“ฆ่าหลินชางฉองให้ตาย! ”
“ฆ่าหลินชางฉองให้ตาย! ”
เสียงคำรามที่เยือกเย็นดังขึ้นเรื่อยๆ จากปากของพวกนักฆ่าที่บุกเข้ามา
ติดตามมาด้วย ก็คือพวกนักฆ่าที่บุกเข้ามาราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ
พละกำลังของพวกนักฆ่าเหล่านี้ห่างไกลจากคู่สังหารไฟหนาวนั้นอีกมาก พละกำลังของบางคนเป็นแค่แดนปรมาจารย์เท่านั้นเอง
พวกนักฆ่าจำนวนยี่สิบกว่าคนที่บุกเข้ามานั้น ไม่มียอดฝีมือแดนเทพเลยแม้แต่คนเดียว
คาร์นอตวิลเลียมพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยามว่า “ไม่เจียมตัวเสียเลย รนหาที่ตายชัดๆ!”
พวกนักฆ่าเหล่านี้ล้วนแต่รนหาที่ตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ในโลกตะวันตกนั้น หลินหยุนลงมืออย่างไม่เคยเห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น นักฆ่าพวกนี้ไม่มีใครสามารถรอดพ้นจากการสังหารศัตรูพร้อมกันด้วยกระบวนเพลงเดียวของหลินหยุนได้เลย
ภายในช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่นาทีเท่านั้น พวกนักฆ่าที่บุกเข้ามาเหล่านั้นก็ถูกหลินหยุนฆ่าฟันจนหมดเกลี้ยง ศพนอนตายเกลื่อนกลาดไปทั่วพื้นดิน
หลังจากนั้น หลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมก็ยืนอยู่ตรงหน้าปากทางเข้าวังใต้ดินแล้ว
หลินหยุนมองดูปากถ้ำที่ลึกลับนั้น แล้วพูดว่า “เข้าไปดูกันเถอะ!”
คาร์นอตวิลเลียมพูดอย่างกังวลใจเล็กน้อยว่า “จะมีกับดักหรือเปล่า?”
หลินหยุนสีหน้าเรียบเฉย ก้าวเดินเข้าไปข้างหน้า “ถึงแม้จะมีกับดัก ฉันจะไปกลัวอะไรล่ะ?”
ทั้งสองคนเดินไปตามขั้นบันไดหิน ค่อยๆลงไปยังข้างล่าง ระหว่างทางก็ไม่ได้เจออุปสรรคหรือกับดักใดๆเลย
สำนักงานใหญ่ขององค์กรเทพมรณะ ไม่จำเป็นจะต้องวางกับดักใดๆไว้ทั้งสิ้น
ส่วนศัตรูที่สามารถเดินเข้ามาถึงที่นี่ได้ ต่อให้วางกับดักเอาไว้ สำหรับพวกเขาแล้วก็ไม่มีมีผลอะไรเลย
ผู้นำขององค์กรเทพมรณะเข้าใจชุดนี้ดี
หลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมเดินเข้าไปในส่วนลึกที่สุดของวังใต้ดิน ภายใต้แสงที่มืดสลัวนั้น ก็มองเห็นรูปปั้นพลูโตขนาดเล็กนั้น
ตรงหน้ารูปปั้นพลูโตขนาดเล็กนั้น ก็มีคนลึกลับในชุดเสื้อดำคลุมทั้งตัวยืนอยู่คนหนึ่ง
“หลินชางฉอง แกข่มเหงคนมากเกินไปแล้วนะ!” ดวงตาทั้งคู่ของผู้นำองค์กรเทพมรณะ ส่องประกายแสงสีแดงเข้มออกมา ประกายแสงสีแดงนั้นกะพริบอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดความรู้สึกน่าสะพรึงกลัว
หลินหยุนมองดูเขา แล้วถามอย่างเรียบๆว่า “แกก็คือผู้นำขององค์เทพมรณะเหรอ?”
