จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1079

หวางจิงหลงและพวกเจ้าบ้านทั้งสี่ตระกูลใหญ่ก็มารวมตัวด้วยกัน

เจ้าบ้านจ้าวมองดูหวางจิงหลงแล้วถามว่า “ตอนนี้ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว เจ้าเด็กนั่นยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย ฉันว่าเขาคงไม่กล้าออกมาหรอก”

“ตอนนี้พวกเราควรจะเพิ่มแรงกดดันให้กับหงซานเหอพวกนั้นดีไหม?”

เจ้าบ้านจางพยักหน้าเห็นด้วย “ฉันรู้สึกว่าก็ได้นะ ในเวลานี้ก็ควรจะเพิ่มความกดดันให้พวกเขาซะหน่อยแล้ว”

หลังจากที่หวางจิงหลงครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ก็ควรจะเพิ่มความกดดันให้กับพวกเขาบ้างแล้ว แต่ว่าพวกเราก็อย่าเพิ่งออกหน้าก่อน รอให้พวกลูกน้องออกหน้าไปก่อน”

พวกเจ้าบ้านจ้าวหัวเราะแล้วพูดว่า “ฮ่าๆๆ เข้าใจแล้ว!”

ในห้องประชุมสภาประเทศจีน วันนี้ได้เปิดการประชุมแล้ว

การประชุมยังไม่ทันได้เริ่มต้นเลย ภายในห้องโถงใหญ่ก็เกิดบรรยากาศที่ตึงเครียดขึ้นแล้ว

ลูกน้องของสี่ตระกูลใหญ่พวกนั้น ก็เริ่มออกหน้ามาโจมตีหงซานเหอจนหน้าแตกยับเยิน

เทพแห่งสงครามพ่ายแพ้แล้ว หงซานเหอก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก จึงได้แต่ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเดียว

ส่วนในเวลานี้เอง เขตพื้นที่ทะเลตอนใต้นั้น

เจนเนอรัลสทิวยืนอยู่บนฐานเรือนอทิลัส แหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

“ทุกคน ตรงนั้นก็คือประเทศจีน เทพแห่งสงครามของพวกเขาก็รบแพ้ไปแล้ว พวกเขาบอบบางเกินไป!”

“ฮ่าๆๆ คนของประเทศจีน ก็อ่อนแอน่ารังแกมาโดยตลอด ฉันได้ข่าวว่าสาวจีนชอบผู้ชายพวกเราเป็นพิเศษ รอให้ทีหลังฉันมีเวลาว่างก่อน จะต้องไปเก็บแต้มฟันพวกสาวๆที่ประเทศจีนสักร้อยคนหน่อยแล้ว!”

“ฮ่าๆๆ ไอ้หมูตอนบ้า น้ำหนักตัวตั้งสองร้อยกว่ากิโลกรัมอย่างแกยังจะเก็บแต้มฟันถึงร้อยคนเลยเหรอ งั้นฉันก็คงฟันถึงหนึ่งพันคนแล้วละมั้ง”

“รอเดี๋ยว อย่าเพิ่งทะเลาะกัน พวกแกดูสินั่นคืออะไร?”

ทหารคนหนึ่งใช้กล้องส่องทางไกลส่องไปยังท้องฟ้าสีครามที่ไกลโพ้นนั้น ที่นั่นเกิดมีจุดดำๆจุดหนึ่งกำลังเคลื่อนที่มายังพวกเขาอย่างรวดเร็ว

“นั่นดูเหมือนจะ......เป็นคนคนหนึ่ง!”

“ฮ่าๆๆ เทพแห่งสงครามชาวจีนยังพ่ายแพ้ไปแล้ว ยังจะมีใครกล้ามารนหาที่ตายอีก?”

“ใช้เรดาร์สกัดไว้ ข่มขวัญเขาไว้ก่อน”

“ครับผม!”

ปืนใหญ่ยิงป้องกันระยะประชิดบนเรือรบนอทิลัสเริ่มทำงานแล้ว นี่เป็นถึงปืนใหญ่ที่ทันสมัยที่สุดที่สามารถยิงกระสุนออกไปได้ถึงห้าพันนัดในเวลาหนึ่งนาที

ลูกกระสุนปืนใหญ่ห้าพันนัด สามารถครอบคลุมบริเวณที่กว้างไกลถึงเพียงใด ต่อให้เป็นยอดฝีมือแดนเทพก็ไม่สามารถรอดพ้นไปได้

คนคนนั้นยิ่งเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้น กำลังจะมาถึงภายในเป้าวิถียิงที่เหมาะที่สุดของปืนใหญ่ยิงป้องกันระยะประชิดบนเรือรบแล้ว

แต่ว่าคนคนนั้นกลับหยุดนิ่งลง แล้วลอยตัวอยู่กลางอากาศ ก้มมองดูกองเรือบรรทุกเครื่องบินทั้งหมดจากบนที่สูง

“เออ ทำไมเขาถึงหยุดแล้วล่ะ?”

