จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 110

บทที่ 109 ลมปราณของสหายเก่า

หลี่เหยนหัวเราะเย้ยหยันอย่างตื่นเต้น "ฮะๆๆ ในที่สุดไอ้เศษสวะไร้ประโยชน์หลินหยุนนั่น ก็ถูกบีบให้ยอมรับความพ่ายแพ้ซะที!"

“ตอนนี้มันน่าจะเข้าใจได้แล้วนะ ว่าช่องว่างระหว่างมันกับผู้ทรงอิทธิพลตัวจริง มันห่างไกลกันมากขนาดไหน!”

หวางเสี่ยวซีพูดอย่างไม่พอใจว่า "ถ้าไม่เพราะเสี่ยวหลิงหลิงพูดจาปกป้องมัน เมื่อกี้มันก็คงหาทางลงไม่ได้แล้วเหอะ!"

หานกั๋วเฉียงถูกอีหลิงดึงออกไปแล้ว แต่ทว่า สายตาที่จ้องมองมาที่หลินหยุนก่อนที่จะจากไปนั้น เต็มไปด้วยความรังเกียจและคุกคาม

ดวงตาของหลินหยุนเย็นชาเล็กน้อย แต่เมื่อคิดว่านั่นคือลุงของอีหลิง เขาจะทำอะไรลงไปก็คงจะไม่ดี

หยุนเยว่รู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อย เธอคิดไม่ถึงว่า หานกั๋วเฉียงจะไม่ไว้หน้าเธอสักนิด ก็เล่นงานหลินหยุนตรงๆแบบนี้เลย

"คุณหลินเป็นเพราะฉันจัดการไม่รอบคอบ ขอได้โปรดยกโทษให้ด้วยนะคะ!" หยุนเยว่ขอโทษอย่างจริงใจ

หลินหยุนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า "ไม่เป็นไร"

"ขอเชิญคุณหลินทางนี้ค่ะ!" หยุนเยว่รีบนำทางต่อทันที

หลินหยุนเดินตามหยุนเยว่ไปยังที่นั่งวีไอพีในแถวแรก แล้วนั่งลงหลับตาพักผ่อน รอให้การประมูลเริ่มขึ้น

หยุนเยว่ขึ้นเวทีเพื่อกล่าวเปิดงาน จากนั้นก็ประกาศว่าการประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

ทุกคนหยุดพูดถึงเรื่องของหลินหยุน แล้วเปลี่ยนมาโฟกัสที่การประมูลแทน เพราะถึงอย่างไรสุดท้ายแล้ว การประมูลต่างหากที่เป็นเป้าหมายสำคัญของพวกเขา

ในการประมูลครั้งนี้ มีของล้ำค่าทั้งหมดสามชิ้น แต่ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นอะไร

แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการประมูลที่ควีนจินเป็นผู้จัด เพราะฉะนั้นย่อมไม่ใช่ของอะไรที่มันธรรมดา ๆ อย่างแน่นอน

ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ

ในไม่ช้า เมื่อพิธีกรปรากฏตัวขึ้นบนเวที ก็ทำการประกาศเริ่มการประมูลอย่างเป็นทางการ

หลังจากนั้นของประมูลชิ้นแรกที่ถูกจัดวางบนแท่น ก็ถูกพิธีกรสาวร่างสูงโปร่ง สวมกระโปรงยาวคนหนึ่งยกออกมา

หลังวางลงบนโต๊ะแล้วเปิดผ้าสีแดงที่คลุมของประมูลออก แจกันลวดลายงดงามสวยหรูก็ปรากฏสู่สายตาของทุกคน

พิธีกรอธิบายที่มาของแจกัน ตลอดจนใบเซอร์รับรองต่างๆ เพื่อเป็นการรับประกันได้ว่า แจกันใบนี้เป็นของแท้

สำหรับการประมูลเพื่อการกุศลเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยพิบัติ แน่นอนว่าคนใหญ่คนโตระดับควีนจินจะต้องไม่พอใจแน่ หากพบว่ามีการนำของปลอมมาแหกตาคนอื่น

เนื่องจากเป็นงานเพื่อการกุศล ราคาประมูลจึงย่อมสูงกว่าราคาตลาด คนที่มาในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนรวยทั้งสิ้น เพื่อชื่อเสียงหน้าตาในแวดวงสังคม เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไรกับเงินที่จ่ายไปมากนัก

