จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1178

หลังจากเดินได้สักพัก ซิงเฟยก็ดึงไหล่ของหลินหยุนไว้ทันที เธอรีบพูด "คุณจะไปหาเรื่องสำนักสุริยันจริงๆเหรอ?"

หลินหยุนส่ายหัวและพูดอย่างเบาๆ "ไม่ไป!"

ซิงเฟยถอนหายใจลึกๆ เธอตบหน้าอกตัวเองเบาๆ "ไม่ไปก็ดีแล้ว! ฉันคิดว่าคุณจะไปหาเรื่องพวกเขาจริงๆ……"

"ไม่จริง!"

"ถ้าคุณไม่ไปหาเรื่องสำนักสุริยัน แล้วก่อนหน้านี้คุณถามสำนักสุริยันจากฉันทำไม?"

"คุณมาที่นี่ทำไม?"

หลินหยุนเดินไปด้วยและพูดไปด้วย "ไม่มีอะไร!"

ซิงเฟยรีบวิ่งขึ้นไปอยู่ด้านหน้าของหลินหยุนและหยุดเขาเอาไว้

"ฉันจะบอกคุณ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย คุณอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามจนต้องเอาชีวิตไปแลกเลย!"

"คุณคิดว่าตัวเองสังหารผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักสุริยันไปแล้ว คุณก็สามารถเหยียบสำนักสุริยันไว้ใต้เท้าตัวเองเหรอ?"

"ถ้าคุณคิดอย่างนั้นจริงๆ คุณก็ห่างจากความตายไม่ไกลแล้ว!"

"เฮ้ คุณฟังคำพูดของฉันอยู่หรือเปล่า?"

หลินหยุนพูดเบาๆ "คุณคิดว่าฉันไม่ประมาณตน เหมือนเอาไข่ไปกระแทกหินใช่ไหม?"

ซิงเฟยเปล่งเสียงไม่พอใจออกมาและพูด "ไม่ใช่เหรอ?"

"ฉันจะบอกให้คุณทราบ เจ้าสำนักสองคนของสำนักสุริยัน!"

"เจ้าสำนักใหญ่ชื่อฉิวหรงเก็บตัวฝึกฝนตลอดเวลา! เขาแข็งแกร่งแค่ไหน ไม่มีใครสามารถรู้ได้!"

"เจ้าสำนักรองชื่อซ่านเต้า เมื่อหลายสิบปีก่อน เขาก็เป็นยอดฝีมือถึงแดนยาทองระดับห้าแล้ว

"ฉิวหรงคนนั้นต้องแข็งแกร่งกว่าซ่านเต้าอย่างแน่นอน!"

คุณสังหารผู้อาวุโสสองคนของสำนักเขา ตอนนี้ยังมาหาเรื่องถึงสำนักเขาอีก ผลที่จะตามมานั้นยากที่จะคาดเดาได้?"

เมื่อหลินหยุนได้ยินคำพูดเหล่านี้ ดวงตาของเปล่งประกายทันที

ยอดฝีมือแดนยาทองระดับห้าเหรอ?

แข็งแกร่งจริงๆ!

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ตั้งใจจะไปต่อสู้กับอีกฝ่ายอยู่แล้ว

ขอเพียงอีกฝ่ายรับปากว่าจะไม่ไปหาเรื่องตระกูลฉินก็พอแล้ว!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินหยุนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขายังคงเดินไปยังเมืองสุริยันอย่างช้าๆ

ซิงเฟยรีบเดินตามเขาทันที

เมืองสุริยันไม่เพียงใหญ่กว่าเมืองมี่หยุน แต่มันยังดูเจริญรุ่งเรืองมากกว่าเมืองมี่หยุนด้วย

ขณะเดินอยู่ ซิงเฟยก็อธิบายให้หลินหยุนฟัง "เมืองสุริยันถูกสร้างขึ้นโดยสำนักสุริยัน สำหรับทรัพยากรส่วนใหญ่ที่อยู่รอบๆเมืองสุริยัน ทั้งหมดจะเป็นของสำนักสุริยัน"

"แต่ภายในตัวเมืองก็มีตระกูลอื่นๆที่มีอิทธิพลอยู่ด้วย!"

"ผู้มีอิทธิพลอันดับหนึ่งก็คือหอไป่เต้า!"

"เรื่องนี้คุณก็น่าจะรู้จัก ตอนที่คุณอยู่เมืองมี่หยุน!"

"ทั่วทั้งโลกคุนชาง พวกเขาเป็นองค์กรค้าขายที่ลึกลับมากๆและใหญ่มากๆด้วย นั่นก็คือหอไป่เต้า"

"นอกจากหอไป่เต้าแล้ว ตระกูลที่เหลือก็มีความสัมพันธ์ต่างๆกับสำนักสุริยันด้วย!"

