จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1057

สรุปบท บทที่ 1057 เวทมนตร์ที่ล้ำเลิศที่สุด: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปเนื้อหา บทที่ 1057 เวทมนตร์ที่ล้ำเลิศที่สุด – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บท บทที่ 1057 เวทมนตร์ที่ล้ำเลิศที่สุด ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“ฆ่าหลินชางฉองให้ตาย! ”

“ฆ่าหลินชางฉองให้ตาย! ”

เสียงคำรามที่เยือกเย็นดังขึ้นเรื่อยๆ จากปากของพวกนักฆ่าที่บุกเข้ามา

ติดตามมาด้วย ก็คือพวกนักฆ่าที่บุกเข้ามาราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ

พละกำลังของพวกนักฆ่าเหล่านี้ห่างไกลจากคู่สังหารไฟหนาวนั้นอีกมาก พละกำลังของบางคนเป็นแค่แดนปรมาจารย์เท่านั้นเอง

พวกนักฆ่าจำนวนยี่สิบกว่าคนที่บุกเข้ามานั้น ไม่มียอดฝีมือแดนเทพเลยแม้แต่คนเดียว

คาร์นอตวิลเลียมพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยามว่า “ไม่เจียมตัวเสียเลย รนหาที่ตายชัดๆ!”

พวกนักฆ่าเหล่านี้ล้วนแต่รนหาที่ตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ในโลกตะวันตกนั้น หลินหยุนลงมืออย่างไม่เคยเห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น นักฆ่าพวกนี้ไม่มีใครสามารถรอดพ้นจากการสังหารศัตรูพร้อมกันด้วยกระบวนเพลงเดียวของหลินหยุนได้เลย

ภายในช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่นาทีเท่านั้น พวกนักฆ่าที่บุกเข้ามาเหล่านั้นก็ถูกหลินหยุนฆ่าฟันจนหมดเกลี้ยง ศพนอนตายเกลื่อนกลาดไปทั่วพื้นดิน

หลังจากนั้น หลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมก็ยืนอยู่ตรงหน้าปากทางเข้าวังใต้ดินแล้ว

หลินหยุนมองดูปากถ้ำที่ลึกลับนั้น แล้วพูดว่า “เข้าไปดูกันเถอะ!”

คาร์นอตวิลเลียมพูดอย่างกังวลใจเล็กน้อยว่า “จะมีกับดักหรือเปล่า?”

หลินหยุนสีหน้าเรียบเฉย ก้าวเดินเข้าไปข้างหน้า “ถึงแม้จะมีกับดัก ฉันจะไปกลัวอะไรล่ะ?”

ทั้งสองคนเดินไปตามขั้นบันไดหิน ค่อยๆลงไปยังข้างล่าง ระหว่างทางก็ไม่ได้เจออุปสรรคหรือกับดักใดๆเลย

สำนักงานใหญ่ขององค์กรเทพมรณะ ไม่จำเป็นจะต้องวางกับดักใดๆไว้ทั้งสิ้น

ส่วนศัตรูที่สามารถเดินเข้ามาถึงที่นี่ได้ ต่อให้วางกับดักเอาไว้ สำหรับพวกเขาแล้วก็ไม่มีมีผลอะไรเลย

ผู้นำขององค์กรเทพมรณะเข้าใจชุดนี้ดี

หลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมเดินเข้าไปในส่วนลึกที่สุดของวังใต้ดิน ภายใต้แสงที่มืดสลัวนั้น ก็มองเห็นรูปปั้นพลูโตขนาดเล็กนั้น

ตรงหน้ารูปปั้นพลูโตขนาดเล็กนั้น ก็มีคนลึกลับในชุดเสื้อดำคลุมทั้งตัวยืนอยู่คนหนึ่ง

“หลินชางฉอง แกข่มเหงคนมากเกินไปแล้วนะ!” ดวงตาทั้งคู่ของผู้นำองค์กรเทพมรณะ ส่องประกายแสงสีแดงเข้มออกมา ประกายแสงสีแดงนั้นกะพริบอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดความรู้สึกน่าสะพรึงกลัว

หลินหยุนมองดูเขา แล้วถามอย่างเรียบๆว่า “แกก็คือผู้นำขององค์เทพมรณะเหรอ?”

