จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1164

สรุปบท บทที่ 1164 พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปเนื้อหา บทที่ 1164 พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บท บทที่ 1164 พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“ฐานของยาทอง!”

“ในที่สุดก็หล่อสำเร็จแล้ว!”

“อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง ลำพังแค่หล่อฐานของยาทองหวูซ่างระดับเทพได้สำเร็จเพียงรายการเดียวนี้ ก็นับว่าฉันมาโลกคุนชางครั้งนี้ไม่เสียเที่ยวแล้ว!”

“ยิ่งไปกว่านั้นยังได้หนอนตัวอ่อนของไหมจัญไรไร้เงาอีกด้วย!”

“มันเหนือความคาดหมายจริงๆเลย!”

จากนั้นก็ดื่มด่ำชื่นชมอยู่สักพักหนึ่ง

ตอนนี้ หนอนตัวอ่อนของไหมจัญไรไร้เงาก็ยังคงอยู่ภายในยาทองโดยไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย

ทำเช่นนี้ก็จะเกิดผลดีอย่างใหญ่หลวง

นั่นก็คือไม่จำเป็นจะต้องรอให้ไหมจัญไรไร้เงาฟักออกมาก่อน แล้วค่อยเข้าไปแสดงความเป็นเจ้าของ

ทันทีที่ฐานของยาทองหล่อสำเร็จขึ้นแล้ว เขาก็สามารถรับรู้ได้แล้ว

เดิมทีหนอนตัวอ่อนที่เคยขัดขืนไม่ยอมรับเขานั้น ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง

เปลี่ยนเป็นใกล้ชิดสนิทสนมกับเขามากยิ่งขึ้น

มิหนำซ้ำยังเกิดความรู้สึกพึ่งพิงอาศัยเขามากเป็นพิเศษอีกด้วย

“ในชาตินี้ ก็ได้เดินทางมาเป็นเวลานานมากแล้ว เกิดเรื่องราวขึ้นมากมายเช่นนี้!”

“วันนี้ ก็นับว่าได้ทำสำเร็จในขั้นตอนนี้แล้วในที่สุด!”

หลังจากที่หลอมรวมฐานของยาทองได้แล้ว ในการแสดงอิทธิฤทธิ์ออกมาของเขานั้น ก็สามารถเปลี่ยนเป็นอีกระดับหนึ่งได้เช่นกัน

ขารอคอยวันนี้มานานแล้ว!

แน่นอนที่ว่า ในตอนนี้เขายังไม่สามารถผลิตยาทองหวูซ่างระดับเทพที่แท้จริงออกมาได้อย่างสมบูรณ์

เงื่อนไขในการผลิตยาทองหวูซ่างระดับเทพนั้นมันยุ่งยากซับซ้อนมากทีเดียว

ต้องทำการหล่อหลอมถึงเก้าครั้ง

การหล่อแต่ละครั้ง ก็ต้องการสมบัติทั่วฟ้าดินชนิดหนึ่ง

การค้นหาสมบัติทั่วฟ้าดินแต่ละครั้งนั้นไม่ใช่หาได้ง่ายต้องขึ้นกับบุญวาสนาด้วย

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ตอนนี้ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว

ถอนหายใจเฮือกยาวออกมา หลินหยุนแอบนึกอยู่ในใจว่า “นับเวลาแล้ว การเซ่นไหว้บรรพบุรุษตระกูลฉินน่าจะเริ่มขึ้นหลังจากสามวันนี้ไป ก็ยังพอมีเวลาที่จะฝึกฝนพลังให้มั่นคงขึ้นได้บ้าง!”

“หวังว่าคงไม่ทำให้ฉันผิดหวัง!”

