสี่ ข้าวสามารถกินเรื่อยเปื่อยได้ แต่คำพูดไม่สามารถพูดส่งเดชได้ เจ้าอย่ามาใส่ความข้านะ ข้าเคยพูดจาเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?"

ภายในใจหยุนหลิงก่นด่านังงี่เง่าหยุนหลีคนนี้ คาดไม่ถึงว่าจะมากัดนางในเวลานี้

"พี่หญิงรองตอนที่พวกเราเปลี่ยนเสื้อผ้าเจ้าเป็นคนพูดด้วยตัวเอง แถมยังบอกให้ข้าคิดหาวิธีไปขอสูตรจากท่านพี่อีก เวลานี้คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะไม่ยอมรับ เจ้าคิดว่าจะปล่อยให้ข้าไปตายเองหรือ พี่หญิงรองจิตใจของเจ้าช่างโหดเหี้ยมอำมหิตจริงๆ" หยุนหลีจ้องมองไปยังนางอย่างโกรธแค้น

"น้องหญิงสี่ข้ารู้ว่าเจ้าหวาดกลัวว่าซื่อจื่อและท่านพี่จะลงโทษเจ้า แต่ข้าในฐานะพี่หญิงรองก็พยายามช่วยเจ้าขอความเมตตาอย่างสุดชีวิต แล้วทำไมเจ้าถึงได้ลากข้าลงน้ำไปด้วย คำพูดที่ข้าไม่เคยพูดเจ้าจะให้ข้ายอมรับได้อย่างไรกัน" หยุนหลิงร้องไห้ออกมาอย่างรู้สึกน้อยใจ

หยุนหลีโมโหเป็นอย่างมาก ชำเลืองมองไปยังคนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ : "เจ้าพูดมาซิว่า เมื่อครู่นี้ตอนที่เปลี่ยนเสื้อผ้า พี่หญิงรองได้พูดประโยคนั้นหรือไม"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