ตอน บทที่ 1167 ฉินห้าวเทียนที่อยู่เหนือความคาดหมาย จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1167 ฉินห้าวเทียนที่อยู่เหนือความคาดหมาย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ยันต์ฟ้าร้องสีเขียวเข้มผืนหนึ่งก็หลุดมือออกไป
จากนั้นก็ระเบิดทันที
เสียงฟ้าร้องที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมา
“โป้ง!”
หลังจากเสียงระเบิดที่สะท้านฟ้าสะเทือนแผ่นดินผ่านไปแล้ว
ร่างของฉินห้าวเทียนก็ตกลงมาจากกลางอากาศอย่างแรง
แล้วกระแทกลงไปบนพื้นที่ปูด้วยหินบลูสโตนนั้นจนกลายเป็นหลุมใหญ่ลึกลงไป!
“พ่อ!”
“เจ้าบ้าน!”
ผู้คนตระกูลฉินทั้งหมดต่างก็ตกใจหน้าถอดสีไปตามๆกัน!
ทั้งหมดต่างก็ส่งเสียงร้องด้วยความตื่นตกใจ
ฉินเหมยรีบวิ่งไปหาฉินห้าวเทียนทันที
เมื่อเห็นฉินห้าวเทียนที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด สีหน้าขาวซีดราวกับกระดาษเงินนั้น ฉินเหมยตะโกนเสียงร้องเบาๆ แล้ววิ่งเข้ามาถึงข้างกายของฉินห้าวเทียน
“พ่อ!”
“พ่อเป็นยังไงบ้าง?”
ฉินห้าวเทียนดูราวกับสูญเสียพละกำลังไปจนหมดสิ้นแล้ว
หันไปหาฉินเหมยแล้วส่ายหน้าเล็กน้อย ยังคงจับกระบี่ด้ามยาวไว้ และพยายามกระเสือกกระสนลุกขึ้นมาอีกครั้ง
แล้วค่อยๆก้าวเดินออกจากหลุมนั้นทีละก้าวอย่างยากลำบาก
ฉินห้าวเทียนรีบผลักฉินเหมยออกไปอยู่อีกด้านหนึ่ง
มองไปยังท่านเฒ่ายันต์และคนของสำนักสุริยันและวิหารผนึกวิญญาณทั้งหลาย ด้วยสายตาที่มืดมนราวกับขึ้นมาจากนรก
“ดูไปแล้วหลังจากวันนี้ไป ตระกูลฉินเราไม่น่าจะอยู่รอดต่อไปได้อีกแล้ว!”
“แต่ว่า พวกแกคิดว่าไม่ต้องชดใช้อะไรออกมาเลยสักอย่าง ก็จะสามารถบีบคั้นตระกูลฉินเราได้จริงเหรอ?”
“ถ้าพวกแกคิดอย่างนั้นละก็ งั้นก็ผิดถนัดแล้ว!”
“คิดจะฆ่าล้างโคตรตระกูลฉินเรา งั้นพวกแกก็เตรียมตัวตายซะเถอะ!”
“กระบี่พิชิตมังกร แจ้งเกิดเลย!”
หลังจากที่ฉินห้าวเทียนคำรามเสียงเบาออกมา
ทันใดนั้น ก็เกิดกระแสกลิ่นอายที่แข็งแกร่งมากสองสายปลดปล่อยออกมาจากตึกเก้าชั้นนั้นทันที
ในเวลาเดียวกันนี้เอง
กระบี่ยาวในมือของเขาด้ามนั้นก็พุ่งตรงขึ้นไปกลางอากาศเช่นเดียวกัน
กระบี่ยาวทั้งสามด้ามต่างก็มีสีที่แตกต่างกัน สีดำ สีเขียว และสีขาว
กลายเป็นสายรุ้งสามสายที่ผสมปนเปอยู่กลางอากาศ
พลังแรงกดดันเป็นที่น่าสะพรึงกลัว
เมื่อเทียบกับยันต์กระบี่ทองดำและยันต์ฟ้าร้องเวหาที่ท่านเฒ่ายันต์ปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่นี้ ยังแข็งแกร่งกว่ามากเลย
เมื่อรับรู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของพลังที่เกิดจากกระบี่สามด้ามนั้นแล้ว
พวกคนที่มาจากสำนักสุริยัน วิหารผลึกวิญญาณ แล้วก็ท่านเฒ่ายันต์ต่างก็แสดงสีหน้าที่เคร่งเครียดออกมา
นอกจากนั้นแล้ว
สายตาของผู้คนทั้งหลายที่มองไปยังฉินห้าวเทียน ก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว
“นี่..........”
“นี่เป็นไปได้ยังไง?”
“เจ้าบ้านตระกูลฉินทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?”
“ตระกูลฉินแอบซ่อนความลับไว้ลึกล้ำเกินไปแล้ว!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าวันนี้ถูกบีบคั้นจากพลังอำนาจทั้งสามฝ่าย แล้วต้องเชิญหน้ากับความหายนะของตระกูลฉินละก็ เกรงว่าเจ้าบ้านฉินก็ยังไม่ยอมหงายไพ่ใบสุดท้ายออกมาอย่างแน่นอนเลย!”
อย่าว่าแต่คนนอกเลย
ตอนนี้
แม้แต่คนในตระกูลฉินทั้งหมด
ในใจต่างก็เกิดความรู้สึกตื่นเต้นราวกับคลื่นทะเลโหมกระหน่ำ
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เจ้าบ้านถึงกับแข็งแกร่งได้ถึงขั้นนี้แล้ว!
