สรุปตอน บทที่ 1035 ค่ายกลเทพสังหาร – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
ตอน บทที่ 1035 ค่ายกลเทพสังหาร ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
พระดึงเสื้อออก แล้วทำผ้าสิบชิ้น
เพราะตอนนี้พวกเขามารวมตัวกันสิบกว่าคนแล้ว
พระเหลือบมองพวกเขา แล้วพูดว่า “ฉันจะใช้ชี่แท้เป็นที่ปิดกั้นชิ้นผ้าเหล่านี้ ในบรรดาพวกเราสิบคน มีหนึ่งคนจะได้ผ้าที่เปื้อนด้วยเลือด”
“สำหรับคนที่ไม่ได้ผ้าที่เปื้อนเลือด จะเป็นผู้ควบคุมรากฐานค่ายกลเทพสังหาร”
“ทุกท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?” พระเหลือบมองทุกคน
“มาเริ่มกันเลย!” เมื่อเวลาที่ต้องเผชิญกับความเป็นความตาย ไม่มีใครมีความคิดเห็น
เมื่อเทียบกับคนที่ยังต่อสู้กับปรมาจารย์หลิน พวกเขาทั้งสิบคนนี้ถือว่าค่อนข้างโชคดี
คนอื่นตายเก้าคนรอดหนึ่งคน พวกเขาตายหนึ่งคนรอดชีวิตเก้าคน
“เริ่มกันเลย!”
พระเอื้อมมือไปหยิบ ผ้าสิบผืนอยู่ในมือเขา ปล่อยชี่แท้ออกมา ปิดกั้นการรับรู้ของทุกคน
“ฉันเริ่มก่อน!” บันฑิตหนุ่มเป็นผู้นำ ดึงผ้าผืนหนึ่งออกไป
คนที่เหลือก็ดึงไปคนละหนึ่งผืน เพื่อความยุติธรรม พระก็หยิบผ้าผืนสุดท้ายที่เหลืออยู่
“ทุกคนเปิดออกได้!”
ทุกคนกางฝ่ามือออก และชายชราเตี้ยคนหนึ่ง ได้ผ้าเปื้อนเลือดไป
อีกเก้าคนล้อมเขาไว้ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เขาหลบหนี
ชายชราคนนั้นดูตื่นตระหนก ภายใต้การรายล้อมด้วยคนเก้าคน มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหนีพ้น
“ถือว่าฉันโชคร้าย!”
“มาเลย!”
“ชายชราก็ตอบอย่างง่ายดาย
บันฑิตหนุ่มตะโกนว่า “ตั้งค่ายกล!”
“เปิดจักรวาล หมุนหยินและหยาง แล้วกลับคืนสู่ดาวเก้ายุค!”
ผู้แข็งแกร่งแดนเทพทั้งเก้าคน สับเปลี่ยน และจัดเรียงเป็นสี่ทิศทาง ซึ่งสอดคล้องกับดาวเก้ายุค
“เชิญดาบ!”
บันฑิตหนุ่มตะโกนเสียงดัง และชี้ไปที่ดาบ ชี้แนวทแยงมุมไปที่ชางฉอง
พลังงานชี่แท้ที่บริสุทธิ์ อยู่เหนือคนทั้งเก้าคนระยะประมาณสิบเมตร
“ฮ่อ!”
อีกแปดคนตะโกนพร้อมกัน และเช่นเดียวกับบันฑิตหนุ่ม ชี้ไปที่ดาบ และชี่แท้บริสุทธิ์พุ่งขึ้นบนอากาศกลายเป็นมวลชี่แท้
คนทั้งเก้าใช้พลังเต็มที่ มวลชี่แท้ก็ค่อยๆกลายเป็นรูปดาบ
ดาบเล่มนั้นฉายแสงหลากสี แพรวพราวน่าดึงดูด และน่าสะพรึงกลัว
หลินหยุนที่กำลังไล่ตามผู้แข็งแกร่งแดนเทพคนหนึ่ง เริ่มสัมผัสได้ หันศีรษะและมองมา และประหลาดใจเล็กน้อย
“ค่ายกลเทพสังหาร มีความสามารถในการเป็นเทพสังหารจริงๆ"
“น่าเสียดาย เซียนที่พวกแกพูดถึง ในสายตาของฉัน มันก็เหมือนคนธรรมดาบนโลกมนุษย์”
“เซียนที่แท้จริง แล้วคนอย่างพวกแกจะสังหารได้อย่างไร!”