“ฉันแปลกใจมากเลย ตอนนั้นใครเป็นคนจ้างวานให้พวกแกมาฆ่าฉัน”
ผู้นำองค์กรเทพมรณะพูดด้วยเสียงหัวเราะแปลกประหลาดว่า “ข้อมูลของผู้จ้างวานพวกเราไม่สามารถเปิดเผยได้”
“แต่ว่าฉันนึกไม่ถึงก็คือ แกถึงกับเติบโตได้รวดเร็วขนาดนี้ ถ้ารู้แต่แรกว่าแกจะแข็งแกร่งขนาดนี้ มิหนำซ้ำยังคุกคามถึงองค์กรเทพมรณะทั้งหมดเข้าสักวันหนึ่งอีกด้วย ตอนนั้นฉันควรจะฆ่าแกให้ตายไปเสียดีกว่า”
“ตอนนี้ก็คงไม่ต้องพบกับภาวะวิกฤติเหมือนวันนี้แล้ว”
หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “เสียดายที่ว่า ในโลกนี้ไม่มียาที่รักษาโรคเสียใจภายหลังได้”
“ฉันยังมีคำถามอีกอย่างหนึ่ง ในเมื่อแกสามารถเป็นผู้นำขององค์กรเทพมรณะแล้ว งั้นจะต้องไม่ใช่เป็นคนที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนามอย่างแน่นอน ฉันอยากรู้ว่าแกเป็นใครกันแน่?”
ผู้นำองค์กรเทพมรณะหัวเราะเสียงดังด้วยน้ำเสียงที่แปลกประหลาด “ฮ่าๆๆ หลินชางฉอง คำถามของแกไม่ใช่น้อยเลยนะ อยากรู้ว่าฉันเป็นใคร ก็รอให้แกตายไปก่อน ฉันก็จะบอกแกเอง”
หลินหยุนพูดว่า “ขอเพียงแค่รู้ว่าแกเป็นใคร ฉันก็สามารถคาดเดาว่ารูปปั้นข้างนอกนั้นใครเป็นคนสร้างขึ้นกันแน่”
“รูปปั้นที่ใช้ขวางทางชี่ทิพย์จากฟ้าดินรูปนั้น จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน”
ดวงตาทั้งคู่ของผู้นำองค์กรเทพมรณะส่องแสงสีแดงวาววับออกมา แล้วถามอย่างแตกตื่นตกใจเล็กน้อยว่า “แกถึงกับดูออกแล้ว”
“งั้นก็ยิ่งปล่อยให้แกรอดออกไปไม่ได้แล้ว”
พูดจบ ร่างของเขาก็หายวับไปจากที่เดิมทันที
หลินหยุนสายตาส่องประกายเล็กน้อย จู่ๆก็ชกหมัดออกไปเหนือศีรษะหนึ่งที
โป้ง!
เงามืดดำร่างหนึ่งก็ถูกหมัดของหลินหยุนชกกระเด็นถอยออกไป
คาร์นอตวิลเลียมตะโกนด้วยความแปลกใจว่า “นี่เป็นเคล็ดวิชาของเผ่าโลหิตพวกเรา!”
“แก แกคือเผ่าโลหิต!”
“ด้วยพละกำลังของแก อย่างน้อยที่สุดก็จะต้องระดับดยุกแล้ว แกเป็นใครกันแน่?”
คาร์นอตวิลเลียมจ้องมองไปยังผู้นำเทพมรณะด้วยสีหน้าสงสัย
“แฮะๆ ไอ้หนุ่ม แกคงไม่อยากรู้หรอก” ผู้นำองค์กรเทพมรณะหัวเราะอย่างแปลกประหลาด เงาร่างก็หายวับไปอีกครั้งหนึ่ง
หลินหยุนก็ชกหมัดออกไปข้างหลังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอีกครั้งหนึ่ง
โป้ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...