บทที่ 108 เธอไม่มีวันเทียบชั้นได้ – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 108 เธอไม่มีวันเทียบชั้นได้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 108 เธอไม่มีวันเทียบชั้นได้
หานกั๋วเฉียง ผู้มีอิทธิพลแห่งเมืองลี่ชวนท่ามกลางเมืองในหลิงหนานทั้งสิบแปด ลุงแท้ ๆ ของอีหลิง
หานกั๋วเฉียงเป็นคนที่ดูมีวิชาความรู้ลุ่มลึก อีกทั้งบุคลิกลักษณะก็ดูสง่างามทรงภูมิ มีท่าทางโอบอ้อมอารีเป็นมิตรมาก
แต่ถึงอย่างไร ก็อย่าได้ถูกรูปลักษณ์ภายนอกของเขาหลอกลวงเป็นอันขาด คนที่สามารถเป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองใหญ่ได้ ไม่มีทางที่จะเป็นคนดีมีศีลธรรมอยู่แล้ว
"เด็กคนนั้นน่าจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นของหลานสาวผมนะ ส่วนเรื่องอื่น ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน" หานกั๋วเฉียงพูดแบบแบ่งรับแบ่งสู้
"อย่างนี้นี่เอง!" ชายวัยกลางคนที่ถามหัวเราะในลำคอ ไม่เอ่ยปากพูดว่าถูกหรือไม่
เติ้งเจียหลุนก็ตกตะลึงไปเช่นกัน เขาคิดไม่ถึงว่า เจ้าเด็กที่เขาไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อนคนนี้ จะทำให้หยุนเยว่ปฏิบัติด้วยความเคารพได้ถึงขนาดนี้
แต่เขาก็ไม่กลัวอยู่ดี เพราะเขาไม่เคยเห็นหลินหยุนในวงสังคมระดับสูงมาก่อน
"ไอ้หนู มิน่าล่ะแกถึงได้กล้าทำตัวบ้าดีเดือดต่อหน้าฉันแบบนี้ ที่แท้ก็มีหยุนจินไซเป็นคนหนุนหลังอยู่นี่เอง!"
“แต่แกคิดจริง ๆ เหรอว่า หยุนจินไซจะสามารถปกป้องแกได้น่ะ?
“ยังไงวันนี้ แกก็ต้องไสหัวไปให้พ้นหน้าฉัน!”
เติ้งเจียหลุนบ้าจริงสมดั่งคำร่ำลือ!
สีหน้าของหยุนเยว่ดูไม่ได้ถึงขีดสุดไปแล้ว แน่นอนว่า เธอรู้สถานะที่แท้จริงของเติ้งเจียหลุน เพราะการเชิญเขามาในครั้งนี้ แทนที่จะเชิญดาราคนอื่น เหตุผลกว่าครึ่งก็เป็นเพราะเขาคือคนตระกูลเติ้งแห่งซีไห่
แต่ถ้าหยุนเยว่รู้ล่วงหน้าว่า เขาจะเกิดเรื่องขัดแย้งกับหลินหยุนแบบนี้ เป็นตายร้ายดียังไงหยุนเยว่ก็จะไม่มีวันไปเชิญเขามาเด็ดขาด
ก็แค่เพื่อจะเพิ่มความร้อนแรงในการประมูลการกุศลครั้งนี้ ไปหาดาราดังคนอื่นที่ดังพอ ๆ กันมาแทนซะก็ได้
ถ้าอยู่ในสถานการณ์ปกติ เติ้งเจียหลุนเกิดทำกร่างหยิ่งผยองขึ้นมาแบบนี้ หยุนเยว่แค่ตะคอกเสียงดังใส่อีกฝ่ายไปสักครั้ง ก็คงพอจะจบเรื่องได้อยู่
แต่คนที่เติ้งเจียหลุนไปทำให้ขุ่นเคืองใจ ดันเป็นหลินหยุนเสียได้นี่สิ!
กระทั่งควีนจินก็ยังกำชับมาอย่างจริงจังว่า เธอต้องสร้างไมตรีกระชับความสัมพันธ์เท่านั้น ห้ามไปทำให้ท่านแขกผู้ทรงเกียรติขุ่นเคืองใจเด็ดขาด
ถ้าวันนี้หยุนเยว่ไม่ทำอะไรสักอย่างล่ะก็ คงทำให้หลินหยุนไม่พอใจอย่างแน่นอน และอาจกลายเป็นการสร้างความไม่พอใจต่อควีนจิน แล้วจากนี้ไป เธอจะตีสนิทกับหลินหยุนอย่างไรได้?