“น้าฉินจะสามารถหาข้อมูลบางอย่างของเย่เยว่ที่เหลือไว้ได้”

เมื่อนึกถึงเย่เยว่แล้ว ในสมองของหลินหยุนก็ปรากฏหน้าตาของฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

ถึงแม้เวลาจะผ่านไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วก็ตาม

แต่ทุกท่วงท่าก้าวเดินของเย่เยว่ ไม่ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ ก็ยังคงปรากฏอยู่ในสมองของเขาอย่างชัดเจนเช่นเดิมเสมอ

ทางด้านอีกฝ่ายหนึ่ง

เวลาใกล้เข้ามาถึงแล้ว ผู้คนตระกูลฉินทั้งหลายต่างก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมงานเซ่นไหว้บรรพบุรุษ

ส่วนการหายตัวไปอย่างกะทันหันของหลินหยุนนั้น สำหรับตระกูลฉินแล้วก็ย่อมไม่มีผลกระทบอะไรอย่างแน่นอน

แต่ว่าสำหรับฉินเหมยและซิงเฟยแล้ว นั่นเป็นเรื่องที่ใหญ่โตราวกับฟ้าถล่มเลยทีเดียว

ทำไมเหรอ?

เป็นเพราะซิงเฟยอาละวาดไม่หยุดหย่อนเลย!

หลินหยุนจู่ๆก็หายสาบสูญไป ซิงเฟยก็เสียสติไปโดยสิ้นเชิง!

ไม่ว่ายังไงก็จะต้องไปจากเมืองมี่หยุนให้ได้!

เพราะว่าตอนนี้หลินหยุนคนที่เธอสนใจที่สุดไม่อยู่แล้ว ดังนั้นยังไงเธอก็ไม่อยากจะอยู่ต่อไปอีกแล้ว!

ฉินเหมยพูดปลอบโยนสารพัดอีกทั้งยังรับประกันว่าหลินหยุนจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน จึงสามารถทำให้เธอยอมอยู่ต่อไปได้

ในวันนี้

ฟ้ายังไม่ทันรุ่งสางเลย

ผู้คนของตระกูลฉินทั้งหลายก็ได้มารวมตัวที่บริเวณโล่งกว้างของลานบ้านด้านหลังกันหมดแล้ว

ยืนเข้าแถวเรียงตามศักดิ์และอายุของแต่ละคน

ตำแหน่งที่อยู่ด้านหน้าสุดก็คือ ฉินห้าวเทียนพ่อของฉินเหมย

คนที่อยู่ข้างหลังก็คือผู้อาวุโสตระกูลฉินทั้งสี่ท่าน

ด้านข้างทั้งสองก็คือฉินเหมย และญาติพี่น้องอาลุงบางส่วนของฉินเหมย

ส่วนซิงเฟยก็ยืนอยู่กับฉินห้าวเทียน

อายุของเธอไม่มากก็จริง

แต่ว่า ก็เป็นน้องภรรยาที่จริงแท้แน่นอนของฉินห้าวเทียน

ก็ย่อมไม่สามารถละเลยได้

แต่ว่าตอนนี้ซิงเฟยสีหน้าเต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายมาก

สำหรับเรื่องของการเซ่นไหว้บรรพบุรุษนั้น อย่าว่าแต่ตระกูลฉินเลย แม้แต่ตระกูลซิงของพวกเขาเอง เธอยังพยายามหาทางหลบเลี่ยงไม่เข้าร่วมพิธีด้วยเลย

ต่อให้คนที่อยู่ข้างในนั้นเป็นพี่สาวที่เธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยก็ตาม

ก็ยังเป็นเช่นนี้เหมือนกัน

แน่นอนที่ว่า

ที่เธอไม่ยอมเข้าร่วมด้วยเพราะยังมีอีกสาเหตุหนึ่ง

นั่นก็คือพี่สาวคนนั้นเคยทำให้เกิดเรื่องที่มีผลกระทบต่อตระกูลซิงไม่น้อยเลย

นอกจากคนของตระกูลฉินแล้ว ก็ยังมีคนของตระกูลใหญ่ที่สนิทกับตระกูลฉินจำนวนไม่น้อยมาร่วมพิธีด้วยเช่นกัน

ถัดออกไปจากผู้คนตระกูลฉินทั้งหมดนั้น

ด้านหลังของตึกเก้าชั้นก็ยังมีลานบ้านอีกแห่งหนึ่ง

“พี่มาได้ยังไงคะ?”

