จางฟาฉายก็ไม่ได้ถามอะไรอีกต่อไป ครุ่นคิดสักครู่หนึ่ง แล้วก็เสนอราคาออกมา
สี่พันหยดชี่ทิพย์
นี่ทำให้ซิงเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
เดิมทีเธอคิดว่า ราคาที่นี่จะต้องดีกว่าที่เมืองซิงหงอย่างแน่นอน แต่กลับคิดไม่ถึงว่า ยังต่ำกว่าถึงสามร้อยชี่ทิพย์ด้วยซ้ำ
ซิงเฟยส่ายหน้าแล้วพูดว่า “เถ้าแก่จาง ถ้าเป็นราคาอย่างนี้ งั้นเกรงว่าคงไม่สามารถขายให้กับร้านของท่านแล้วล่ะ!”
จางฟาฉายพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แม่นาง งั้นคุณอยากจะได้ราคาเท่าไรล่ะครับ?”
ซิงเฟยพูดว่า “หกพันหยดชี่ทิพย์!”
จางฟาฉายส่ายหน้าแล้วพูดว่า “สูงไป! อย่างนี้ก็แล้วกัน พวกเราพบกันครึ่งทาง ต่างถอยคนละก้าว งั้นก็ห้าพันหยดชี่ทิพย์ก็แล้วกัน!”
สีหน้าของซิงเฟยรู้สึกดีขึ้นหน่อย พูดว่า “ได้เลย ก็ราคานี้แล้วกัน”
เจรจาซื้อขายสำเร็จแล้ว ซิงเฟยก็สืบหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในของเมืองเทียนหยุน จางฟาฉายก็บอกเล่าให้ฟังทั้งหมด
ทั้งสองคนต่างก็รู้สึกพอใจกันทั้งสองฝ่าย
……
เดินออกมาจากหอไป่เต้าแล้ว หลินหยุนและซิงเฟยก็มุ่งหน้าไปยังทางใต้ของเมือง
ทางใต้ของเมืองมีโรงเตี๊ยมเยว่หลายแห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ที่ให้บริการผู้บำเพ็ญเซียนทั้งหลายโดยเฉพาะ
พวกเขาไม่ได้สร้างเป็นห้องพักอะไรเลย แต่เป็นวิมาน
วิมานแต่ละแห่งนั้น ต่างก็มีค่ายกลรวมพลังอยู่ด้วย เหมาะสำหรับผู้บำเพ็ญเซียนมากที่สุด แต่ว่าราคาก็สูงไม่เบาเช่นกัน
ในไม่ช้า ทั้งสองคนก็มาถึงหน้าประตูโรงเตี๊ยมเยว่หลายแล้ว
กำลังจะเข้าไป ก็มีชายหนุ่มหญิงสาวกลุ่มคนเดินมาทางนี้
หญิงสาวหนึ่งในนั้นเมื่อเห็นซิงเฟยแล้ว ก็รีบตะโกนเรียกว่า “เฟยเฟย? เป็นแกจริงๆด้วย! แกทำไมมาที่เมืองเทียนหยุนได้ล่ะ?”
เมื่อได้ยินเสียงของผู้หญิงนั้นแล้ว ซิงเฟยก็รีบหยุดเดินแล้วหันหน้าไปมอง
เมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นแล้ว ซิงเฟยก็อึ้งไปเช่นกัน จากนั้นก็พูดด้วยเสียงหัวเราะเบาๆว่า “ที่แท้ก็คือเสี่ยวหลิงนี่เอง!”
หญิงสาวและชายหนุ่มคนอื่นๆก็รีบเดินเข้ามาหา
พวกเขาก็มองสำรวจซิงเฟยและหลินหยุนจากหัวจรดเท้าเช่นกัน
เมื่อเห็นซิงเฟยแล้ว ต่างก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจ แต่ว่าเมื่อมองดูหลินหยุน ที่แต่งกายแสนจะธรรมดาเหลือเกิน อีกทั้งยังไม่มีกลิ่นอายของผู้บำเพ็ญเซียนปรากฏออกมาเลย สายตาทุกคนต่างก็แสดงความรังเกียจเล็กน้อยออกมา
หญิงสาวที่ซิงเฟยเรียกเธอว่า“เสี่ยวหลิง”นั้น ก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า “เฟยเฟย ฉันคิดไม่ถึงจริงๆเลย ถึงกับได้มาเจอแกที่เมืองเทียนหยุนนี้ ดีใจจริงๆเลย!”
ซิงเฟยก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ติงหลิง ดูท่าทางแกแบบนี้แล้ว น่าจะอยู่ที่สำนักเทียนหยุนได้ไม่เลวเลยสิ!”
ติงหลิง มาจากตระกูลติงแห่งเมืองเทียนเฟิง อายุก็ไล่เลี่ยกับซิงเฟย
ทั้งสองคนต่างก็โตมาด้วยกัน ประกอบกับความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลซิงกับตระกูลติง ไม่เลวเลย ดังนั้น ทั้งสองคนจึงสนิทสนมกันเป็นอย่างดี
แต่ว่าเมื่อหลายปีก่อนนั้น ตระกูลติงได้ทุ่มเงินไปจำนวนมาก เพื่อวิ่งเต้นส่งให้ติงหลิงเข้ามาฝึกฝนอยู่ที่สำนักเทียนหยุน
ประกอบกับพรสวรรค์ในการฝึกฝนของตัวติงหลิงเองก็ไม่เลว อีกทั้งยังเป็นคนที่ฉลาดเจ้าเล่ห์อีกด้วย ดังนั้นถึงแม้ว่ายังไม่ได้เป็นศิษย์เอกของสำนักเทียนหยุนก็ตาม แต่ก็นับว่าอยู่กับสำนักเทียนหยุนได้อย่างมั่นคง
ติงหลิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันนี่ไม่เท่าไหร่หรอก! ใช่แล้วเฟยเฟย ฉันขอแนะนำเพื่อนๆให้แกรู้จักหน่อย!”
“คนนี้ชื่ออู่เหลียน ศิษย์น้องเล็กของฉัน”
“นี่คือหลิ่วหยาง นี่คือถังเหมิง ต่างก็เป็นศิษย์น้องของฉันทั้งนั้น”
“ยังมีคนนี้......”
“คนนี้เก่งกาจน่าดูเลย ฉันจะบอกแกให้นะ ฐานะของคนนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...