โม่ฉือหานถึงได้ตระหนักขึ้นมาได้ว่าตัวเองเสียมารยาทไป สีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย “ข้าได้ยินว่าพวกเจ้ากลับมาแล้ว ฝ่าบาทก็อยู่ด้วย ก็เลยเข้ามาดูหน่อย คำนับฝ่าบาท!”
ขณะที่พูด เขาก็คำนับฮ่องเต้
“ลุกขึ้นมาเถิด ในเมื่อหลีอ๋องมาแล้ว ก็เข้ามานั่งด้วยกันเถิด บุญคุณความแค้นในอดีตล้วนผ่านไปหมดแล้ว วันนี้หาได้ยากที่พวกเจ้ากลับ!” ฮ่องเต้ตรัสไกล่เกลี่ยให้ลงเอยกันด้วยดี
วันนี้หากปล่อยให้หลีอ๋องกับจวินหย่วนโยวทะเลาะวิวาทกันขึ้นมา มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศหรอกหรือ
“ในเมื่อฝ่าบาททรงตรัสเช่นนี้แล้ว งั้นข้าก็ไม่ถือสาหาความกับเขาแล้ว” จวินหย่วนโยวกล่าวออกมาอย่างเย็นชา หันหลังเดินกลับไปนั่งข้างกายหยุนถิง
พ่อบ้านให้องครักษ์ยกเก้าอี้เข้ามาทันที โม่ฉือหานเดินเข้าไปนั่งลง
“หลีอ๋องมาที่จวนซื่อจื่อวันนี้ ด้วยเรื่องอันใด?” หยุนถิงกล่าวถามอย่างเย็นชา
“พี่รอง คำพูดที่ท่านให้คนมาถ่ายทอดที่จวนข้าวันนี้ ข้าไม่รับปากหรอกนะ ข้าเอาอกเอาใจโม่หลานยังไม่ทันด้วยซ้ำ ข้าไม่ควบคุมนางหรอก อีกอย่างข้าก็ไม่มีปัญญาควบคุมด้วย” จู่ๆโม่ฉือชิงที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยปากขึ้นมา
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา คนอื่นๆล้วนมองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“คำพูดของท่านหมายความว่าอย่างไร อะไรคือท่านควบคุมข้า?” โม่หลานไม่เข้าใจ
“ก็คือวันนี้พี่รองให้คนไปแจ้งที่จวน หากข้าไม่สามารถควบคุมเจ้าได้ เขาจะสั่งสอนเจ้าแทนข้าเอง” โม่ฉือชิงรีบอธิบายทันที
โม่ฉือหานที่อยู่ด้านข้างจ้องมองมาด้วยความโกรธ เจ้าสี่คนนี้นี่เรื่องไหนไม่ควรพูดก็พูดเรื่องนั้นขึ้นมาจริงๆ ถึงกับเอ่ยขึ้นมาเวลานี้ นี่มันหาเรื่องใส่ตัวไม่ใช่หรือ
เวลานี้ โม่ฉือหานรู้สึกเสียใจภายหลังเล็กน้อยจริงๆที่ส่งคนไปคุยกับเจ้าทึ่มคนนี้
โม่หลานโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที หนึ่งหมัดจู่โจมเข้ามาทางโม่ฉือหาน “หลีอ๋องเจ้าคนต่ำช้า ถึงกับยุยงให้เฉินอ๋องทะเลาะกับข้า นี่เจ้ากำลังยุแยงตะแคงรั่วอยู่ ดูสิว่าข้าจะสั่งสอนเจ้าอย่างไร”
โม่ฉือหานรีบหลบออกไปทันที กำลังจะตอบโต้ แต่กลับถูกฮ่องเต้ตวาดด้วยความโกรธ “พอได้แล้ว พวกเจ้าไม่เห็นว่าข้าอยู่ด้วยหรือ พวกเจ้าอยากสู้กันก็ออกไปสู้ข้างนอก อย่าทำให้เด็กสองคนตกใจ ยิ่งไม่ใช่โอกาสในคืนนี้!”
โม่หลานถึงได้ยอมล้มเลิกไป “หลีอ๋อง แน่จริงหลังอาหารมื้อนี้แล้วเราสองคนสู้กันตัวต่อตัว เจ้ากล้าไหม?”
“เมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้น!” โม่ฉือหานกล่าวออกมาอย่างเย็นชา
“โม่หลานเจ้าอย่าโกรธไปเลย เป็นความผิดข้าเองที่พูดจาไม่มีกาลเทศะ ความจริงพี่รองเขาก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เจ้าอย่าสู้กับพี่รองเลยนะ!
พี่รองท่านก็เหมือนกัน โม่หลานเป็นหวางเฟยของข้า น้องสะใภ้ของท่าน ท่านจะลงมือกับน้องสะใภ้ได้อย่างไร ถ้าอย่างไรก็ช่างมันเถอะ?” โม่ฉือชิงสอบถามทั้งสองฝ่าย
“หุบปาก!” โม่หลานกับโม่ฉือหานเอ่ยปากพร้อมกัน
โม่ฉือชิงตกใจจนไม่กล้าพูดอะไรอีก ตัวเองช่างปากพล่อยจริงๆ ทำไมต้องพูดเรื่องนี้ขึ้นมาด้วย
“ท่านอา ข้าอยากกินห่านย่าง” เสียงที่ไร้เดียงสาของจวินเสี่ยวเหยียนดังมา ทำลายความกระอักกระอ่วนนี้
“ตกลง อาคีบให้เจ้า” โม่เหลิ่งเหยียนหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเนื้อห่านหนึ่งชิ้นวางเอาไว้ในจานที่อยู่ตรงหน้าของจวินเสี่ยวเหยียนทันที แถมยังช่วยนางแกะกระดูกออกอย่างเอาใจใส่
จวินเสี่ยวเหยียนหยิบขึ้นมาทันที กินมันอย่างมีความสุข
โม่ฉือหานเห็นภาพฉากนี้ จู่ๆในใจก็รู้สึกขมขื่นเล็กน้อย
หากตัวเองไม่ได้หย่ากับหยุนถิง ลูกสาวของพวกเขาก็คงจะโตประมาณนี้ และน่ารักเช่นนี้ใช่ไหม
คิดถึงตรงนี้ โม่ฉือหานหยิบถ้วยสุราที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาเงยหน้าดื่มลงไปจนหมด
ไม่รู้ว่าทำไม หยุนถิงถึงได้รู้สึกถึงความโดดเดี่ยว อ้างว้างจากตัวของโม่ฉือหาน
นางต้องรู้สึกผิดไปแน่ๆ คนใจดำอำมหิตอย่างหลีอ๋องจะมีอารมณ์เช่นนี้ได้อย่างไรกัน
“หยุนถิงเจ้ากินเยอะๆหน่อย ดูสิเจ้าผอมลงไปแล้ว” ซูชิงโยวคีบอาหารให้นางด้วยความเอ็นดูสงสาร
“ขอบคุณพี่สะใภ้มาก เมื่อครู่ข้าเห็นท้องของท่านเริ่มใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อยอีกแล้ว นี่คือตั้งครรภ์แล้วใช่ไหม?” หยุนถิงเอ่ยปากถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...