บทที่ 1078 ไปเดี๋ยวเดียวก็กลับ – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1078 ไปเดี๋ยวเดียวก็กลับ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หงซานเหอรับคำท้าแล้ว
เขาไม่รับไม่ได้
ฝ่ายทางหวางจิงหลงก็กำลังดูอยู่ ในเวลานี้ยังไงก็ต้องสู้รบกันสักครั้งแล้ว
อีกอย่างหงซานเหอมีความมั่นใจต่อเจียงร่อโจ๋เทพแห่งสงครามเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ได้สู้กับหลินหยุนครั้งหนึ่งแล้ว พละกำลังของเจียงร่อโจ๋ก็ได้เข้าสู่แดนเทพอย่างสมบูรณ์ พรสวรรค์ของเขาได้รับการต่อยอดแล้ว
ส่วนอเมริกาทางนั้นก็ไม่เคยได้ยินว่ามีผู้บำเพ็ญเซียนพิเศษที่ร้ายกาจอะไรเลย
สำหรับหุ่นยนต์ชุดเกราะที่ฝันลมๆแล้งๆพวกนั้น หงซานเหอคิดว่าต่อให้มีจริง ก็ไม่มีทางที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของยอดฝีมือแดนเทพคนหนึ่งได้
ด้วยความก้าวล้ำด้านเทคโนโลยีของประเทศทั่วโลกแล้ว คิดจะเอาพลังแรงจากเทคโนโลยีมาเอาชนะยอดฝีมือแดนเทพคนหนึ่ง ย่อมเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
นอกเสียจากว่าอเมริกาสามารถควบคุมอารยธรรมนอกโลกได้
เจียงร่อโจ๋ก็ออกมารับคำท้ารบ
เพื่อแสดงออกถึงสไตล์ความเป็นลูกพี่ใหญ่ของประเทศจีนแล้ว เจียงร่อโจ๋ก็ออกมาตามลำพังเพียงคนเดียว
อเมริกาส่งหุ่นยนต์ชุดเกราะสองลำออกมา ทั้งสองฝ่ายก็เปิดศึกสู้รบครั้งใหญ่ขึ้นบริเวณเขตพื้นที่ทะเลทางตอนใต้
ผลสุดท้ายก็คือเจียงร่อโจ๋พ่ายแพ้อย่างยับเยิน ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะว่าเจียงร่อโจ๋แต่งกายชุดออกรบครบเครื่อง ทำให้พละกำลังยกระดับสูงขึ้นมากกว่าเดิมละก็ คราวนี้จะต้องเสียชีวิตอย่างแน่นอน
พวกคนทางฝ่ายของหวางจิงหลงเมื่อได้ยินข่าวแล้ว ต่างก็ยิ้มด้วยความดีใจ
คราวนี้หงซานเหอก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว
สู้ไม่ได้ งั้นจะทำยังไงดี? ก็ได้แต่ยอมยกธงขาว
อีกอย่างก็ยังพิสูจน์ได้ว่าสายตาของพวกเขาเมื่อก่อนแม่นยำขนาดไหน ไม่มีทางที่จะสู้รบชนะอเมริกาได้จริงๆ
การพ่ายแพ้อย่างอนาถของเจียงร่อโจ๋นั้น ก็ทำให้ขวัญกำลังใจของอเมริกาก็พุ่งสูงขึ้นถึงขั้นสุดขีด
เทพสงครามของประเทศจีนก็ยังพ่ายแพ้เลย พิสูจน์ได้ว่าอเมริกามีพลังที่แข็งแกร่งมากจนสามารถต่อกลอนกับนักบู๊ชาวจีนได้ บรรดาลูกน้องปลายแถวทางโลกตะวันตกของอเมริกาพวกนั้นก็ยิ่งเหิมเกริมมากขึ้น เดิมทีบางประเทศที่คอยดูท่าทีของจีนอยู่นั้น ตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนจุดยืน เริ่มมาเกาะแข้งเกาะขาอเมริกาแล้ว
ภายในห้องพักผ่อนของประธานาธิบดีจีน หงซานเหอสีหน้าเขียวจนดำ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกช็อกกับพลังแรงที่อเมริกาได้แสดงออกมาด้วย
“ใช้พลังแรงจากเทคโนโลยีเอาชนะนักบู๊แดนเทพ นอกจากอาวุธนิวเคลียร์แล้ว อย่างอื่นฉันก็ยังนึกไม่ออกเลย”
“แต่ว่า อเมริกากลับทำได้แล้ว!”
