ยันต์ฟ้าร้องสีเขียวเข้มผืนหนึ่งก็หลุดมือออกไป
จากนั้นก็ระเบิดทันที
เสียงฟ้าร้องที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมา
“โป้ง!”
หลังจากเสียงระเบิดที่สะท้านฟ้าสะเทือนแผ่นดินผ่านไปแล้ว
ร่างของฉินห้าวเทียนก็ตกลงมาจากกลางอากาศอย่างแรง
แล้วกระแทกลงไปบนพื้นที่ปูด้วยหินบลูสโตนนั้นจนกลายเป็นหลุมใหญ่ลึกลงไป!
“พ่อ!”
“เจ้าบ้าน!”
ผู้คนตระกูลฉินทั้งหมดต่างก็ตกใจหน้าถอดสีไปตามๆกัน!
ทั้งหมดต่างก็ส่งเสียงร้องด้วยความตื่นตกใจ
ฉินเหมยรีบวิ่งไปหาฉินห้าวเทียนทันที
เมื่อเห็นฉินห้าวเทียนที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด สีหน้าขาวซีดราวกับกระดาษเงินนั้น ฉินเหมยตะโกนเสียงร้องเบาๆ แล้ววิ่งเข้ามาถึงข้างกายของฉินห้าวเทียน
“พ่อ!”
“พ่อเป็นยังไงบ้าง?”
ฉินห้าวเทียนดูราวกับสูญเสียพละกำลังไปจนหมดสิ้นแล้ว
หันไปหาฉินเหมยแล้วส่ายหน้าเล็กน้อย ยังคงจับกระบี่ด้ามยาวไว้ และพยายามกระเสือกกระสนลุกขึ้นมาอีกครั้ง
แล้วค่อยๆก้าวเดินออกจากหลุมนั้นทีละก้าวอย่างยากลำบาก
ฉินห้าวเทียนรีบผลักฉินเหมยออกไปอยู่อีกด้านหนึ่ง
มองไปยังท่านเฒ่ายันต์และคนของสำนักสุริยันและวิหารผนึกวิญญาณทั้งหลาย ด้วยสายตาที่มืดมนราวกับขึ้นมาจากนรก
“ดูไปแล้วหลังจากวันนี้ไป ตระกูลฉินเราไม่น่าจะอยู่รอดต่อไปได้อีกแล้ว!”
“แต่ว่า พวกแกคิดว่าไม่ต้องชดใช้อะไรออกมาเลยสักอย่าง ก็จะสามารถบีบคั้นตระกูลฉินเราได้จริงเหรอ?”
“ถ้าพวกแกคิดอย่างนั้นละก็ งั้นก็ผิดถนัดแล้ว!”
“คิดจะฆ่าล้างโคตรตระกูลฉินเรา งั้นพวกแกก็เตรียมตัวตายซะเถอะ!”
“กระบี่พิชิตมังกร แจ้งเกิดเลย!”
หลังจากที่ฉินห้าวเทียนคำรามเสียงเบาออกมา
ทันใดนั้น ก็เกิดกระแสกลิ่นอายที่แข็งแกร่งมากสองสายปลดปล่อยออกมาจากตึกเก้าชั้นนั้นทันที
ในเวลาเดียวกันนี้เอง
กระบี่ยาวในมือของเขาด้ามนั้นก็พุ่งตรงขึ้นไปกลางอากาศเช่นเดียวกัน
กระบี่ยาวทั้งสามด้ามต่างก็มีสีที่แตกต่างกัน สีดำ สีเขียว และสีขาว
กลายเป็นสายรุ้งสามสายที่ผสมปนเปอยู่กลางอากาศ
พลังแรงกดดันเป็นที่น่าสะพรึงกลัว
เมื่อเทียบกับยันต์กระบี่ทองดำและยันต์ฟ้าร้องเวหาที่ท่านเฒ่ายันต์ปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่นี้ ยังแข็งแกร่งกว่ามากเลย
เมื่อรับรู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของพลังที่เกิดจากกระบี่สามด้ามนั้นแล้ว
พวกคนที่มาจากสำนักสุริยัน วิหารผลึกวิญญาณ แล้วก็ท่านเฒ่ายันต์ต่างก็แสดงสีหน้าที่เคร่งเครียดออกมา
นอกจากนั้นแล้ว
สายตาของผู้คนทั้งหลายที่มองไปยังฉินห้าวเทียน ก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว
“นี่..........”
“นี่เป็นไปได้ยังไง?”
“เจ้าบ้านตระกูลฉินทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?”
“ตระกูลฉินแอบซ่อนความลับไว้ลึกล้ำเกินไปแล้ว!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าวันนี้ถูกบีบคั้นจากพลังอำนาจทั้งสามฝ่าย แล้วต้องเชิญหน้ากับความหายนะของตระกูลฉินละก็ เกรงว่าเจ้าบ้านฉินก็ยังไม่ยอมหงายไพ่ใบสุดท้ายออกมาอย่างแน่นอนเลย!”
อย่าว่าแต่คนนอกเลย
ตอนนี้
แม้แต่คนในตระกูลฉินทั้งหมด
ในใจต่างก็เกิดความรู้สึกตื่นเต้นราวกับคลื่นทะเลโหมกระหน่ำ
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เจ้าบ้านถึงกับแข็งแกร่งได้ถึงขั้นนี้แล้ว!
“เจ้าบ้านเขา.........นี่แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
“หรือว่าพวกเรายังพอมีหวังรอดตายได้แล้ว!”
“คิดไม่ถึงจริงๆเลยว่า เจ้าบ้านพวกเราถึงกับแอบซ่อนความลับที่ล้ำลึกขนาดนี้ไว้!”
“ถ้าหากเจ้าบ้านเปิดเผยพลังฝึกฝนอย่างนี้ออกมาแต่แรก ในเมืองมี่หยุนนี้ยังจะมีใครกล้าเป็นศัตรูกับตระกูชฉินเราอีกล่ะ?”
ในขณะที่ทุกคนกำลังรู้สึกเซอร์ไพรส์กับการกระทำของฉินห้าวเทียนอยู่นั้น
ตอนนี้ในเมืองมี่หยุน
ภายในจวนเจ้าเมือง
ชั้นบนภายในตึกเก๋งของจวนเจ้าเมืองนั้น ชายวัยกลางคนสองคนกำลังนั่งหันหน้าเข้าหากัน
เดินหมากลุกไปพลางจิบน้ำชาชั้นเลิศไปพลาง
สองคนนั้นก็คือเจ้าเมืองโจงหมิง
และเจ้าเมืองรองฉู่จิงเผิง
รับรู้ถึงพลังแรงอันน่ากลัวกลางอากาศที่อยู่ตระกูลฉินนั้นแล้ว
โจงหมิงก็อดไม่ได้ที่ถอนหายใจออกมา
“เจ้าฉินไอ้หมอนั่นในที่สุดก็อดรนทนไม่ไหวแล้ว!”
“พลังแรงนี้นับว่าแข็งแกร่งมากจริงๆเลย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...