“หรือว่าจะกลัวแล้ว?”

เจนเนอรัลสทิวหัวเราะเยาะด้วยสีหน้าดูถูก ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆเขายังมีอารมณ์มาพูดล้อเล่นกับเขาอีก

“ผู้บัญชาการครับ สงครามครั้งยิ่งใหญ่กับประเทศจีนตอนนั้นท่านได้ร่วมด้วยหรือเปล่า?”

“ชาวจีนล้วนโง่เขลาและไร้ปัญญาขนาดนี้จริงเหรอ?”

“ลำพังคนเดียวยังกล้าที่จะมาบุกโจมตีพวกเราทั้งกองเรือเลยเหรอ?”

หลินหยุนหยุดอยู่กับที่ เพราะว่าเขาไม่จำเป็นต้องเข้าไปข้างหน้าอีกต่อไปแล้ว

มองดูเจ้าเรือใหญ่โตที่อยู่ข้างล่างพวกนั้น หลินหยุนก็หยิบเอาผลงานที่ได้ทุ่มเทตลอดสามวันที่ผ่านมานั้นออกมา

ยันต์หยกที่เปล่งประกายลำแสงชิ้นหนึ่ง

รูปทรงของยันต์หยกก็คือกระบี่ด้ามหนึ่ง

ถูกต้องแล้วมันคือกระบี่ด้ามหนึ่ง กระบี่สะท้านฟ้าด้ามหนึ่ง

นี่เป็นพละกำลังที่หลินหยุนรวบรวมมาไว้ทั้งหมด ยังมีกฎเกณฑ์ต้าเต๋าที่เขาสามารถควบคุมไว้ได้ในตอนนี้

ยันต์หยกนี้เรียกว่ายันต์ซ่อนกระบี่

ภายในซ่อนกระบี่ไว้หนึ่งด้ามที่แม้แต่หลินหยุนก็ไม่สามารถควบคุมได้เลย ดังนั้นจึงได้แต่ใช้ยันต์ซ่อนกระบี่ในการพกพา

ด้านล่างนั้น พวกเจนสทิวต่างก็ยังหัวเราะอย่างลำพองใจ เยาะเย้ยถากถางอย่างเหิมเกริม

หุ่นยนต์ชุดเกราะทหารสองลำก็เหาะออกมา เตรียมสู้รบกับหลินหยุน

หลินหยุนโยนยันต์ซ่อนกระบี่ออกไป

เพลี้ย!

หยกทิพย์แตกละเอียด จากนั้นก็มีพลังชี่กระบี่สะท้านฟ้าระเบิดออกมาทันที

ท้องฟ้าสั่นสะเทือน คลื่นทะเลโหมกระหน่ำซัดสาด ราวกับเทพพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สมัยโบราณที่กำลังจะฟื้นคืนชีพขึ้นมา

สทิวและพวกทหารทั้งหลายที่อยู่ข้างล่างรู้สึกผิดปกติ มองไปรอบๆด้วยความหวาดผวา

“โอ๊ย ให้ตายเถอะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”

“สึนามิเหรอ? อ๋อนี่เป็นไปไม่ได้ พยากรณ์อากาศบอกว่า 2-3 วันนี้คลื่นทะเลสงบนิ่ง”

“ดูทางนั้น นั่นคืออะไร!”

ทุกคนต่างมองไปยังท้องฟ้าด้วยอาการช็อก

ทางนั้นมีประกายแสงสว่างจ้าราวกับแสงแรกของฟ้าดิน

หลังจากนั้นก็ค่อยๆขยายวงกว้างออกไปในชั่วพริบตา ในขณะที่ผู้คนทั้งหลายกำลังแหงนมองดูอยู่

ไม่มีก้อนเมฆมืดดำลอยขึ้นเลย แต่กลับมีความเคลื่อนไหวที่รุนแรงกว่าการเกิดก้อนเมฆดำมืดเสียอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์