หวางจื้อหรงพูดอย่างมีอารมณ์ว่า “ยังจำครั้งเมื่อพวกเรากินข้าวกันครั้งแรกได้อยู่เลย เมิ่งเหยนลูกสาวนาย กับเฟิ่งหย่าลูกสาวฉันล้วนแต่ยังเป็นเด็กเมื่อวานซืนอยู่เลย แต่เพียงแค่ชั่วพริบตา ก็กลับกลายเป็นหญิงสาวซะนี่ แถมยังแต่งงานกันหมดแล้วด้วย เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียจริง”
หวางจื้อหรงจงใจเหลือบไปมองที่ลูกเขยสวีชง
สวีชงนั้นเข้าใจความหมายดี เขาเติมไวน์ให้เต็ม ถือแก้วไวน์ไว้ในมือทั้งสองข้าง ยืนขึ้นและคำนับ พร้อมกับพูดกับติงฉี่ซานว่า “ผมสวีชงขอแสดงความเคารพคุณลุงหนึ่งแก้วครับ”
“เฮ้ ยินดีด้วยนะ”
ติงฉี่ซานชนแก้วกับสวีชง จากนั้นก็ต่างคนต่างดื่ม
เขาวางถ้วยลงแล้วถามอย่างเป็นกันเองว่า “สวีชง ฉันเคยได้ยินมาว่านายเป็นคนจีนโพ้นทะเลในออสเตรเลียงั้นเหรอ?”
สวีชงพยักหน้า “ใช่ครับ พ่อของผมมาจากเสฉวน เขาไปออสเตรเลียเพื่อทำธุรกิจตั้งแต่ยังเด็ก จากนั้นก็ไปตั้งรกรากในออสเตรเลีย ได้รู้จักกับแม่ ต่อมาก็มีผมครับ ผมเกิดที่ออสเตรเลีย ได้หนังสือเดินทางออสเตรเลียด้วย ไม่กี่ปีมานี้ ผมกับพ่อก็ได้กลับมาประเทศจีน ปัจจุบันผมก็ทำงานในบริษัทต่างประเทศเป็นที่ปรึกษาองค์กรอยู่ครับ”
เมื่อพูดจบ สวีชงก็รู้สึกทะนงตนเป็นอย่างมาก
ภูมิหลังที่ต่างประเทศ มีหนังสือเดินทางออสเตรเลีย เดินทางกลับจีนเพื่อมาพัฒนา อีกทั้งยังได้ทำงานในบริษัทต่างประเทศอีก คำเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่หญิงสาวชอบฟังกันทั้งนั้น
ได้แต่งงานกับผู้ชายแบบนี้ ถือเป็นความฝันของผู้หญิงหลายคน
หวางจื้อหรงมีความสุขเป็นอย่างมาก
ใบหน้าของติงฉี่ซานนั้นหดลง ในทุกๆปีที่ต้องมาทานอาหาร เขาจะต้องมาเปรียบเทียบกับหวางจื้อหรงในทุกๆด้านเสมอ เขาชนะกี่ครั้งแพ้กี่ครั้ง แต่ปีนี้ค่อนข้างจะลำบากน่ะสิ
เพราะอีกฝ่ายได้พาลูกเขยชาวออสเตรเลียมาที่งานเลี้ยงนี่
แต่ฝ่ายตนนั้น…..
ติงฉี่ซานเหลือบมองเจียงชื่อด้วยใบหน้าที่ผิดหวังเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะรู้จักเจียงชื่อและรู้ว่าเจียงชื่อนั้นเป็นลูกเขยคนน่าเชื่อถือ แต่ภูมิหลังและการทำงานของเจียงชื่อนั้นมันธรรมดาเกินไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...