“ฉันแปลกใจมากเลย ตอนนั้นใครเป็นคนจ้างวานให้พวกแกมาฆ่าฉัน”

ผู้นำองค์กรเทพมรณะพูดด้วยเสียงหัวเราะแปลกประหลาดว่า “ข้อมูลของผู้จ้างวานพวกเราไม่สามารถเปิดเผยได้”

“แต่ว่าฉันนึกไม่ถึงก็คือ แกถึงกับเติบโตได้รวดเร็วขนาดนี้ ถ้ารู้แต่แรกว่าแกจะแข็งแกร่งขนาดนี้ มิหนำซ้ำยังคุกคามถึงองค์กรเทพมรณะทั้งหมดเข้าสักวันหนึ่งอีกด้วย ตอนนั้นฉันควรจะฆ่าแกให้ตายไปเสียดีกว่า”

“ตอนนี้ก็คงไม่ต้องพบกับภาวะวิกฤติเหมือนวันนี้แล้ว”

หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “เสียดายที่ว่า ในโลกนี้ไม่มียาที่รักษาโรคเสียใจภายหลังได้”

“ฉันยังมีคำถามอีกอย่างหนึ่ง ในเมื่อแกสามารถเป็นผู้นำขององค์กรเทพมรณะแล้ว งั้นจะต้องไม่ใช่เป็นคนที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนามอย่างแน่นอน ฉันอยากรู้ว่าแกเป็นใครกันแน่?”

ผู้นำองค์กรเทพมรณะหัวเราะเสียงดังด้วยน้ำเสียงที่แปลกประหลาด “ฮ่าๆๆ หลินชางฉอง คำถามของแกไม่ใช่น้อยเลยนะ อยากรู้ว่าฉันเป็นใคร ก็รอให้แกตายไปก่อน ฉันก็จะบอกแกเอง”

หลินหยุนพูดว่า “ขอเพียงแค่รู้ว่าแกเป็นใคร ฉันก็สามารถคาดเดาว่ารูปปั้นข้างนอกนั้นใครเป็นคนสร้างขึ้นกันแน่”

“รูปปั้นที่ใช้ขวางทางชี่ทิพย์จากฟ้าดินรูปนั้น จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน”

ดวงตาทั้งคู่ของผู้นำองค์กรเทพมรณะส่องแสงสีแดงวาววับออกมา แล้วถามอย่างแตกตื่นตกใจเล็กน้อยว่า “แกถึงกับดูออกแล้ว”

“งั้นก็ยิ่งปล่อยให้แกรอดออกไปไม่ได้แล้ว”

พูดจบ ร่างของเขาก็หายวับไปจากที่เดิมทันที

หลินหยุนสายตาส่องประกายเล็กน้อย จู่ๆก็ชกหมัดออกไปเหนือศีรษะหนึ่งที

โป้ง!

เงามืดดำร่างหนึ่งก็ถูกหมัดของหลินหยุนชกกระเด็นถอยออกไป

คาร์นอตวิลเลียมตะโกนด้วยความแปลกใจว่า “นี่เป็นเคล็ดวิชาของเผ่าโลหิตพวกเรา!”

“แก แกคือเผ่าโลหิต!”

“ด้วยพละกำลังของแก อย่างน้อยที่สุดก็จะต้องระดับดยุกแล้ว แกเป็นใครกันแน่?”

คาร์นอตวิลเลียมจ้องมองไปยังผู้นำเทพมรณะด้วยสีหน้าสงสัย

“แฮะๆ ไอ้หนุ่ม แกคงไม่อยากรู้หรอก” ผู้นำองค์กรเทพมรณะหัวเราะอย่างแปลกประหลาด เงาร่างก็หายวับไปอีกครั้งหนึ่ง

หลินหยุนก็ชกหมัดออกไปข้างหลังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอีกครั้งหนึ่ง

โป้ง!