“เจ้าบ้านเขา.........นี่แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
“หรือว่าพวกเรายังพอมีหวังรอดตายได้แล้ว!”
“คิดไม่ถึงจริงๆเลยว่า เจ้าบ้านพวกเราถึงกับแอบซ่อนความลับที่ล้ำลึกขนาดนี้ไว้!”
“ถ้าหากเจ้าบ้านเปิดเผยพลังฝึกฝนอย่างนี้ออกมาแต่แรก ในเมืองมี่หยุนนี้ยังจะมีใครกล้าเป็นศัตรูกับตระกูชฉินเราอีกล่ะ?”
ในขณะที่ทุกคนกำลังรู้สึกเซอร์ไพรส์กับการกระทำของฉินห้าวเทียนอยู่นั้น
ตอนนี้ในเมืองมี่หยุน
ภายในจวนเจ้าเมือง
ชั้นบนภายในตึกเก๋งของจวนเจ้าเมืองนั้น ชายวัยกลางคนสองคนกำลังนั่งหันหน้าเข้าหากัน
เดินหมากลุกไปพลางจิบน้ำชาชั้นเลิศไปพลาง
สองคนนั้นก็คือเจ้าเมืองโจงหมิง
และเจ้าเมืองรองฉู่จิงเผิง
รับรู้ถึงพลังแรงอันน่ากลัวกลางอากาศที่อยู่ตระกูลฉินนั้นแล้ว
โจงหมิงก็อดไม่ได้ที่ถอนหายใจออกมา
“เจ้าฉินไอ้หมอนั่นในที่สุดก็อดรนทนไม่ไหวแล้ว!”
“พลังแรงนี้นับว่าแข็งแกร่งมากจริงๆเลย!”
พลังแรงที่น่าสะพรึงกลัวก็ปะทะขึ้นกลางเวหาอย่างรุนแรง
กระบี่พิชิตมังกรพร้อมด้วยพลังที่สามารถดับฟ้าดินได้นั้น ก็กวาดต้อนออกไป
แต่ในเวลานี้เอง
แส้ขังวิญญาณที่กลางร่างเป็นเงามือนั้นกลับฟาดลงไปยังตัวกระบี่พิชิตมังกรทั้งสามนั้นอย่างแรง
ทันใดนั้น ทำให้กระบี่พิชิตมังกรต้องหยุดชะงักลงทันที
ในเวลาเดียวกันนี้เอง เส้นไหมทองทั้งห้าของยันต์ฟ้าร้องเวหาก็ระเบิดออกมา
เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว
ราวกับฟ้าดินกำลังถูกระเบิดจนพังทลายลงมา
วินาทีต่อมา
เดิมทีฉินห้าวเทียนที่เหลือเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายนั้น ก็ถูกกระแทกอย่างแรงอีกครั้งหนึ่ง
กระบี่พิชิตมังกรทั้งสามจึงสูญเสียพลังทิพย์ในการค้ำยันอย่างสิ้นเชิง
ก็ร่วงหล่นลงมาอยู่ข้างตัวของเขาเช่นกัน
ติดตามมาด้วย ท่านเฒ่ายันต์ทั้งสามคนต่างก็ทยอยกันโรยตัวลงมาบนพื้น
สีหน้าของทั้งสามคนก็ขาวซีดเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่า
การต่อสู้เมื่อครู่นี้ สำหรับพวกเขาแล้ว ก็ได้สูญเสียพลังไม่ใช่น้อยเลย
ฉินห้าวเทียนในตอนนี้ ก็ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีกแล้ว
แม้กระทั่งเนื้อตัวของเขา ก็ยังปรากฏแผลที่เหมือนรอยร้าวในดินปั้นอีกด้วย
ฉินเหมยตะโกนร้องเสียงดัง จากนั้นก็รีบบุกขึ้นไปอีกครั้ง
แล้วรีบหยิบโอสถหนึ่งกำมือป้อนใส่ปากของฉินห้าวเทียนทันที
“พ่อ!”
“พ่อเป็นยังไงบ้างคะ?”
ในเวลานี้เอง ซิงเฟยก็หายตัวแวบมาถึงด้านหน้าของฉินห้าวเทียนเช่นกัน
หลังจากมองดูสถานการณ์แล้ว
พูดด้วยสีหน้าบึ้งตึงว่า “ยังไม่ทันตายหรอก!”
เมื่อสิ้นเสียงของเธอ ท่านเฒ่ายันต์ก็โบกมือขึ้น ฉินเหมยก็ถูกพลังแรงที่มองไม่เห็นลากเข้าไปทันที
ซิงเฟยก็รีบระเบิดพลังฝึกฝนออกมาทันที เหาะตัวขึ้นบนอากาศ เพื่อหลบการควบคุมของพลังแรงที่มองไม่เห็นนั้น
ท่านเฒ่ายันต์อึ้งไปทันที จากนั้นก็หัวเราะแล้วพูดว่า “คิดไม่ถึงจริงเลยว่า ยัยหนูยังมีพลังฝึกฝนที่ไม่เลวเลยนะ!”
พูดพลาง ก็โยนผ้ายันต์ผืนหนึ่งออกไปเบาๆ ทันใดนั้นก็ห่อหุ้มซิงเฟยที่อยู่กลางอากาศเอาไว้แล้ว
ไม่ว่าเธอจะดิ้นรนยังไง ก็ไม่มีทางที่จะหลุดพ้นจากการถูกควบคุมได้
และถูกแข็งขืนลากตัวมาถึงตรงหน้าท่านเฒ่ายันต์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...