“การก้าวล้ำทางเทคโนโลยีของพวกเขาได้มาถึงแนวหน้าสุดของโลกแล้วจริงๆเหรอ?”
ประธานาธิบดีพูดด้วยสีหน้าก็ค่อนข้างเคร่งเครียดว่า “พลังอำนาจที่แอบแฝงอยู่ภายในอเมริกาเกรงว่ายังมีอีกมากมาย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าหลินหยุนไปเกาหลี แล้วบุกเข้าไปในฐานทัพทหารของพวกเขาละก็ หุ่นยนต์ชุดเกราะทหารพวกนั้นถึงตอนนี้พวกเราก็ยังไม่รู้เลย”
“ตอนนี้มีคนนอกรู้เรื่องแล้ว อเมริกาก็เลยไม่ปกปิดอีกต่อไป เริ่มเปิดเผยออกมาจนหมด”
หงซานเหอพูดด้วยความโกรธแค้นว่า “ตอนนี้คนของหวางจิงหลงพวกนั้นคงดีใจแย่แล้ว”
ประธานาธิบดีจีนพูดว่า “รีบแจ้งข่าวให้หลินหยุนเถอะ เขามีประสบการณ์ในการต่อสู้กับหุ่นยนต์ชุดเกราะพวกนี้มาแล้ว ตอนนี้มีแต่เขาเท่านั้นที่สามารถแก้ไขปัญหาได้”
หงซานเหอพูดด้วยความกังวลใจว่า “แต่ว่าเจ้าเด็กนั่นหัวรั้นเกินไป ฉันเป็นห่วงว่าพวกเราจะสั่งการเขาไม่ได้”
ประธานาธิบดีจีนหัวเราะแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ เขาต้องไปแน่”
“ได้!”
ที่ชางฉองกรุ๊ป
เดิมทีหลินหยุนคิดจะพานิ่งโหย่วหรงกลับไปยังทะเลสาบเยว่หยา แต่ว่าถูกหวางซูเฟินห้ามเอาไว้
เหตุผลก็คือเธอเป็นห่วงว่าหลินหยุนจะแกล้งนิ่งโหย่วหรง จึงต้องสอนวรยุทธ์ให้กับนิ่งโหย่วหรงที่ชางฉองกรุ๊ป
หลินหยุนจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ
แต่ว่า เวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว เขาก็ยังไม่ได้ถ่ายทอดวิทยายุทธ์ให้กับนิ่งโหย่วหรงเลย ยังคงใช้วิธีต่างๆนานามากลั่นแกล้งนิ่งโหย่วหรงอย่างต่อเนื่อง
บางครั้งนิ่งโหย่วฉายทนดูไม่ได้ก็วิ่งเข้ามาด่าทอหลินหยุน แต่ว่าหลินหยุนก็ทำเป็นมองไม่เห็นเขา
วันนี้ ฉินหลันและหวางซูเฟินกำลังคุยกันอยู่นั้น ได้พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับสังคมต่างประเทศว่าประเทศจีนตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง
เมื่อได้ยินข่าวนี้ หลังจากที่หลินหยุนกลับไปที่ห้องตัวเองแล้ว จู่ๆก็ปิดประตูห้องไม่ยอมออกมาอีกเลย วางค่ายกลปกป้องไว้รอบๆ ใครก็ไม่สามารถมาเรียกเขาได้
ในวันนั้นเองหงซานเหอก็โทรศัพท์มาหา แล้วเล่าเรื่องสถานการณ์ของประเทศจีนตอนนี้ให้กับหลินหยุนฟัง หวังให้หลินหยุนออกโรงมาช่วยเหลือด้วย
หลินหยุนไม่ได้ตอบตกลง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
เพียงแต่หยิบหยกทิพย์ชั้นดีชิ้นหนึ่งออกมา แล้วเริ่มแกะสลักลวดลายที่ลึกลับซับซ้อนบางอย่างลงไป
“ฮ่าๆๆ ท่านหงนี่คงร้อนใจแย่จริงๆแล้วล่ะ! ฉันก็ยังแปลกใจมากเลยว่า หลินหยุนเจ้าเด็กนั่นจะยอมลงมือหรือเปล่า เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?”
