ผู้อาวุโสใหญ่สำนักสุริยันและทูตวิญญาณที่หนึ่งแห่งวิหารผนึกวิญญาณ สายตาก็แสดงความดุร้ายออกมา
ผู้อาวุโสใหญ่สำนักสุริยันหันไปมองท่านเฒ่ายันต์
“ท่านผู้อาวุโส!”
“เจ้าเด็กหลินหยุนนี้ แข็งแกร่งจนเหลือเชื่อไปแล้ว!”
“จะต้องได้รับการสืบทอดที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!”
“พวกเราสามคนร่วมลงมือพร้อมกัน!”
“แล้วฆ่าเจ้าเด็กนี้ จากนั้นก็แบ่งผลประโยชน์กัน ดีไหม?”
ท่านเฒ่ายันต์พยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉันก็กำลังคิดเช่นนี้เหมือนกัน!”
พูดพลางก็มองไปยังหลินหยุน แล้วตะคอกด้วยเสียงแข็งว่า “ไอ้เด็กเปรตหลินหยุน ถ้าแกสามารถตายด้วยน้ำมือของพวกเราสามคน แกก็น่าภาคภูมิใจแล้ว!”
หลินหยุนพูดเย้ยหยันว่า “พวกแกอยู่ในสายตาฉัน ก็เป็นแค่มดตัวน้อยเท่านั้นเอง!”
ทั้งสามคนได้ยินดังนั้นก็บันดาลโทสะขึ้นอีกครั้ง
ทูตวิญญาณที่หนึ่งแห่งวิหารผนึกวิญญาณพูดด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “เจ้าเด็กโอหัง! คนที่วิหารผนึกวิญญาณเราต้องการฆ่า ไม่เคยปล่อยให้หลุดมือไปได้เลย!”
พอพูดจบเขาก็เหาะตัวขึ้นกลางอากาศไปก่อนคนอื่น แส้ขังวิญญาณในมือก็หายวับไปกลางอากาศ กลายเป็นประกายแสงสีดำที่มืดฟ้ามัวดินเกิดขึ้นกลางอากาศ
ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น
ผู้อาวุโสใหญ่สำนักสุริยันก็เหาะเหินเดินอากาศขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
จิตสังหารในตัวก็แผ่ซ่านออกมา
ในสามคนนี้ คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังคงเป็นท่านเฒ่ายันต์เช่นเดิม
ตอนนี้ในมือของเขาก็มีลูกบอลกลมสีดำขนาดเท่ากำปั้นลูกหนึ่งปรากฏขึ้นมา
ขณะที่ลูกบอลกลมนี้เพิ่งจะปรากฏตัวขึ้นนั้น ก็ปลดปล่อยอักษรยันต์ที่ถี่ยิบออกมา
อักษรยันต์แผ่กระจายออกไป ราวกับหลอมรวมเข้าไปกับฟ้าดิน
ชั่วพริบตาเดียว ก็ปรากฏมีกลิ่นอายปกคลุมไปทั่วทั้งฟ้าดินทันที
สายตาหลินหยุนส่องประกายวาววับ ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเช่นกัน
ลูกบอลกลมนี้ถึงกับเป็นเครื่องรางยันต์ที่ปิดกั้นเก้าชั้นชิ้นหนึ่ง
ในตัวปลดปล่อยกระแสคลื่นพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวของธาตุโลหะ ธาตุดิน และธาตุสายฟ้าออกมา
ดูไปแล้วพื้นฐานการฝึกฝนวิชายันต์ของท่านเฒ่ายันต์นี้ ก็อยู่บนเครื่องรางยันต์ที่ปิดกั้นเก้าชั้นชิ้นนี้ทั้งหมด
พลังสายฟ้าที่ไม่มีวันหมดสิ้นก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ราวกับว่าขอเพียงสายฟ้าฟาดลงมาแค่ครั้งเดียว ก็สามารถทำให้โลกนี้แตกละเอียดจนหมดสิ้นแล้ว
“ไอ้เด็กเปรต!”
“สามารถบีบคั้นให้ฉันใช้ของล้ำค่าชิ้นนี้ออกมาได้ ตอนลงไปอยู่ในนรก แกก็ควรจะรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงแล้ว!”
“ไปตายเสียเถอะ!”
“โป้ง_____”
“แก็กๆ_____”
ในที่สุดเทพสายฟ้าที่ทลายโลกได้ก็ฟาดลงมา
เทพสายฟ้านี้ราวกับว่ามีชีวิตจิตใจ
มุ่งตรงไปล็อกตัวหลินหยุนไว้ทันที
หลินหยุนก็ขมวดคิ้ว
แล้วกระโดดลอยตัวขึ้นกลางอากาศอีกครั้งหนึ่ง
พลังสายฟ้าแลบที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ ทำให้เขารับรู้ถึงภัยอันตรายอันใหญ่หลวง
“ข้ามีกระบี่หนึ่งเดียว สามารถทะลุสวรรค์ได้!”
ดาบทะลุสวรรค์แสดงออกมาแล้ว
พลังเทพทลายฟ้าดินที่แท้จริงก็ปรากฏออกมาทันที
เข้าปะทะกับเทพสายฟ้าที่กำลังฟาดลงมาอย่างจัง
ในเวลานี้เอง
แส้ขังวิญญาณที่แปลกประหลาดนั้นก็ฟาดลงมา
ติ่งเล็กของผู้อาวุโสใหญ่สำนักสุริยันก็ปกคลุมไปทั่วทั้งฟ้าดิน
“โคลมๆๆๆๆ!”
“ปั้ง!”
ฟ้าดินสั่นสะเทือน
พลังแรงมหาศาลปะทะเข้าด้วยกัน เกิดพลังเทพยิ่งใหญ่ที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมา
ภายใต้พลังดาบทะลุสวรรค์ที่โจมตีลงมา ติ่งเล็กที่ปกคลุมทั่วทั้งฟ้าดินนั้นก็ระเบิดจนแตกละเอียดก่อนเป็นอันดับแรก
ต่อจากนั้นก็คือแส้ขังวิญญาณก็ถูกกวาดต้อนจนร่วงตกลงไปทั้งหมด
สุดท้ายก็คือลูกบอลเครื่องรางยันต์ที่ปิดกั้นอากาศก็เช่นเดียวกัน เสียงระเบิดแตกละเอียดดังแก๊กๆๆออกมา
ลมปราณกระบี่กวาดต้อนไปทั่วทั้งฟ้าดิน
ร่างของทั้งสามคนต่างกระเด็นถอยออกไป
เนื้อตัวก็ถูกลมปราณกระบี่กวาดผ่านจนเป็นแผลยับเยิน
เลือดสดๆปริมาณมากก็พวยพุ่งออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...