"เติ้งเจียหลุน คนที่ต้องไสหัวออกไปคือนายต่างหาก!" หยุนเยว่ตะโกนอย่างเย็นชา
เติ้งเจียหลุนมองไปที่หยุนเยว่อย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง "หยุนจินไซ เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ นี่เธอถึงกับกล้าไล่ให้ฉันไสหัวไปงั้นเรอะ!"
สีหน้าของเติ้งเจียหลุนมืดทะมึนดำคล้ำ "เธอกล้าไล่ให้ฉันไสหัวไป แปลว่าไม่เห็นตระกูลเติ้งแห่งซีไห่ของฉันอยู่ในสายตาแล้วใช่มั้ย?"
ในเวลานี้หยุนเยว่ตัดสินใจได้เด็ดขาดแล้ว เป็นธรรมดาที่จะไม่กลัวการข่มขู่ของเติ้งเจียหลุน พูดอย่างเย็นชาว่า "ที่นี่คือหลินโจว คือหลิงหนาน ไม่ใช่ซีไห่ของนาย ถ้าอยากแสดงความป่าเถื่อน ก็เชิญไสหัวกลับไปซีไห่ของนายนู้นไป! "
ก่อนหน้านี้ เติ้งเจียหลุนก็เคยมีเรื่องขัดแย้งกับหยุนเยว่มาก่อน แต่ส่วนใหญ่แล้วหยุนเยว่ก็จะแค่โวยวายคล้ายว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่พอเอาเข้าจริง กลับถือว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเสมอๆ อย่างมากก็แค่ด่าเขาสักสองสามประโยค แล้วก็จบเรื่องกันไป
แต่ในวันนี้ คิดไม่ถึงว่าท่าทีของหยุนเยว่จะแข็งกร้าวมากถึงขนาดนี้!
ดูๆไปเหมือนว่าในใจของหยุนเยว่ เจ้าเด็กคนนี้จะมีตำแหน่งที่ไม่ธรรมดาซะแล้ว!
แน่นอนว่า เติ้งเจียหลุนย่อมไม่มีทางยอมถอยให้ง่ายๆ ตอนนี้เรื่องนี้ไม่เพียงเกี่ยวพันถึงหน้าตาเกียรติยศส่วนตัวของเขาเท่านั้นแล้ว แต่ยังเกี่ยวพันถึงหน้าตาของตระกูลเติ้งแห่งซีไห่อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น เติ้งเจียหลุนรู้สึกว่า ส่วนใหญ่หยุนเยว่ก็แค่ขู่เขาไปอย่างนั้นเอง ไม่กล้าทำอะไรเขาจริงๆอยู่แล้ว
ดังนั้น เติ้งเจียหลุนจึงแผดเสียงตะโกนออกไปอย่างไม่กริ่งเกรงว่า "หยุนจินไซ นี่เธอคิดจะเป็นตัวแทนควีนจินมาท้ารบกับตระกูลเติ้งอย่างนั้นใช่มั้ย!?"
ทุกคนในสถานที่จัดงานต่างเงียบกริบ คำพูดนี้ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างร้ายแรงพอสมควรทีเดียว
พลังของควีนจินกับตระกูลเติ้งแห่งซีไห่นับว่าเท่าเทียมกัน หากจะเข้าสู่สงครามรบรากันขึ้นมาจริงๆ มันย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ดีมากแน่ๆ
หยุนเยว่เองก็ถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เธอคิดไม่ถึงว่าเติ้งเจียหลุนจะบ้าคลั่งขนาดนี้ ถึงขั้นที่คิดจะลากคนตระกูลเติ้งทั้งหมดลงน้ำไปด้วย!
ถ้าเป็นคนอื่น หยุนเยว่ก็อาจหาทางลงให้เติ้งเจียหลุน แต่ครั้งนี้คนที่เติ้งเจียหลุนไปล่วงเกินเข้าดันเป็นหลินหยุน เป็นคนที่แม้แต่ควีนจินก็ยังไม่กล้าล่วงเกินด้วยซ้ำ
ในสมองของหยุนเยว่ ปรากฏคำสั่งจากควีนจินดังซ้ำขึ้นอีกครั้งว่า "จะต้องไม่เป็นศัตรูกับคนผู้นี้เด็ดขาด ถ้าเป็นไปได้ จงพยายามใช้ไมตรีเข้าสร้างสัมพันธ์ชิดใกล้ ... "
เมื่อนึกถึงคำพูดนี้ ในใจของหยุนเยว่ก็ตัดสินชี้ขาดได้ทันที
"เติ้งเจียหลุน อยากรบก็รบสิ! แต่ยังไงวันนี้นายก็ต้องไสหัวออกไปจากที่นี่!" หยุนเยว่พูดเสียงเครียด
"นี่ ... " คราวนี้เปลี่ยนเป็นเติ้งเจียหลุนที่เป็นตกตะลึงบ้างแล้ว หยุนเยว่ตั้งใจจะทำสงครามเต็มรูปแบบกับตระกูลเติ้งแห่งซีไห่ เพื่อไอ้เด็กที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าคนนึงจริงๆน่ะเหรอ!
