โม่เฉินรีบเอ่ยขึ้น "ยังมีอีกสำนัก ถือเป็นสำนักหลอมเครื่องรางที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกบู๊โบราณ! ชื่อว่าสำนักหลอมเขา"
หลินหยุนพยักหน้าและเอ่ยขึ้น “นำทางไป!”
ในไม่ช้า ที่สำนักหลอมเขา
หลินหยุนและโม่เฉินปรากฏขึ้นอีกครั้ง
สำนักหลอมเขาก็เป็นเช่นเดียวกับสำนักเป่ยเฉินไม่มีผิด ที่นั่นไม่มีเงาใครให้เห็นแม้แต่ครึ่ง
เมื่อค้นหาทั้งสำนักก็ไม่พบสิ่งที่มีค่าอะไร
โม่เฉินขมวดคิ้วและพูดว่า “เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับข่าวแล้ว! เกรงว่าไม่ว่าตอนนี้พวกเราจะไปที่สำนักไหนก็จะเจอสถานการณ์แบบนี้ทั้งนั้น!”
หลินหยุนเยาะเย้ยและกล่าวว่า “มุ่งห้าไปสี่ตระกูลผู้พิทักษ์!”
โม่เฉินพยักหน้า
พวกเขามุ่งหน้าไปยังเขาเอ๋อเหมย
เขาเอ๋อเหมยเป็นหนึ่งในสี่สำนักผู้พิทักษ์
นำโดยตระกูลหลิว
เมื่อหลินหยุนและโม่เฉินมาถึง ก็ไม่มีสถานการณ์อย่างเช่นก่อนหน้านี้อีก
อย่างไรก็ตาม
ในไม่ช้านักบู๊ทั้งหมดของเขาเอ๋อเหมยก็มารวมตัวกันและมาตรงหน้าของหลินหยุน ท่าทางราวกับว่ากำลังเตรียมต่อสู้อย่างเต็มที่!
โม่เฉินประสานมือไปให้ชายชราคนหนึ่งและกล่าวว่า “ประมุขหลิว คุณคงรู้จุดประสงค์ที่เรามาที่นี่ ดังนั้นผมจะไม่พูดอะไรมากแล้ว! ในฐานะตระกูลผู้พิทักษ์ หวังว่าประมุขหลิวจะสามารถสนับสนุนเรา!”
เมื่อชายชราได้ยินคำพูดนั้น เขาก็เหลือบมองหลินหยุน จากนั้นก็พูดเยาะเย้ย “ขออภัยจริงๆเขาเอ๋อเหมยของฉันไม่มีอะไรที่พวกคุณต้องการ! ทั้งสองท่านเชิญกลับไปทันทีเถอะ!”
ดวงตาของหลินหยุนเป็นประกาย ความหนาวเหน็บเย็นเฉียบก็ถูกปล่อยออกมาในทันใด
กลิ่นอายที่หนาวเหน็บทำให้ทุกคนในเขาเอ๋อเหมยตะลึงไปทันที จากนั้นก็รีบถอยกลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความกลัว
ประมุขหลิวมองไปที่หลินหยุนและเอ่ยเสียงเข้ามว่า “หลินชางฉอง พวกเรารู้ว่าคุณมีพลังที่แข็งแกร่ง เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณ!"
“แต่อย่าลืมล่ะว่า! พวกเราเป็นหนึ่งในสี่ผู้พิทักษ์!”
"ถ้าไม่มีพวกเรา ค่ายกลสี่พิทักษ์จะพังในไม่ช้า! ถ้าคุณคิดจะลงมือกับเรา จงคิดถึงผลที่ตามมาให้ดี!"
ดวงตาของหลินหยุนฉายแววเย็นชาครู่หนึ่งและพูดอย่างเย็นชาว่า "ในโลกนี้ ไม่มีใครสามารถคุกคามฉันหลินชางฉองได้!"
เมื่อเสียงจบลง แขนของหลินหยุนก็สะบัดออกไปทันที!
พลังที่น่าหวาดกลัวอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้แผ่ซ่านออกไปในทันที
ผู้แข็งแกร่งระดับแนวหน้าของเขาเอ๋อเหมยกว่า 20 คนกระอักเลือดและกระเด็นออกไปทันที จากนั้นก็ล้มลงกับพื้นอย่างแรง
“ถ้ายังส่งเสียงดังกว่านี้ ตาย!”
พูดไป ร่างของเขาก็วาบหายไปและมุ่งหน้าไปยังยอดเขา
โม่เฉินรีบตามไป
เขาเอ๋อเหมยนั้นสมกับที่เป็นหนึ่งในสี่ผู้พิทักษ์
ในโกดังมีของดีอยู่ไม่น้อย
แม้ว่าจะไม่เจอควอตซ์ม่วงและแม่ทองที่เป็นของสำคัญ แต่ก็พบของอีกสามสิ่งที่ต้องใช้
เมื่อเดินออกจากโกดัง ทั้งสองก็ลอยขึ้นไปในอากาศท่ามกลางสายตาหวาดกลัวของผู้แข็งแกร่งในเขาเอ๋อเหมย
หลังจากออกจากเขาเอ๋อเหมยพวกเขาก็ไปยังสองตระกูลผู้พิทักษ์
และก็ยังไม่พบควอตซ์ม่วงและแม่ทอง
ใบหน้าของโม่เฉินดูปั้นยากและกล่าวว่า “คุณหลิน แม้แต่สี่ตระกูลผู้พิทักษ์ก็หาไม่เจอของทั้งสองสิ่งนี้ เกรงว่า จากนี้ไปคงลำบากแล้ว!”
หลินหยุนเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่เป็นไร นายไปหาของอันอื่นเถอะ ที่เหลือมอบให้ฉัน! หลังจากหาเจอแล้วไปรอฉันที่เขาคุนชาง!”
พูดจบ หลินหยุนก็บินหายไปอีกครั้ง
แต่เดิมหลินหยุนต้องการสร้างเสถียรภาพให้กับอาคมโดยอิงจากค่ายกลสี่พิทักษ์จริงๆ
แบบนั้นเขาจำเป็นต้องใช้ควอตซ์ม่วงและแม่ทองถึงจะทำได้
แต่ตอนนี้ เขาเปลี่ยนใจแล้วจริงๆ!
เขาต้องการจัดเรียงค่ายกลใหม่ และรวมค่ายกลสี่พิทักษ์เข้าไปด้วย
จากนี้ไป ผนึกค่ายกลก็จะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับตระกูลผู้พิทักษ์อีกต่อไป!
สี่ตระกูลผู้พิทักษ์รู้ดีถึงความสัมพันธ์ของตนกับผนึกประตูเซียน
อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะอาจหาญไม่เกรงกลัวอยู่ด้วย
หลังจากจัดเรียงค่ายกลใหม่ ความสัมพันธ์นี้ก็จะถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...