หลินหยุนยังคงกระโจนเข้าหาผู้แข็งแกร่งแดนเทพคนนั้น ดาบเฮ่าเทียนชูขึ้น และตัดศีรษะเขาโดยตรง
ตอนนี้ ในเวลาเพียงไม่กี่นาที เขาได้ฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพไปแล้วห้าคน
อีกสองคนที่เหลือ เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี จึงรีบบินไปหาบัณฑิตหนุ่มและคนอื่นๆทันที
บัณฑิตหนุ่มและคนอื่นๆกำลังรอให้พวกเขาทั้งสองเข้ามาหา เช่นนี้ค่ายกลเทพสังหารสามารถใช้งานในการโจมตีได้อีกหลายครั้ง
“สังเวยดาบ!”
บัณฑิตหนุ่มตะโกนเสียงดัง และชายชราตัวเตี้ยที่ก่อนหน้านี้ดึงผ้าเปื้อนเลือดได้ ก็บินขึ้นไป อยู่เหนือฝูงชนแล้วเหยียบลงบนดาบยักษ์หลากสีนั้น
โอ้!
ชายคนนั้นเพิ่งจะสัมผัสกับดาบยักษ์เจ็ดสีสัน ก็รวมตัวเข้ากับดาบยักษ์เจ็ดสีสัน คนกับดาบก็กลายเป็นหนึ่งเดียว
ชายชราตัวเตี้ยคนนั้นสั่นไปทั้งตัว ราวกับว่าเขาต้องทนกับความเจ็บปวดอย่างมาก
สิ่งที่สามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งแดนเทพไม่อาจทนต่อความเจ็บปวด ไม่พูดก็พอจินตนาการได้
อย่างไรก็ตาม ไม่นานร่างของชายชราก็ไม่สั่นอีกต่อไป ตัวเขาและดาบยักษ์ได้รวมตัวกัน และทั่วร่างกายของเขาก็เปล่งแสงเจ็ดสี และสูงขึ้นอย่างหาที่เปรียบมิได้ ดูเหมือนเทพเจ้าที่ลงมาจุติยังโลก
ค่ายกลเทพสังหารมาถึงตรงนี้ ถือว่าเตรียมพร้อมสำเร็จ
บัณฑิตหนุ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและพูดว่า “หลินชางฉอง พลังของแกนั้นแข็งแกร่งมาก แม้แต่คนในโลกบู๊ทั้งหมดก็ไม่สามารถเอาชนะแกได้”
“แต่ว่า แกรู้หรือไม่ว่านี่คือค่ายกลอะไร?”
“ชื่อค่ายกล เทพสังหาร!” บัณฑิตหนุ่มจับชายชรากลางอากาศด้วยมือข้างหนึ่ง และมืออีกข้างหนึ่งชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือหัว ตะโกนเสียงดัง
หลินหยุนคุกเข่าลง และค่อยๆร่อนลงมาข้างหน้าบัณฑิตหนุ่มและคนอื่นๆราวกับเหยี่ยวนกเขา เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และมองไปที่ชายชราที่รวมดาบเป็นหนึ่งเล่ม
“พอดี ฉันก็มีดาบเล่มหนึ่ง ที่เรียกว่าเทพสังหาร”
พวกเรามาเปรียบเทียบกันดู ของใครแข็งแกร่งกว่ากัน
บัณฑิตหนุ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ดาบของแกก็คู่ควรกับชื่อเทพสังหารเหรอ!”