“พี่มาร่วมพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษของตระกูลฉินพวกเราโดยเฉพาะเลยเหรอ?”

ฉินชิงถงก็รีบวิ่งไปหาฉู่เทียนด้วยความดีใจ

แต่ว่าฉู่เทียนกลับยืนอยู่กับที่ไม่ขยับตัวเลย

ในขณะที่ฉินชิงถงวิ่งมาเกือบจะใกล้ตัวฉู่เทียนนั้น

ทันใดนั้น

ชายชราที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดนั้นก็ยกแขนขึ้นสะบัด เกิดพลังแรงที่มองไม่เห็นพุ่งเข้าไปม้วนตัวฉินชิงถงให้ลอยออกไปข้างนอก

“ชิงถง!”

ฉินเหมยตกใจหน้าถอดสี จึงตะโกนร้องด้วยความตกใจ

เงาร่างของฉินห้าวเทียนหายแวบไปทันที รับเข้าไปรับฉินชิงถงไว้ในอ้อมกอด

ฉินชิงถงตกใจไม่เบา จนหน้าที่สะสวยเปลี่ยนเป็นขาวซีดทันที

มิหนำซ้ำยังไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกด้วย

ฉินห้าวเทียนวางตัวเธอลงมา แล้วส่งสัญญาณให้เธอไปอยู่ข้างกายฉินเหมย

เธอพยักหน้าด้วยความตื่นตกใจ จากนั้นก็รีบวิ่งไปหาฉินเหมยทันที

ฉินห้าวเทียนหันหลังกลับมา มองไปยังชายชราที่ลงมือคนนั้นด้วยสีหน้าบึ้งตึง!

“สหายทั้งสองของสำนักสุริยัน วันนี้เป็นวันเซ่นไหว้บรรพบุรุษของตระกูลฉินเรา ท่านทั้งหลายก็เหาะเหินเดินอากาศลงมาถึงก็ลงมือกับหลานสาวของฉัน เป็นเพราะสาเหตุอะไรเหรอ?”

ชายชราคนนั้นได้ยิน ก็หัวเราะเยาะขึ้นมาทันที

หลังจากกวาดสายตามองฉินห้าวเทียนอย่างเหยียดหยามแล้ว แต่กลับไม่ตอบอะไร หันหลังกลับไปมองฉู่เทียนแล้วถามว่า “แกมาดูซิว่า ที่นี่ คนไหนคือหลินหยุน!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขาแล้ว ทุกคนต่างก็เข้าใจกระจ่างทันที

สำนักสุริยัน มาตามหาหลินหยุนนี่เอง!

สายตาฉู่เทียนก็กวาดมองไปยังผู้คนทั้งหลาย จากนั้นก็ส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “รายงานท่านผู้อาวุโสใหญ่ คนที่อยู่ในที่นี้ไม่มีคนที่ชื่อหลินหยุนเลยครับ!”

ผู้อาวุโสใหญ่ได้ยินดังนั้นก็หันหน้ากลับมา สายตาที่ลึกล้ำก็มองไปยังฉินห้าวเทียน

“หลินหยุนคนนั้นอยู่ที่ไหน?”

“ส่งมอบหลินหยุนออกมา!”

“แล้วจะไว้ชีวิตคนตระกูลฉินพวกแกทุกคน!”

ฉินห้าวเทียนขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ในเมื่อท่านมาหาหลินหยุน งั้นก็พูดง่ายเลย!”

“หลินหยุนคนนี้ ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลฉินเราเลยแม้แต่นิดเดียว!”

“อีกทั้งหลายวันก่อน เขาก็ได้ไปจากที่นี่แล้ว!”

“พวกเราตระกูลฉินทุกคน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปไหน!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์