"อย่างเช่นตระกูลฉิวที่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าสำนักใหญ่ ตระกูลซ่านที่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าสำนักรอง และตระกูลจงที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้อาวุโสใหญ่ที่โดนคุณสังหารไปแล้ว"

"ถ้าให้ดี คุณต้องระมัดระวังตัวหน่อย ถ้าคุณไปเจอคนของตระกูลเหล่านี้ และโดนอีกฝ่ายล่วงรู้ว่าคุณเป็นหลินหยุน คุณต้องแย่แน่ๆ!"

หลินหยุนได้ยินซิงเฟยอธิบายเรื่องต่างๆแล้ว ทำให้ดวงตาของเขาเปล่งประกายทันที

เขาเปลี่ยนแปลงมุมมองที่ตัวเองมีต่อซิงเฟยทันที

ซิงเฟยพูดอย่างภาคภูมิใจ "เรื่องพวกนี้ไม่เท่าไหร่เลย มันเป็นแค่เรื่องเล็กๆเท่านั้น! ฉันในฐานะจอมยุทธหญิงอันดับหนึ่งของโลกคุนชาง ทำให้ฉันรู้เรื่องของโลกคุนชางเป็นอย่างดี!"

เอ่อ เธอเริ่มคุยโม้โอ้อวดอีกแล้ว!

หลินหยุนไม่อยากสนใจเธออีก เขารีบเดินไปข้างหน้าทันที

เขาหาโรงเตี๊ยมสำหรับนักบำเพ็ญเซียนแห่งหนึ่งแล้วเข้าพัก

หลินหยุนไม่ได้รีบร้อน หลังจากเข้าห้องพักแล้ว เขาก็สร้างค่ายกลรวมพลังขึ้นมาและนั่งลงด้านใน และเขาก็เริ่มฝึกฝนทันที

แดนยาทองมีเก้าชั้น หนึ่งชั้นคือหนึ่งระดับ

ตอนนี้เขาอยู่ในระดับหนึ่งเท่านั้น

กำลังสร้างรากฐานของแดนยาทอง

ตอนนี้ เขาหาร่างแยกของเย่เยว่เจอแล้ว แต่ตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าร่างจริงของเย่เยว่อยู่ที่ไหน ทำให้หลินหยุนรู้สึกกดดันและต้องฝึกฝนให้ตัวเองแข็งแกร่งมากขึ้นเร็วๆ

เขาต้องฝึกฝนพลังให้เพิ่มขึ้นโดยเร็วที่สุด เขาถึงจะสามารถออกจากโลกมนุษย์ เพื่อไปตามหาร่างจริงของเย่เยว่

"ใช้หินสังเวยจิตสร้างรากฐานแดนยาทอง สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ มันสามารถใช้สมบัติทั่วฟ้าดินของธาตุต่างๆอันไหนก็ได้มาสร้างรากฐาน!"

"แต่สมบัติทั่วฟ้าดินนั้นหายากมากๆ……"

"ไม่รู้จริงๆว่าในโลกคุนชาง จะหาสมบัติทั่วฟ้าดินเจอไหม!"

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ทำให้หลินหยุนหยุดการฝึกฝนทันที เขาหยิบกระดาษและพู่กันออกมา และเขียนชื่อสมบัติทั่วฟ้าดินหลายร้อยอย่างออกมา

จากนั้นเขาก็ไปที่ห้องพักของซิงเฟย

เมื่อมองเห็นหลินหยุนเปิดประตูเข้ามา เดิมทีซิงเฟยนั่งแช่เท้าอยู่ปลายเตียง จู่ๆเธอก็กลิ้งขึ้นไปบนเตียงทันที

จากนั้นก็รีบดึงผ้าห่มมาปิดร่างกายของเธอทันที

เธอรู้สึกตกใจมากๆและมองหลินหยุนแล้วพูด "คุณห้ามเข้ามานะ! คุณคิดจะทำอะไร? ฉันขอเตือนคุณ! ฉันมีพลังที่แข็งแกร่งมากๆ ไอ้ลามกอย่างคุณอย่าคิดไม่ซื่อเด็ดขาด! มิฉะนั้น ฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ!"

หลินหยุนหมดคำพูดทันที และเขาก็จ้องเขม็งไปที่เธอ

จากนั้นเขาก็ดีดนิ้ว กระดาษที่อยู่ในมือก็ปลิวไปอยู่ด้านหน้าของซิงเฟยทันที

"คุณลองดูสิ ชื่อของสิ่งของที่เขียนอยู่ในกระดาษ คุณเคยได้ยินมาบ้างไหม!"

"มันคืออะไรเหรอ?"

ซิงเฟยอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นก็ยื่นมือออกไปจับกระดาษใบนั้น

ด้านบนมีชื่อของสิ่งของมากมาย

แต่เธอไม่เคยได้ยินชื่อพวกนี้มาก่อนเลย

"คุณเขียนอะไรกันแน่?"

"ฉันไม่เคยได้ยินสิ่งของที่อยู่ในกระดาษแม้แต่อย่างเดียวเลย!"