ท่าห้ามสิ่งวายชนม์ที่ไม่เคยพลาดมาโดยตลอด ถึงกับทำอะไรผู้นำองค์กรเทพมรณะไม่ได้เลย

“ฮ่าๆๆ ฉันบอกแล้วไงว่า แกสู้ฉันไม่ได้หรอก!” หลังจากหลบการสกัดกั้นจากท่าห้ามสิ่งวายชนม์ได้แล้ว ผู้นำองค์กรเทพมรณะหัวเราะเสียงดังด้วยความภูมิใจ

หลินหยุนกลับยิ้มตรงมุมปากอย่างสะใจแล้วพูดว่า “งั้นเหรอ?”

“ลองอีกทีซิ”

“ท่าสยบเขา!”

หลินหยุนชกหมัดออกไปอีกครั้งอย่างไม่รีบไม่ร้อน

ผู้นำองค์กรเทพมรณะหัวเราะเยาะอย่างดูถูก แล้วพูดว่า “หลินชางฉอง ก็ไม่เท่าไหร่เลยนะ! ท่าหมัดนี้เมื่อกี้ฉันก็หลบไปได้แล้ว หรือว่าแกจะลืมไปได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”

คาร์นอตวิลเลียมก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย “หลินหยุนทำอะไรอยู่นะ นี่ไม่ใช่เสียแรงไปเปล่าๆเหรอไง?”

แต่ว่า ผู้นำองค์กรเทพมรณะจู่ๆก็โกรธขึ้นมาทันที ถ้าสามารถมองเห็นใบหน้าเขาละก็ งั้นตอนนี้สีหน้าของเขาก็คงเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างแน่นอน

เพราะว่า หมัดของหลินหยุนนั้นไม่ได้โจมตีที่เขา แต่กลับชกไปยังรูปปั้นพลูโตขนาดเล็กนั้นต่างหาก

“หลินชางฉอง สู้ฉันไม่ได้ ก็คิดจะทำลายรูปปั้นที่ฉันเคารพศรัทธาเหรอ? ต่ำทราม!” ผู้นำองค์กรเทพมรณะตะโกนด่าทอ

หลินหยุนไม่สะทกสะท้าน พูดอย่างเรียบๆว่า “ก็จะให้แกปรากฏตัวที่แท้จริงออกมาไง!”

“เวทมนตร์ที่ล้ำเลิศขนาดนี้ของแก ก็หาดูได้ยากนัก เกือบจะทำให้ฉันหลงเชื่อไปแล้ว”

คาร์นอตวิลเลียมถามอย่างไม่เข้าใจว่า “เวทมนตร์เหรอ? เรื่องอะไรกันแน่!”

ผู้นำองค์กรเทพมรณะตัวสั่นเล็กน้อย แต่ว่า พยายามพูดอย่างแน่วแน่ว่า “เวทมนตร์อะไร ฉันไม่เข้าใจว่าแกพูดอะไรอยู่!”

“เมื่อกี้ฉันปะทะกับหมัดของแกด้วยพลังหมัดจริงแท้แน่นอน เป็นไปได้ยังไงจะเป็นเวทมนตร์!”

หลินหยุนพูดว่า “นี่ก็คือความล้ำเลิศของแกไง ของจริงของปลอม จริงๆเท็จๆ นี่ถึงจะเป็นเวทมนตร์ที่ล้ำเลิศที่สุด”

ระหว่างที่พูดอยู่นั้น หมัดของหลินหยุนนั้นก็มาถึงด้านหน้ารูปปั้นราวประมาณหนึ่งเมตรแล้ว

ในขณะที่หมัดของหลินหยุนจวนจะชกถูกตัวรูปปั้นนั้น ก็มีมือคู่หนึ่งมาขวางหมัดของเขาไว้

มีคนในชุดเสื้อดำคลุมทั้งตัวอีกคนหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้ารูปปั้นพลูโตนั้น ใช้มือทั้งสองข้างผลักออกพร้อมกัน เพื่อสกัดกั้นหมัดของหลินหยุนไว้

ส่วนผู้นำองค์กรเทพมรณะเมื่อครู่คนนั้นก็ยังคงยืนอยู่ข้างกำแพงสีดำนั้น จ้องมองหลินหยุนอย่างเย็นชา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์