“ให้แกดูว่าเทพสังหารที่แท้จริงคือแบบไหน!”
“ดาบขึ้น!”
บัณฑิตหนุ่มตะโกนเสียงดัง
ใบหน้าของหลินหยุนไร้อารมณ์ เขายื่นมือออกและขยับดาบเฮ่าเทียนพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และหลังจากวนเวียนอยู่หนึ่งรอบก็หล่นลงมาอยู่ในมือของหลินหยุน
หลินหยุนหยิบดาบแล้วพุ่งขึ้นไป หันหน้าไปทางดาบชี่สีแดง และเฉือนออกไป
โว้ว!
ดาบชี่แตกเป็นเสี่ยงๆ แต่ร่างของหลินหยุนก็ถูกบังคับให้หยุดชั่วคราวเช่นกัน
บัณฑิตหนุ่มขมวดคิ้ว “กระบี่จิตหลิงฮุ่ย!”
วิญญาณที่สองในเจ็ดวิญญาณ หลิงฮุ่ย
กลางอากาศ ชายชราแสดงท่าทีเจ็บปวดอย่างยิ่ง และดาบชี่ไร้สีและโปร่งใส พุ่งออกมาจากหน้าอกของเขา
ในมือหลินหยุนถือดาบเฮ่าเทียน ราวกับแม่ทัพเทพเจ้าแห่งสงครามในสวรรค์ ฟันดาบไปที่กระบี่จิตหลิงฮุ่ยทันที
โว้ว!
ดาบที่แตกเป็นเสี่ยงๆ
พลังของหลินหยุนถูกบล็อกอีกครั้ง
บัณฑิตหนุ่มตะโกนเสียงดัง “กระบี่ชี่ กระบี่พลัง กระบี่อายุ กระบี่แก่นแท้ กระบี่หยาง!”
“ดาบห้าเล่มออกพร้อมกัน!”
บูม!
ชายชราตัวเตี้ยที่อยู่กลางอากาศ ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช และทั้งร่างของเขาก็โปร่งแสง
ดาบทั้งเจ็ดเล่มนี้ แทบจะดูดเอาแก่นแท้แห่งชีวิตของเขาไปพร้อมกับวิญญาณทั้งเจ็ดของเขา
ตอนนี้ เขาเหลือเพียงสามดวงวิญญาณของฟ้าดิน และชีวิตของเขาก็อยู่ได้ไม่นาน
ดาบชี่ทั้งห้าที่มีสีต่างกัน โจมตีหลินหยุนจากห้าทิศทาง
หลินหยุนไม่กล้าที่จะละเลย ใช้เก้ากระบี่ต้าเต๋าทะลุสวรรค์
มีเสียงติงติงตังตังเสียงเหล็กซิมโฟนีดังขึ้น
ดาบชี่ห้าเล่มแตกเป็นเสี่ยงๆอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ลมหายใจของหลินหยุนก็เริ่มที่จะยุ่งเหยิงเล็กน้อย
ดวงตาของบัณฑิตหนุ่มเป็นสีแดง ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “กระบี่วิญญาณฟ้า กระบี่วิญญาณดิน กระบี่วิญญาณชีวิต!”
กระบี่สามวิญญาณ!
ชายชราที่มีเพียงร่างกายที่โปร่งใสเหลืออยู่กลางอากาศ ก็สลายไปพร้อมกับเสียงตูม
กระบี่ชี่สีดำสีขาวสีแดงขนาดใหญ่สามอัน ปรากฏอยู่เหนืออากาศของผู้แข็งแกร่งแดนเทพทั้งเก้าคน
ดวงตาของบัณฑิตหนุ่มเป็นสีแดง และตะโกนเสียงดัง “กระบี่สามเล่มรวมหนึ่ง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...