"ของพวกนี้คือสมบัติทั่วฟ้าดินเหรอ?"

หลินหยุนถอนหายใจและรู้สึกผิดหวัง"ใช่แล้ว มันคือสมบัติทั่วฟ้าดินที่ล้ำค่ามากๆ"

เมื่อซิงเฟยได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอรีบดูกระดาษอีกครั้ง และพูดด้วยความสงสัย "เป็นไปได้ยังไง? ถ้าเป็นสมบัติทั่วฟ้าดิน ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินแม้แต่อันเดียว?"

หลินหยุนอึ้งไปเลย

สายตาของเขาเปล่งประกายอีกครั้งและพูด "ถ้างั้นคุณรู้ไหมว่าในโลกคุนชาง มีสมบัติทั่วฟ้าดินอะไรบ้าง?"

ซิงเฟยครุ่นคิดชั่วครู่และพูด "ฉันรู้มาบ้างเหมือนกัน อย่างเช่นเส้นปราณดินแก้วเจ็ดสมบัติที่อยู่ในใต้ดินของสำนักฉีซาน มีตำนานเล่าว่าเส้นปราณดินอันนี้มีแก้วสารจิงด้วย"

"ยังมีวิหารผนึกวิญญาณด้วย ว่ากันว่าประมุขคนแรกขององค์กรนี้ เขาคือลูกศิษย์โง่ๆที่ถูกขับไล่ออกมาจากสำนักเต๋าแห่งหนึ่ง"

"จากนั้นเขาก็เข้าไปในหุบเขากั่นวิญญาณโดยบังเอิญ"

"ในหุบเขากั่นวิญญาณมีสารจิงวิญญาณดำ ทำให้ประมุขคนแรกใช้สารจิงวิญญาณดำในการฝึกฝน จนกลายเป็นยอดฝีมือที่ร้ายกาจมากๆ ดังนั้นสารจิงวิญญาณดำก็คือหนึ่งในสมบัติทั่วฟ้าดินที่ล้ำค่ามากๆของโลกคุนชาง"

เมื่อหลินหยุนได้ยินคำพูดเหล่านี้ ทำให้เขาครุ่นคิดทันที

แก้วสารจิงกับสารจิงวิญญาณดำเหรอ?

สิ่งของสองอย่างนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นสมบัติทั่วฟ้าดินเหมือนกัน

นอกจากว่ามันจะเป็น"สารจิงล้ำเลิศ"เท่านั้น

ไม่งั้น มันก็คงไม่ใช่สมบัติทั่วฟ้าดินที่เขาต้องการ

หลินหยุนส่ายหัวและพูดอย่างเบาๆ "ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณช่วยอธิบายสมบัติทั่วฟ้าดินของโลกคุนชางทั้งหมดที่คุณรู้ให้ฉันฟังหน่อย!"

ซิงเฟยพูดด้วยความสงสัย "คุณจะหาสมบัติทั่วฟ้าดินเหรอ?"

"วิธีค้นหาแบบนี้ของคุณมันไม่โอเคเลย?"

"ถึงแม้ตอนนี้โลกคุนชางจะสมบัติทั่วฟ้าดินเหลืออยู่บ้าง แต่ของพวกนี้ก็โดนสำนักที่แข็งแกร่งต่างๆเอาไปหมดแล้ว !"

"สำหรับสมบัติทั่วฟ้าดินที่ไม่เคยปรากฏตัว คุณอย่าไปคิดถึงมันเลย!"

"ถึงแม้คุณจะรู้ว่ามันอยู่ไหน คุณจะสามารถเอามาครอบครองได้เหรอ?"

"ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมตอนนี้คุณหาสมบัติทั่วฟ้าดินเยอะขนาดนั้นด้วย?"

ซิงเฟยไม่เข้าใจจริงๆ

ในความคิดของเธอ หลินหยุนได้เข้าสู่แดนยาทองแล้ว

ถึงแม้จะต้องสร้างรากฐานเก้าชั้นให้สำเร็จ แต่ก็ไม่ควรใช้สมบัติทั่วฟ้าดินที่แตกต่างกันขนาดนี้

เพราะไม่เคยมีใครใช้สมบัติทั่วฟ้าดินมาสร้างแดนยาทอง

ถึงแม้สมบัติทั่วฟ้าดินมีจะธาตุที่เหมือนกันอยู่ แต่จะหาธาตุที่เหมือนกันเยอะขนาดนั้นจากไหน?

สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ ยาทองของหลินหยุนนั้นคือยาทองระดับเทพ และใช้หินสังเวยจิตในการสร้างรากฐานแดนยาทอง

มันไม่จำเป็นต้องใช้ธาตุเดียวกันเลย

หลินหยุนไม่ได้พูดอะไรมาก เขาหันหลังและเดินกลับไปห้องพักของตัวเองทันที

หลังจากแสงปรากฏ เย่เยว่ก็เดินออกมาจากจี้หยกอีกครั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์