“ที่แท้ก็เป็นอย่างงี้นี่เอง รถนี่เป็นของติงเฟิงเฉิงงั้นเหรอ?”
“ถูกแล้ว ขึ้นรถเถอะ”
เนื่องจากดื่มเหล้ามา เพราะฉะนั้นเจียงชื่อไม่สามารถขับรถได้ เขาจึงต้องไปนั่งเบาะข้างคนขับ แล้วให้ติงเมิ่งเหยนเป็นคนขับรถกลับไป
ติงเมิ่งเหยนขับรถบนถนนที่กว้าง ด้วยความเร็วไม่มากนัก
ขับมาได้ถึงครึ่งทาง เธอก็รู้สึกร้อนขึ้นมานิดหน่อย จึงเปิดหน้าต่างให้ลมพัดเข้ามา ขับรถไปลมพัดมา เธอจึงรู้สึกไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่
ในเวลานี้ มีGTR สีขาวเงินคันหนึ่งขับขึ้นมาจากด้านหลังรถของพวกเขา เนื่องจากถนนเป็นถนนคู่ขนาน อีกทั้งยังมีแถบสีเหลืองขีดทับ รถGTRที่อยู่ด้านหลังต้องการที่จะแซงขึ้นไป แต่ติงเมิ่งเหยนไม่สามารถให้ไปได้ในเวลานี้
อีกฝ่ายบีบแตรสี่ห้าครั้ง
ติงเมิ่งเหยนขมวดคิ้วและพูดว่า “รถคันหลังนี่มันอะไรกัน?ดึกขนาดนี้แล้วยังจะขับเร็วอยู่ได้ อีกอย่าง ถนนเส้นนี้ก็ไม่มีทางให้แซงด้วย”
ขณะที่พูด ก็มีสิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจขึ้นมา
เห็นเพียงแค่รถ GTRได้ขับแซงเส้นคู่ขนานสีเหลืองขึ้นมา ด้วยความเร็วสูง และค่อยๆไล่ระดับขึ้นมาเทียบกับติงเมิ่งเหยน
ด้านตรงข้ามเป็นชายหนุ่มที่ดูอายุน้อยมากๆสองคน
คนขับสวมผ้าโพกหัวเอาไว้ เป็นคนสูง คนที่นั่งในเบาะผู้โดยสารเป็นเด็กชายที่ดูกระฉับกระเฉงอีกคน
ชายคนกระฉับกระเฉง เงยหน้าขึ้นและดื่มโค้กในมือ
เขาหันหัวและตะโกนใส่รถของติงเมิ่งเหยน “เฮ้ ยัยนี่ ขับรถเป็นหรือเปล่าเนี่ย?ขับช้าขนาดนี้เป็นหอยทากหรือไง?ไอ้ขยะเอ๊ย!
หลังจากพูดจบ ก็โยนขวดโค้กไปที่หน้าต่างรถของติงเมิ่งเหยน ซึ่งนั่นทำให้โดนหน้าของติงเมิ่งเหยนเข้าอย่างจัง
จากนั้น ชายที่ดูกระฉับกระเฉงก็ยกนิ้วกลางให้ติงเมิ่งเหยน
ชายโพกผ้าก็เหยียบคันเร่งขึ้น รถGTRเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว โดยที่ได้ทิ้งเมิ่งเหยนเอาไว้
“ไอ้สวะเอ้ย!”
ติงเมิ่งเหยนโกรธแทบจะบ้า ขับรถมาตั้งหลายปี เพิ่งจะเคยเจอคนเลวๆแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...