หลินหยุนไม่สนใจชื่อเสียงจอมปลอมอะไรพวกนั้น เมื่อเห็นการเรียกราคาประมูลกันอย่างกระตือรือร้นของคนพวกนี้ เขาก็ยังคงไม่รู้สึกรู้สาอะไร  เพราะสิ่งที่เขารออยู่คือเครื่องรางต่างหากล่ะ

ของประมูลสองชิ้นแรกเป็นวัตถุโบราณธรรมดา แม้ว่าทั้งหมดจะเป็นของแท้และคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่หลินหยุนก็ไม่ได้รู้สึกถึงพลังชี่ทิพย์ใดๆจากของเหล่านี้เลย

ดังนั้น สิ่งที่เรียกว่าเครื่องราง จะต้องเป็นของประมูลชิ้นที่สามอย่างแน่นอน

"มิสหลี่อี๋ ขอเชิญยกสมบัติชิ้นที่สาม ซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของการประมูลในวันนี้ขึ้นมาด้วยครับ!" พิธีกรกล่าวเสียงดังด้วยรอยยิ้มสร้างบรรยากาศ

เมื่อสมบัติชิ้นนั้นถูกนำขึ้นมา ในขณะที่ผ้าคลุมสีแดงนั้นยังไม่ถูกเปิดออก หลินหยุนที่กำลังหลับตาพักผ่อนอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาทันที

"นี่มัน ... ปราณที่แสนคุ้นเคยนี่มันคือ [วิชาต้าเต๋า] แห่งสำนักต้าเต๋า!"

“หรือว่าจะเป็น ... เย่เยว่!”

แววตาของหลินหยุน พลันสาดประกายแสงเจิดจ้าออกมาสองสาย บนโลกนี้ไม่ควรมีมรดกของสำนักต้าเต๋าดำรงอยู่ นี่คือสิ่งที่อาจารย์ของหลินหยุนเคยบอกไว้

ถ้าอย่างนั้น เพราะเหตุใดจึงมีปราณจากเคล็ดวิชาที่มาจากสำนักต้าเต๋า ปรากฏขึ้นในเวลานี้ได้?

มีคำอธิบายเพียงประการเดียว นั่นคือ เย่เยว่ก็กลับชาติมาเกิดใหม่เช่นกัน!

ตบะซึ่งบ่มเพาะบำเพ็ญเพียรมาถึงแปดร้อยปีของหลินหยุน เกิดผันผวนอย่างรุนแรงในเวลานี้ เย่เยว่ นั่นคือผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา!

อีกทั้งยังเป็นหญิงสาวที่สวมชุดคลุมสีขาวราวแสงจันทร์ของวิถีแห่งเต๋าแล้ว กลับดูงดงามตรึงตาเสียยิ่งกว่าผลงานชิ้นเอกชิ้นไหนๆ ของดีไซน์เนอร์ในงานปารีสแฟชั่นวีคเสียอีก

ในเวลานั้น หลินหยุนเพิ่งจะถูกอาจารย์พากลับไปที่สำนักต้าเต๋า แต่ไม่ได้ถูกรับเข้าเป็นศิษย์โดยตรง เซียนซางหมิ่นโยนหลินหยุนกับคนจำนวนมากอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ถูกพามาจากดาวเคราะห์ดวงอื่น ไปไว้ในโลกใบเล็กๆใบหนึ่ง

จากนั้นก็ปล่อยให้พวกเขาเข้ารับการทดสอบ ด้วยการเอาชีวิตรอดจากโลกใบเล็ก ๆ ที่ว่านั้นให้ได้ และมีเพียงผู้ที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์เท่านั้น ที่จะถูกเซียนซางหมิ่นรับเป็นศิษย์

เย่เยว่กับหลินหยุนก็เช่นกัน พวกเขาต่างก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้น

การทดสอบประเภทนี้ นับเป็นการทดสอบที่ต้องใช้ชีวิตเข้าแลกจริงๆ คนที่เซียนซางหมิ่นพากลับมาตอนแรกนับได้มีเป็นหมื่นๆคน แต่สุดท้ายคนที่ถูกรับเป็นศิษย์ กลับมีเพียงสิบคนเท่านั้น

บรรดาผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์เหล่านั้น จะถูกขีดฆ่าชื่อออกไปโดยปริยาย

ไม่ใช่ว่าผู้ที่เป็นเซียน จะมีจิตใจโอบอ้อมอารีกันไปหมดเสียทุกคน กฎในโลกแห่งการบำเพ็ญเซียนนั้น โหดร้ายยิ่งกว่าโลกมนุษย์มากมายหลายเท่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์