บทที่74 เงินค้างชำระงวดสุดท้ายที่หายไป
อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์คือความคิดถึงอย่างจริงใจของเจียงชื่อที่มีต่อเจียงโม่น้องชายของเขา
เป็นเวลาหลายวันแล้วที่เจียงชื่อทุ่มพลังทั้งหมดให้กับบริษัทเข้าทำการซื้อสองกิจการเป็นงานใหญ่ก่อนอันดับแรกและดำเนินการควบรวมกิจการได้สำเร็จ
ในเวลาเดียวกันการก่อสร้างฐานที่มั่นของอุตสาหกรรมบันเทิงและวัฒนธรรมเองก็ได้เริ่มต้นแล้วเช่นกันและสามารถสร้างเสร็จได้ในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนอย่างรวดเร็วที่สุด
ทางด้านของเฉิงดันถิงได้ดำเนินการสองเรื่อง เรื่องแรกคือเปิดช่องทางทุกช่องในเมืองเจียงหนานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการวางทรัพยากรไว้บนหิ้งในอนาคต เรื่องที่สองคือการออกประกาศรับสมัครดึงดูดผู้มีพรสวรรค์อันโดดเด่นด้านงานบันเทิงอย่างต่อเนื่อง
การดำเนินการทั้งหมดนี้เป็นไปอย่างคึกคักและรวดเร็ว
ถึงแม้จะต้องใช้เงินลงทุนในช่วงแรกค่อนข้างมาก แต่เจียงชื่อมองว่าความพยายามทั้งหมดนั้นคุ้มค่า
วันนี้หลังจากทำงานเสร็จแล้ว เจียงชื่อลากร่างกายที่เหนื่อยล้ากลับมาที่บ้าน
ทันทีที่เข้าไปในบ้านก็รู้สึกว่าบรรยากาศไม่ค่อยจะปกตินัก
ติงฉี่ซานพ่อตานั่งใช้สองมือกุมหัวอยู่บนโซฟา ดวงตาจ้องมองบัตรเครดิตธนาคารที่อยู่บนโต๊ะกาแฟ คิ้วขมวดแน่น ไม่รู้ว่ากำลังครุ่นคิดเรื่องอะไรอยู่
ติงเมิ่งเหยนและซูฉินทั้งหมดยืนอยู่ข้างๆ บนหน้าล้วนแต่มีสีหน้ากังวลทั้งสองคน
“พ่อ แม่ เมิ่งเหยน พวกคุณเป็นอะไรงั้นเหรอ?” เจียงชื่อเดินเข้าไปถาม
ติงเมิ่งเหยนดึงเขาออกไปด้านข้าง “ไม่มีอะไรค่ะ คุณรีบไปพักผ่อนเถอะ”
ไม่มีอะไร?
นี่มันเหมือนไม่มีอะไรหรือไง?
เจียงชื่อพูดว่า “ผมไม่ได้โง่นะครับ ใบหน้าพวกคุณแต่ละคนเต็มไปด้วยความหม่นหมอง ยังจะบอกผมอีกว่าไม่มีเรื่องอะไร?”
ติงเมิ่งเหยนถอนใจ “คุณเพิ่งหางานทำได้ไม่ใช่หรือไง เห็นคุณทำงานยุ่งวันเลยไม่อยากรบกวนคุณ”
เจียงชื่อยิ้ม “ทำงานยุ่งแต่ก็ไม่อาจจะไม่สนใจคนในครอบครัวได้หรอกนะครับ บอกผมมา ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หลังจากลังเลอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าติงเมิ่งเหยนก็พูดความจริงออกมา
เธอชี้ไปที่บัตรเครดิตบนโต๊ะแล้วพูดว่า “บ่ายวันนี้ ผู้อำนวยการแผนกของพ่อยื่นบัตรเครดิตให้กับเขา ให้เขาไปธนาคารเพื่อชำระเงินงวดสุดท้ายของโครงการสำนักงานทรัพยากรน้ำ รวมทั้งหมดสามสิบกว่าล้าน หลังจากที่พ่อไปที่นั่นถึงได้พบว่าภายในบัตรไม่มีเงินเลยสักหยวนเดียว พอโทรไปถามผู้อำนวยการ ผลคือผู้อำนวยการยืนยันว่าบทที่เขามอบบัตรให้ยังมีเงินอยู่เลย”
“จู่ๆเงินสามสิบกว่าล้านก็หายไป ตอนนี้พ่อของฉันก็ไม่อาจหาคำมาโต้แย้งได้ คนอื่นๆต่างคิดว่าเขาเขมือบเงินไปแล้ว เขากำลังเป็นกังวลเพราะเรื่องนี้ เขานั่งมาตลอดบ่ายจนถึงตอนนี้ แต่ก็คิดวิธีไม่ออก”
สามสิบกว่าล้าน นั่นไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลย ถ้าหากว่าเป็นสามแสนกว่าหยวนก็ยังพอที่จะเอาเงินจากที่บ้านมาอุดไว้ก่อน ;แต่น่ากลัวว่าจำนวนสามสิบกว่าล้าน ถึงจะกัดฟันเอาไว้ก็อุดไม่อยู่แล้ว
ปัญหาก็คือ สามสิบกว่าล้าน ขายบ้านก็ยังอุดไม่อยู่!
เจียงชื่อคิ้วขมวด “เมิ่งเหยน นี่ยังเรียกว่าไม่มีอะไรงั้นเหรอ?”
ติงเมิ่งเหยนถอนหายใจหลายครั้ง “ไม่ใช่เพราะฉันกลัวคุณจะกังวลใจเหรอ ยิ่งไปกว่านั้นบอกคุณไปก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นเลยไม่อยากให้คุณรู้ ฉันกลัวว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่องานใหม่ของคุณด้วย”
ในขณะที่กำลังพูด รถ BMW สีขาวคันหนึ่งขับมาจอดอยู่หน้าประตูบ้านของตระกูลติง เมื่อประตูรถเปิดออก ชายวัยกลางคนที่หัวล้านพุงโตคนหนึ่งได้เดินออกมา
เขาคือผู้อำนวยการแผนกของติงฉี่ซาน ----เมิ่งเจี้ยนซู่
มองเห็นเมิ่งเจี้ยนซู่เดินเข้ามาในบ้าน ติงฉี่ซานรีบเข้าไปต้อนรับ ขณะที่เชิญเมิ่งเจี้ยนซู่นั่งลงไปพลาง ก็เอ่ยถามอย่างร้อนใจไปพลางว่า “ผู้อำนวยการครับ คุณช่วยตรวจสอบให้ผมแล้วหรือยังครับ เงินสามสิบกว่าล้านหายไปไหนกันแน่?”
เมิ่งเจี้ยนซู่ถอนหายใจอย่างหนักหน่วงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ฉี่ซาน ไม่ใช่ว่าผมจะว่าคุณนะ คุณเองก็แก่แล้ว ทำไมเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ทำไม่ได้? ไปชำระเงินงวดสุดท้ายของโครงการ คุณก็ยังก่อความวุ่นวายได้ขนาดนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...