เติ้งเจียหลุนอดสงสัยไม่ได้ว่า ที่จริงแล้วไอ้เด็กคนนี้มันเป็นใครกันแน่?
"คุณหานไม่จำต้องมากพิธี!" หยุนเยว่ตอบรับ
อีหลิงมองหานกั๋วเฉียงดัวยความฉงนเล็กน้อย ทักออกไปประโยคหนึ่ง "คุณลุง!"
หานกั๋วเฉียงหันไปมองเธอ พลางพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด "ไปกับลุง!"
น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าวมากจนฟังดูแทบจะเป็นคำสั่ง
แต่ไหนแต่ไรมา อีหลิงไม่เคยเห็นคุณลุงที่รักเธอมากมาโดยตลอด จะแสดงท่าทางที่เข้มงวดจริงจังขนาดนี้กับเธอเลย
"คุณลุงคะ คนนี้เป็นเพื่อนร่วมชั้นของหนูเองค่ะ หนูอยากไปกับเขา!" เสียงของอีหลิงแผ่วเบามาก ราวกับว่าเธอไม่กล้าฝ่าฝืนความต้องการของลุงเธอ
"ไม่ได้ หนูอยู่คนเดียวมันอันตรายเกินไป ลุงไม่วางใจ!" หานกั๋วเฉียงพูดตัดบทอย่างเด็ดขาด
หลินหยุนพูดเสียงราบเรียบว่า "คุณลุงวางใจได้ ผมจะดูแลหลิงเอ๋อเอง!"
หลินหยุนรู้สึกว่าที่หานกั๋วเฉียงบังคับให้อีหลิงไปกับเขา สาเหตุคงเป็นเพราะเรื่องของเติ้งเจียหลุนเมื่อครู่ จึงกลัวว่าถ้าให้อีหลิงอยู่คนเดียว เธออาจจะไม่ปลอดภัย
จู่ ๆ สายตาของหานกั๋วเฉียงก็ย้ายไปตกลงบนตัวหลินหยุน สีหน้าเย็นชาเคลือบแฝงร่องรอยของการมองประเมิน ที่สื่อได้ถึงคนระดับสูงซึ่งจงใจมองลงมายังคนระดับต่ำกว่าอยู่ในที
"เจ้าหนู ชื่อเรียกหลิงเอ๋อนี้น่ะ เป็นชื่อที่เธอมีสิทธิ์เรียกได้ด้วยรึ? ฉันไม่สนหรอกนะว่าเธอจะเป็นใคร แต่หวังว่าวันหลังเธอจะไม่คิดฝันลมๆแล้งๆกับอีหลิงก็พอ!"
"เพราะคนบางคนเกิดมา ก็มีชะตาชีวิตที่กำหนดไว้แล้วว่าต้องอยู่ในที่สูง สูงจนถึงระดับที่ชั่วชีวิตนี้ของเธอไม่อาจเทียบชั้นได้!"
นี่คืออำนาจในมือที่แท้จริงของผู้มีอิทธิพล แม้ว่าหลินหยุนจะมีหยุนเยว่เป็นยันต์คุ้มกาย แต่ในสายตาของคนอื่น นั่นก็ยังไม่ใช่ความแข็งแกร่งทรงอำนาจของหลินหยุนอยู่ดี เมื่อไหร่ก็ตามที่ไม่มีหยุนเยว่คอยอยู่คุ้มครองข้าง ๆ เขา เช่นนั้นแล้ว เขาก็จะกลายเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลยสักอย่างไปในทันที
หลินหยุนสีหน้าไม่เปลี่ยน แต่ดวงตาของเขากลับคมปลาบขึ้นมาเล็กน้อย
อีหลิงรีบพูดอย่างออดอ้อนออกไปว่า“ คุณลุง นี่คุณลุงทำอะไรกันคะ? นั่นเพื่อนร่วมชั้นของหนูนะ!”
“หลินหยุน ขอโทษด้วยนะ คุณลุงของฉันท่านเป็นคนหน้าตาเย็นชา แต่ในใจอบอุ่นจนร้อนเป็นไฟเลยล่ะ อย่าถือเอาคำพูดของท่านมาใส่ใจเลยนะ!”
“ถ้างั้นฉันไม่ไปกับนายแล้วดีกว่า ไว้ครั้งหน้ามีเวลา เราค่อยคุยเรื่องนี้กันใหม่เนอะ!”
พูดจบก็ดึงแขนหานกั๋วเฉียงเข้ามา แล้วเดินจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...