“ข่าวคราวที่ลือมาจากลูกน้องของฉัน เขาก็ยังคงเก็บตัวอยู่ในชางฉองกรุ๊ปไม่ยอมออกมาเลย ได้ข่าวว่าแม้แต่หวางซูเฟินเรียกเขาก็ยังไม่ขานรับเลย”
“ฉันว่าเจ้าเด็กนี่คงกลัวไปแล้วล่ะ อเมริการู้อยู่แล้วว่าเขาได้ทำลายหุ่นยนต์ชุดเกราะสิบกว่าตัวที่เกาหลีแล้ว แต่ก็ยังกล้าส่งหุ่นยนต์ชุดเกราะมาท้ารบเลย นี่แสดงให้เห็นว่าเตรียมพร้อมอย่างไม่เกรงกลัวเลย!”
“ฉันได้ข่าวมาว่าอเมริกาทางนั้นได้ประกาศยื่นคำขาดแล้ว เมื่อถึงเวลาแล้วเจ้าเด็กนั้นจะมาหรือไม่ก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว”
“พอถึงเวลานั้นจริงๆ ก็มีเพียงหนทางเดียวก็คือต้องจับเจ้าเด็กนั่นส่งมอบออกไป”
ฝ่ายทางชางฉองกรุ๊ปนั้น หวางซูเฟินก็มาถึงหน้าประตูห้องหลินหยุนด้วยตัวเอง
“เป็นยังไงบ้าง ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลยใช่ไหม?” หวางซูเฟินถามพลางขมวดคิ้ว
ฉินหลันพูดว่า “ไม่มีค่ะ ฉันตะโกนเรียกเสี่ยวหยุนตั้งนานแล้วก็ไม่ตอบเลย อีกอย่างทุบประตูก็ไม่มีประโยชน์ ดูเหมือนว่ามีพลังบางอย่างที่มองไม่เห็นกำลังปกป้องอยู่หน้าประตู”
“น่าจะเป็นวิธีการปกป้องประตูห้องอะไรสักอย่างของเสี่ยวหยุน”
หวางซูเฟินมองไปยังนิ่งโหย่วหรง แล้วถามว่า “โหย่วหรง เจ้าเด็กบ้านั่นได้พูดอะไรไว้หรือเปล่า?”
นิ่งโหย่วหรงส่ายหน้า “ไม่มีค่ะ คืนวันก่อนอาจารย์ให้ฉันไปช่วยทำความสะอาดกวาดถูพื้น พอวันรุ่งขึ้นฉันไปหาเขา เขาก็ปิดประตูเก็บตัวไปแล้ว”
หวางซูเฟินขมวดคิ้ว “แล้วนี่จะทำยังไงกันดี? ถ้าเขายังไม่ออกมาอีกละก็ คนพวกนั้นก็จะต้องส่งมอบตัวเขาออกไปแล้ว!”
ในเวลานี้เอง จู่ๆประตูห้องก็เปิดออกจากข้างใน หลินหยุนยืนอยู่หน้าประตูด้วยอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย
“ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง” หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆ
“เจ้าเด็กบ้า แกควรจะทำความเข้าใจกับสถานการณ์ข้างนอกในช่วงเวลาที่ผ่านมาก่อน จากนั้นแกก็ค่อยตัดสินใจจะทำยังไงต่อไป!” สีหน้าหวางซูเฟินก็ยังคงเต็มไปด้วยความห่วงใย
คราวนี้อเมริกายกพลมาบุกเข้ามา พร้อมด้วยพลังกดดันจากเกือบครึ่งค่อนโลก ต่อให้หลินหยุนแข็งแกร่งมากอีกเท่าไร ก็ไม่มีทางที่จะเป็นศัตรูกับคนเกือบครึ่งค่อนโลกได้!
หลินหยุนกลับยิ้มอย่างเรียบๆ “ไม่ต้องไปรู้หรอก พวกคุณอยู่บ้านอย่างสบายใจได้ ผมไปเดี๋ยวเดียวก็กลับมา”
หวางซูเฟินขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ลูกคิดจะทำยังไงเหรอ? คราวนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมานะ ถ้าจัดการไม่ดีลูกก็จะเป็นศัตรูกับคนครึ่งค่อนโลกเลย!”
“อีกอย่างอเมริกาทางนั้นก็เตรียมพร้อมที่จะบุกเข้ามา ลูกจะต้องระวังตัวด้วยนะ”
หลินหยุนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณแม่วางใจเถอะ ผมมีวิธีจัดการเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...