หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “ไม่ร้ายแรงถึงขนาดนั้นหรอก! รอให้ฉันหาคนนั้นให้เจอก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
หลินหยุนไม่รีบร้อนจริงๆ ยังไงเสียก็ได้มาถึงโลกคุนชางแล้ว
อีกอย่างในโลกคุนชางนี้ ทำให้เขาค้นพบสิ่งที่คาดคิดไม่ถึงอีกมากมายด้วย
มิหนำซ้ำ ยังมีความหวังในการเก็บรวบรวมของวิเศษสำหรับกลั่นยาให้ได้ทั้งหมดอีกด้วย
เมื่อไหร่ที่สามารถทำสำเร็จ เขาก็จะรีบหาทางไปจากโลกใบนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อจะไปตามหาเย่เยว่แล้ว
ถ้าจะจากไป อย่างน้อยก็จะต้องเข้าแดนจิตปฐมก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วจะไม่มีพลังในการปกป้องตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะไปตามหาและช่วยปลดปล่อยเย่เยว่ได้เลย
เมื่อคิดถึงเย่เยว่แล้ว หลินหยุนก็อดไม่ได้ที่จะกังวลใจขึ้นมา
ซิงเฟยพูดอย่างไม่มีทางเลือกว่า “หวังว่าคุณคงรู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่นะ!”
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไรอีก ทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในเมือง
ระดับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองเทียนหยุนนั้น ไม่ใช่ที่เมืองสุริยันและเมืองซิงหงจะสามารถเทียบทันได้เลยจริงๆ อีกอย่างก็ยังมียอดฝีมือจำนวนมากด้วย
หลังจากหยั่งรู้จากจิตสัมผัสแล้ว ก็รู้ว่ารอบๆบริเวณมีผู้บำเพ็ญตนอยู่จำนวนไม่น้อยเลย เพียงแต่ว่าพลังฝึกฝนส่วนใหญ่แล้วยังนับว่าไม่ค่อยสูงเท่าไหร่นัก
ทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในถนน ได้ยินเสียงร้องตะโกนที่ดังอึกทึกครึกโครม ก็มีรสชาติแปลกไปอีกแบบหนึ่ง
ซิงเฟยก็หันหน้ามาถามว่า “ต่อจากนี้คุณคิดจะวางแผนทำอะไร? หาโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งเข้าพักเหรอ?”
หลินหยุนครุ่นคิดสักครู่ แล้วพูดว่า “ในเมืองนี้น่าจะมีสถานที่พักสำหรับผู้บำเพ็ญเซียนเช่าอาศัยเป็นเวลายาวนานบ้าง พวกเราไปหาที่พักแบบนั้นดีกว่านะ!”
ซิงเฟยอึ้งไปทันที ดวงตาที่สะสวยกะพริบไปมา แล้วพูดว่า “คุณยังจะคิดทำสงครามยืดเยื้ออีกเหรอ?”
หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “เมืองนี้น่าจะไม่เลวเลย ค่อนข้างเหมาะสำหรับผู้บำเพ็ญเซียน ถ้าได้พักอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวทีเดียว!”
ประเด็นนี้ซิงเฟยกลับเห็นด้วยเช่นกัน
แต่ว่ายังคงขมวดคิ้วแล้วถามว่า “งั้นคุณควรจะคิดให้ดี ที่นี่คงไม่เหมือนเมืองเทียนเฟิงพวกเราและเมืองมี่หยุน ถ้าหากจะหาที่พักแบบนั้นอยู่ละก็ จะต้องใช้หยดชี่ทิพย์จำนวนมากมายเลยทีเดียว!”
“ในตัวคุณน่าจะไม่มียายั้งอายุอยู่อีกแล้วใช่ไหม?”
เมื่อตอนที่อยู่เมืองซิงหงนั้น หลินหยุนจะซื้อวัตถุดิบหลายชนิดพวกนั้น ก็ได้ขายยายั้งอายุไปสองเม็ด จึงจะรวบรวมหยดชี่ทิพย์จนครบ
หลินหยุนพูดว่า “ไม่เป็นไร เรื่องหยดชี่ทิพย์ไม่ใช่เป็นปัญหาเลย!”
ซิงเฟยเหลือบตามองบนทันที “ฉันเคยเห็นที่คนขี้โม้มามาก แต่ยังไม่เคยเห็นคนที่ขี้โม้ได้อย่างคุณเลย หยดชี่ทิพย์ไม่ใช่ปัญหา คุณพูดออกมาได้ยังไงฉันไม่เข้าใจเลย!”
“ถูกต้อง คุณสามารถที่จะหลอมเครื่องรางออกมาได้!”
“แต่ว่าการหลอมเครื่องรางไม่ต้องการวัตถุดิบหรือยังไง?”
“ตอนนี้แม้แต่วัตถุดิบคุณก็ยังซื้อไม่ไหวเลย!”
หลินหยุนพลิกฝ่ามือขึ้น หยิบเอายายั้งอายุออกมาหนึ่งเม็ดแล้วพูดว่า “ยายั้งอายุหนึ่งเม็ด น่าจะเพียงพอแล้วนะ!”
ซิงเฟยพูดอย่างตกใจทันทีว่า “ทำไมคุณยังมีอีกล่ะ? คุณมีโอสถพวกนี้ทั้งหมดกี่เม็ดกันแน่?”
ก่อนหน้านั้น ตอนที่หลินหยุนออกจากบ้านตระกูลฉินไปนั้น ได้ให้เธอและฉินเหมยคนละหนึ่งเม็ดแล้ว
ตอนที่ไปหาซื้อวัตถุดิบที่เมืองซิงหง ก็ได้ขายไปสองเม็ดแล้ว นั่นก็ทำให้ซิงเฟยรู้สึกช็อกมากพอแล้ว
เพราะว่ายายั้งอายุพวกนี้ ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่เหมาะสมแล้ว หรือว่าได้พบกับคนซื้อที่เหมาะสม งั้นจะต้องได้ราคาที่สูงจนประเมินค่าไม่ได้เลย
หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “พวกเราไปหาร้านค้าประมูลโดยเฉพาะหรือไม่ก็ตลาด แล้วนำโอสถนี้ไปขายซะ!”
สำหรับหลินหยุนแล้ว ยายั้งอายุไม่ได้มีคุณค่าอะไรเลย ในตัวของเขาก็ยังมีอีกหลายเม็ดด้วยซ้ำไป
แต่นั่นเหลือไว้ให้กับแม่แก่และพี่ฉินหลัน ไม่สามารถที่จะเอาออกมาขายได้เลย
ซิงเฟยเหลือบตามองบน
ได้!
แกกระเป๋าหนักมือเติบพอยัง!
โอสถชนิดนี้ ก็ยังสามารถหยิบออกมาได้เม็ดต่อเม็ดเลย!
ที่หอไป่เต้า
ทั้งสองคนก็เดินมาถึงหน้าประตู แล้วก้าวเท้าเข้าไปข้างใน
ในไม่ช้า
หญิงสาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้ม
มองไปยังหลินหยุนซิงเฟย แล้วพูดเสียงเบาว่า “ท่านทั้งสองต้องการอะไรบ้างคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...